ไหว้พระตรีมูรติและพระพิฆเนศ @ Central World

ไปไหว้เมื่่อนานมาแล้วเพิ่งมีโอกาสได้โพส ทีแรกไม่เคยรู้จนแม่เจ้า บอกให้ไปไหว้
ก็เลยเอ๊ะ! หน้าเซ็นทรัลเวิลด์มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร ตอนนั้นไปแถวแพทตินัมก็เลยแวะไปไหว้

องค์แรกคือพระตรีมูรติ หรือ เทพทัตตาเตรยะ เทพแห่งความรัก

เป็นร่างรวมของเทพทั้งสาม ได้แก่ พระพรหม พระนารายณ์(พระวิษณุ) และพระอิศวร(พระศิวะ) ซึ่งมีพลังทั้งสามคือ สร้างโลก รักษาโลกและทำลายโลก เป็นผู้ปรารถนาความสำเร็จสมหวังในทุกสิ่งทุกอย่าง ใครบูชาพระตรีมูรติพระองค์จะไม่ทิ้งเรา จะทำให้ประสบความสำเร็จ ความเจริญ  ทั้งในชีวิต ความรักและหน้าที่การงาน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเทพเจ้าแห่งความรัก คนส่วนใหญ่ก็มักจะไปขอให้สมหวังในความรัก

การบูชาจะใช้เพื่อให้สมหวังในความรัก จะใช้ดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก หรือพวงมาลัยกุหลาบ 1 พวง พร้อมกับธูปสีแดง 9 ดอก เทียนสีแดง 1 เล่ม สำหรับคนที่มีคู่แล้ว ให้ใช้เทียนสองเล่มแนบชิดกัน เพื่อความแนบแน่นในชีวิตรัก เวลาที่ดีที่สุดที่จะไปขอพรคือ วันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น.เชื่อว่าเป็นเวลาที่เทพจะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อรับคำและประทานพรให้แก่ผู้ขอ

คำสวดบูชาพระตรีมูรติ คือ คำว่าโอม แค่เพียงเอ่ยว่า โอม ก็เหมือนการเอ่ยนามของเทพเจ้าทั้งสาม
ซึ่งโอม มาจาก โอมะ(พระพรหม) อะ(พระวิษณุ) อุ(พระศิวะ)

ดอกไม้ธูปเทียนถ้าไม่เตรียมไปเองที่บริเวณนั้นก็มีขายอยู่ตรงฟุตบาทข้างๆ สะพานลอย
แถมคำสวดขอพรให้ด้วย ซึ่งตรงที่ไหว้ก็มีคำสวดขอพรให้อ่านเช่นกัน

ดอกกุหลาบมากมายที่วางอยู่บริเวณนั้นแสดงว่าคนมาขอพรเรื่องความรักเยอะจริงๆ

หากขอพรแล้วสมหวัง ให้ถวายของแก้บนเป็นของหวานอะไรก็ได้หรือเครื่องดื่ม เช่น น้ำมะพร้าว น้ำอ้อย นมสด แต่ห้ามถวายอาหารคาวทุกชนิด

พระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จ
อยู่ในบริเวณเดียวกันกับพระตรีมูรติ พระพิฆเนศ มีเศียรเป็นช้าง กายเป็นมนุษย์ เป็นเทพที่มีความสำคัญและมีฤทธิ์มาก มีความเฉลียวฉลาด มีคุณธรรม คอยช่วยเหลือปกป้องจากสิ่งชั่วร้ายและเป็นยอดกตัญญู เป็นเทพแห่งปราชญ์ ความรอบรู้ต่างๆ เป็นเทพแห่งขจัดอุปสรรคความขัดข้อง ดังนั้นหากผู้ใดเป็นผู้รู้และประสบความสำเร็จต่อกิจการก็มักจะบูชาพระพิฆเนศ

การบูชาพระพิฆเนศ เท่าที่เห็นจะใช้มาลัยดอกดาวเรืองและก็ธูปกำยาน(ถ้าซื้อแถวนั้นจะจัดให้เป็นชุด) เคยอ่านมาว่า จำนวนธูปที่ใช้จุด บูชาโดยปกติ ใช้ธูป 16 ดอก ถ้าขอเรื่องสำคัญและเร่งด่วนใช้ 39 ดอก ถ้าต้องการรังสีจากท่าน เพื่อให้บรรลุความสำเร็จใช้ธูป 8 ดอก

วันนั้นที่ไปก็ไม่ได้ใช้อะไรบูชาท่านเลย ไปแค่ไหว้และสวดคำอธิษฐานขอพรเท่านั้น
ถ้าใครจะไปไหว้ขอพร จะอยู่บริเวณลานด้านหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ทางด้านซ้าย

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

ข้อมูลจาก geocities/thaiganesh และ sanook.com

56 comments on "ไหว้พระตรีมูรติและพระพิฆเนศ @ Central World"

fuka's picture
fuka (visitor) said on Mon, 05/04/2009 - 20:17:

อยากไปเหมือนกัน...แล้วไว้จะไปนะ
ขอให้หมดทุกอย่างเลย..ไหนๆ ก็ไหนๆ อ่ะนะ...

BERT's picture
BERT (visitor) said on Sat, 01/02/2010 - 16:13:

นั่นพระศิวะจ้า ไม่ใช่พระตรีฯ
เพราะว่านั่นคือปาง ปัญจมุข ของพระศิวะ
หรือหากเป็นพระตรีมรติจริงก็น่าจะมี 6 มากกว่า 5 จ้า

นnok's picture
นnok (visitor) said on Tue, 01/12/2010 - 13:22:

นก จะไปวันพฤหัสนี่อ่ะ..จะไปขอพร*-*

sa's picture
sa (visitor) said on Sat, 01/23/2010 - 22:11:

มีคู่แล้วแต่ไม่รู้จะคบกันได้ยืดไหม...อยากให้เค้ารักเราได้ปะ????

bombik's picture
bombik said on Sun, 01/24/2010 - 16:39:

ไปไหว้ขอพรให้สมหวังในความรัก มีคู่แล้วก็น่าจะได้นะคะ

k-doll's picture
k-doll (visitor) said on Sun, 01/24/2010 - 22:29:

นั่นเป็นพระตรี จ๊ะ
บางคนอาจกล่าวว่าเป็นพระ ศิวะ 5 เศียร
แต่ นั่นไม่ใช่องค์มหาศิวะเทพนะ

เพราะว่าพระตรี ณ ที่มีเป็น ลักษณะของ เขมร&ไทย
แบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่เป็นเศียรที่ 5 ด้านบนสุดมีพระจันทร์ แทนองค์มหาศิวะเทพ
ลงมามีเศียร 4 เศียร แทนองค์มหาพรหม
ส่วนพระกรทั้ง 4 นั้นแทนองค์มหาวิษณุนารายณ์ เพราะว่าพระองค์มี 4 พระกร
ส่วนเบื้องล่างพระองค์ทรงเหยียบยักษ์ไว้
โดยถ้าเป็นความเชื่อฮินดูนั้นจะเป็นอีกแบบนึง
คือ มหาเทพทั้ง 3 จะประทับยืนอยู่ด้วยกัล
หรือร่างเดียว แต่มี 3 พระเศียร 6 พระกร จ๊ะ
โดยถ้าจะบูชาท่านก้อควรบูชาวันพฤหัส นะจ๊ะ

ก้อเป็นด้วประการฉะนี้

โอม ศรี สะระวัน ภะวายะ นะมะฮา
พระขันธกุมารจงเจริญ

bombik's picture
bombik said on Wed, 02/03/2010 - 11:39:

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

a-jung's picture
a-jung (visitor) said on Mon, 02/01/2010 - 20:56:

เมื่อวานนี้ไปไหว้มา...รู้สึกสบายใจมาก(จริงๆนะ...บอกไม่ถูกอ่ะ)
ขอให้สมหวังทีเถอะ

bombik's picture
bombik said on Wed, 02/03/2010 - 11:39:

ขอให้สมหวังนะคะ ^_^

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Wed, 02/17/2010 - 23:19:

ยังจำได้ไหมว่าที่ไหนเอ่ย

^3^'s picture
^3^ (visitor) said on Sun, 02/21/2010 - 13:58:

ใครเคยขอแล้วสมหวังบ้างค่ะ ตอนนี้กำลังมีปัญหากับแฟนอยู่ ต้องการที่พึ่งทางใจอย่างมาก ใครพอจะสมเคราะห์ได้บ้างช่วยหน่อยนะค่ะ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Sun, 02/21/2010 - 15:01:

ยากจะไปเหมือนกันเอาไว้จะหาเวลาไป

kookkai's picture
kookkai (visitor) said on Fri, 03/12/2010 - 09:56:

เราไปไหว้ขอพรมาแต่พอขอพรเสร็จลืมท่องบทสวดต่อ
แล้วเราก็กลับมาไหว้อีกทีในวันรุ่งขึ้นตอนเช้า
แบบนี้จะเป็นไรป่าวคะ

bombik's picture
bombik said on Mon, 03/15/2010 - 17:24:

ไม่น่าเป็นอะไรนะคะ อย่ากังวลค่ะ
ถ้าไม่สบายใจอยู่ ก็กลับไปไหว้อีกทีวันพฤหัสนี้ก็ได้ค่ะ

zerzaa's picture
zerzaa (visitor) said on Fri, 04/02/2010 - 00:29:

เมื่อวานเราก็เพิ่งไปไหว้มา

i'm jay's picture
i'm jay (visitor) said on Mon, 05/17/2010 - 10:51:

ถึงจะยังไม่เคยไปเเต่ก็เชื่อผมอยากให้คนที่ผมรักกลับมารักผมอย่างที่เคย สาธุ

N'yoyea's picture
N'yoyea (visitor) said on Wed, 06/30/2010 - 21:13:

กำลังคบกับคนๆนึงแต่ไม่รู้ว่าเค้ารักเราจริงรึป่าว ถ้าจะขอพรขอให้เราสมหวังโดยเอ่ยชื่อคนๆนั้น จะได้ไหมคะ เพราะเพื่อนบอกมาว่าห้ามเอ่ยชื่อ

bombik's picture
bombik said on Wed, 06/30/2010 - 21:44:

อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าเอ่ยชื่อได้ไหม

ตามความคิดของเรา แค่อธิษฐานว่า ให้สมหวังในความรักก็พอ คงไม่ต้องระบุเจาะจงชื่อ
ถ้าเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต..เพราะบางที ใครคนนั้นอาจจะไม่ใช่คนที่พรหมลิขิตมาก็ได้

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Sat, 07/17/2010 - 22:41:

ทำไมต้องเป็นวันพฤหัส ตอน 21.30 น. ด้วยครับ

bombik's picture
bombik said on Sun, 07/18/2010 - 08:06:

คงเป็นในเรื่องของความเชื่อค่ะ ว่า วันและเวลานี้ เป็นเวลาที่เทพจะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อรับคำและประทานพรให้แก่ผู้ขอ

ก็คงคล้ายๆ กับการไหว้ครูในวันพฤหัสบดีค่ะ เราไหว้ครูในวันพฤหัสบดี เพราะถือว่าพระพฤหัสบดี เป็นครูของเหล่าเทวดาทั้งหลาย อยู่ในฝ่ายดี มีกำลัง 19 ดังนั้นจะสามารถปกป้องและคุ้มครองคนที่เกิดในวันอื่นๆ ได้ค่ะ

tun's picture
tun (visitor) said on Thu, 08/19/2010 - 12:18:

ตอนนี้โดนบอกเลิกจากแฟนกลายเป็นพี่น้อง หนูไม่อยากเป็นพี่น้อง หนูอยากให้เค้าคนนั้นกลับมารักเราเหมือนเดิม และมีเราคนเดียว ถ้าจะขออย่างนี้จะสมหวังมั้ยคะ

bombik's picture
bombik said on Sun, 08/29/2010 - 09:09:

เป็นเรื่องของความเชื่อ และความหวังค่ะ
ไหว้เพื่อความสบายใจ ที่อย่างน้อยก็ยังได้ขอพรและได้ทำอะไรบ้าง มากกว่าการรอคอยเฉยๆ
ส่วนเรื่องจะสมหวังหรือไม่นั้น คงไม่สามารถตอบได้
เป็นเรื่องของอนาคต
ทำวันนี้และใช้ชีวิตวันนี้ให้ดีที่สุด และอย่าไปรอคอยหรือคาดหวังอะไรมากเกินไป
บางทีข้างหน้าอาจจะมีคนดีดีรอเราอยู่

ยังไงก็ขอให้สมหวังน
ะคะ

jeab jeab 's picture
jeab jeab (visitor) said on Sat, 09/04/2010 - 07:57:

จะไปวันพฤหัสนี้ค่ะ ขอให้เค้ากลับมา

am's picture
am (visitor) said on Wed, 12/08/2010 - 23:45:

การที่เราจะให้ใครสักคนมารัก เราควรทำดีควบคู่ไปด้วย ถ้าเราดีจริง พรที่ขอจะกลับมาหาเราให้เราสมหวัง ต้องตั้งใจทำดีจริง พูดดี ปฎิบัติต่อเขาดี และที่สำคัญถ้าเขาเป็นเนื้อคู่เราจริงเขาก็จะกลับมาหาเราที่สุด

bombik's picture
bombik said on Fri, 12/10/2010 - 02:53:

ถูกต้องที่สุดค่ะ หากต้องการให้ใครมารัก ก็ควรทำดีกับเขา พูดดี ปฏิบัติดีต่อเขา ^_^
อยากให้คนอื่นรัก ก็ต้องให้ความรักกับเขา ทำดีกับเขา เพราะไม่ว่าใคร ก็อยากมีคนที่เขารักเรา

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความรักไม่ได้มีสูตรสำเร็จที่ง่ายขนาดนั้น มันมีอะไรอีกมากมาย
ไม่เช่นนั้น รักใครชอบใคร ก็แค่พูดดี ทำดี ปฏิบัติดี ให้ความรักกับเขา ก็คงจะมีแต่คนสมหวัง
การทำดี เป็นคนดี พูดดี ปฏิบัติดี เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ถึงไม่สมหวังแต่ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่ควร
การไหว้ขอพร ก็เป็นเรื่องของความเชื่อ ความหวัง และความศรัทธา

ส่วนเรื่องเนื้อคู่ เคยอ่านหนังสือเล่มนึงเขาบอกไว้ว่า คนจะคู่กันก็มีอยู่ 2 อย่าง
อย่างแรกคู่กันเพราะเป็นเนื้อคู่กันจริงๆ เป็นคู่บุญที่ร่วมทำบุญมาแต่ชาติปางก่อน
ชาตินี้ก็เลยได้สุขสมหวัง กับอีกแบบคือ คู่เวรคู่กรรม ที่เป็นคู่ที่เคยร่วมทำเวรกรรมกันมา
มาพบกันเพื่อชดใช้เวรกรรม ถ้ากรรมมีไม่มาก อยู่ไม่นาน ชดใช้กรรมเสร็จก็เลิกร้างกันไป
จากนั้นคนคนนั้นอาจจะไปพบกับคู่บุญ หรือไปพบกับคู่กรรม คนอื่นๆ ที่เคยทำบุญทำกรรมร่วมกันมาอีก

อยู่กับใครแล้วมีความสุข แต่มีอันต้องพลัดพราก ก็ถือว่าทำบุญร่วมกันมาน้อย
อยู่กับใครแล้วไม่มีความสุข มีอันต้องเลิกร้างกันไป ก็ถือว่าหมดเวรหมดกรรมต่อกัน

brow's picture
brow (visitor) said on Thu, 02/03/2011 - 01:21:

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับทุกคำแนะนำจากเรื่องความรัก

เก่เก๋'s picture
เก่เก๋ (visitor) said on Tue, 02/22/2011 - 13:15:

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ k-doll (visitor) ค่ะเห็นหลายคน ถกกันเรื่องพระศิวะ ไม่ใช่พระตรีฯ บ่อยๆ แต่ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่า เวลาไปไหว้ ก็ตั้งใจไหว้ท่านจริงๆ ไม่ได้หลบหลู่ พออ่านคำอธิบายของคุณ k-doll แล้วก็สบายใจ เลิกถกกันซะที

ล้านนา's picture
ล้านนา (visitor) said on Tue, 03/22/2011 - 16:15:

เึคยไปไหว้พระพิฆเนศที่เซ็นทรัลเวิลด์มาแล้ว กลุ้มใจเรื่องาน ก็เลยอธิฐานบอกท่าน ปรากฏว่า ผลลัพท์ที่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขที่เราอธิฐานต่อท่านไว้ทุกประการ ประหลาดใจมากๆ สำหรับตนเอง หากต้องการให้สิ่งที่เราตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ก็จะไปกราบไหว้ท่านและอธิฐานขอให้ท่านช่วยดลบันดาล ให้สิ่งที่เราตั้งใจทำ ประสบความสำเร็จ และได้ผลลัพท์ตามที่เราหวังไว้ทุกประการ

วิกกี้'s picture
วิกกี้ (visitor) said on Tue, 04/19/2011 - 09:57:

เชื่อมั้ยคะ? เคยไปขอเรื่องความรักค่ะ ไม่ถึง 2 อาทิตย์มีแฟนเลยจากที่โสดนะคะ ตอนนั้นอธิษฐานว่า ขอให้มีแฟนที่รักเรา เป็นคนสะอาด ทำงานเก่ง รักครอบครัว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ หน้าที่การงานดี ฐานะดี ที่ขอมาตามนี้ เป็นแฟนคนนี้หมดเลยค่ะ ดีใจมาก และขอต่อไปว่าจะไม่นอกใจแฟนถ้านอกใจเมื่อไหร่ให้เอาเค้ากลับไปเลย
เชื่อมั้ยคะ เราไม่ดีเองนอกใจแฟนแค่ 1 ครั้งและคืนเดียว อีก 1 อาทิตย์แฟนขอเลิกเลยค่ะ ว่า...มีคู่หมั้นต้องแต่งงาน โดยที่แฟนไม่รู้เรื่องเลยนะคะ จนถึงวันนี้ก้อไม่เคยเอ่ยถึงอีกเลย ผิดที่ตัวเราเอง แต่ตกใจในความปาฎิหารย์จึงมาเล่าสู่กันฟังค่ะ แค่อยากบอกว่าใคร ขออะไรสัญญาอะไรต้องทำให้ได้ตามนั้นนะคะจะได้ไม่เสียใจไปตลอดชีวิตเหมือนวิกกี้ค่ะ...

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Thu, 04/28/2011 - 17:47:

มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้แล้ว.
ผมกับแฟน(คนจีน)คบกันมาและเรารักกันมาก และวางอนาคตด้วยกันแล้ว อยู่มาวันหนึ่งคุณพ่อ-แม่ ฝ่ายหญิงเดินทางมาเมืองไทย เพื่อแนะนำผู้ชายที่เป็นลูกของเพื่อนเขา และบอกแฟนผมว่าเธอต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น ทั้งๆที่เธอไม่รู้จักและไม่เคยรักเขาเลย โดยคุณพ่อ-แม่ อ้างว่าเพื่อเหตุผลทางธุรกิจของสองครอบครัว ประกอบกับเธอเป็นลูกคนเดียว และเธอไม่รู้จะปฎิเสฐคุณพ่อ-แม่อย่างไร ทั้งๆ ที่เธอยังรักผมอยู่ เดือนหน้า(พ.ค)เธอต้องกลับเมืองจีนเพื่อไปทำพิธีหมั้นกัน แต่อีก2-3ปีค่อยแต่งงาน ตอนนี้ทุกๆ วันเธอก็ยังอยู่กับผม และเราสัญญาว่าจะรักกันตลอดไป หาก2-3ปีนั้นมันทำให้เธอและเค้าไปด้วยกันไม่ได้(ไม่ได้แต่งงาน)เราก็ยังกลับมารักกันอีก แต่ในระหว่างนั้นเราก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เธอต้องไปช่วยงานผู้ชายนั้นบางครั้ง ตอนนี้ผมและเธอลำบากใจมาก เรารักกันมาก่อนแต่ทำไมต้องมีบุคคลที่3เข้ามาด้วย? หรือผมต้องเสียสละอย่างเดียวใช่ใหม? และผมรู้สึกไม่สบายใจมากเลยที่ต้องยังคบกับเธอในระหว่างที่เธอหมั้นแล้วผมไม่อยากทำผิดศีลข้อ3เลย แต่จะมีทางไหนบ้างที่ให้เรารักกันได้ ขอคำแนะนำด้วยครับ

Mariyam's picture
Mariyam (visitor) said on Sat, 05/21/2011 - 13:56:

เป็นความรู้สึกเดียวกันซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่ายังหลงเหลืออยู่ ... ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากทำใจ

Felidae's picture
Felidae (visitor) said on Sun, 11/20/2011 - 00:12:

หากว่าทั้งคู่มีรักที่จริงใจห่วงใยกัน มีความหวังดีที่ให้แก่กันทั้งคู่ควรจะต้องกล้าตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อที่จะอยู่ด้วยกัน ... ตามความเห็นต้องถามฝ่ายหญิงแล้วว่าเชื่อใจและรักคุณขนาดกล้ายืนหยัดเพื่อคุณรึเปล่าหากว่าใช่ แล้วตัวคุณเองล่ะถ้ารักเธอจริงคุณเองก็น่าจะสามารถดูแลเธอคนนั้นได้ไม่มีปัญหาอะไร
การกตัญญูเพื่อธุรกิจของครอบครัวนั้น มันมีค่ามากกว่าความรักของคุณหรอ? แล้วเธอต้องอยู่กับคนที่เธอไม่ได้รัก? การทนอยู่กับคนที่ไม่ได้มีใจเลย...ทำไม่ได้หรอก
ครอบครัวฝ่าย ญ น่าจะดีใจที่ผู้ชายคนนึงสามารถดูแล ญ คนนึงได้ทั้งร่างกายและจิตใจ การช่วยเหลือครอบครัวนั้นวิธีอื่นๆ ก็น่าจะมีนะ ...
การรักใครสักคนไม่มีข้อจำกัด ...ก็แค่มีใจจะรัก แต่บางครั้งเก็บรักไว้ในใจอย่างเดียวก็พอ โชคดีนะ

สกายดาว's picture
สกายดาว (visitor) said on Thu, 05/05/2011 - 10:54:

พอดีจะสอบภาค ก. น่ะค่ะ เลยจะมาขอพรท่านให้ท่านช่วย แล้วไม่ทราบว่าขอเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับความรักอย่างนี้ ท่านะช่วยหรือไม่อ่ะคะ เครียดมากเลย อายุมากแล้วแต่ยังสอบไม่ได้สักที

Mariyam's picture
Mariyam (visitor) said on Sat, 05/21/2011 - 13:53:

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเองซึ่งไม่น่าเกิดกับยุคนี้แล้ว
มีแฟนเป็นคนอินเดีย คบกันมา 5ปี ตกลงกันว่าจะแต่งงานกัน หลังจากนั้นเค้าได้ดุยเรื่องแต่งงานกับทางครอบครัวเค้าที่ India แต่ทางโน้นปฏิเสธที่จะรับผู้หญิงไทย ซึ่งบอกว่าคำสัญญาไม่มีความหมายให้ทิ้งผู้หญิงไทยคนนั้นแล้วแต่งกับผู้หญิง India เท่านั้น เหตุผลคือครอบครัวเค้าไม่เชื่อเรื่องความรักก่อนแต่งงานทุกคนในครอบครัวจะต้องแต่งงานกับคนในหมู่บ้านเท่านั้น ไม่สนใจว่าลูกชายเค้ากับผู้หญิงไทยคนนี้จะเจ็บปวดอย่างไร...ไม่มีเหตุผลอะไรจะให้นอกจากว่าต้องเลิกกันเพื่อความสุขของที่บ้านเท่านั้น...ต้องบูชายัญความรักและความสุขเพื่อพ่อแม่พี่น้องที่ India โดยทิ้งหญิงไทยเท่านั้นนี่หรือเค้าเรียกว่าเป็นผู้นับถือศาสนา Islam and Muslim ที่ดีในโลกนี้....

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Sun, 07/24/2011 - 23:05:

เข้าใจเลย เพราะเรามีแฟน ปากีสถาน..เรารักกันมากแ่ค่ไหน แต่เค้าก็ต้องเชื่อฟังพ่อแม่อยู่ดี ตอนนี้ได้แต่ ภาวนาให้พ่อแม่เค้าหาผู้หญิงให้เค้าช้าๆๆ หรือ ไม่ได้เลย.เราจะได้มีความสุขก่อนที่เค้าจะแต่งงาน

Sunday's picture
Sunday (visitor) said on Wed, 06/01/2011 - 19:51:

เราเองก็จะไปไหว้พรุ่งนี้ ครั้งก่อนเคยไปกะแฟน แต่เหนคนบอกกานว่าถ้าไปไหว้พระตรี ห้ามไปไหว้พร้อมกับแฟน คือเรากะแฟนคบกานได้สักสามเดือน แต่จริงๆรู้จักกานมาเกือนหกเดือน ที่รู้จักกานเพราะว่า แฟนเราเขาเปนน้องชายของพี่ที่เรารู้จัก แล้วแฟนเรานี้ละ ดันเป็นแฟนของผู้หญิงที่แย่งแฟนเก่าของเรา ที่เรากำลังจะแต่งงานด้วย ด้วยความที่ คนอักหักสองคนคุยปรับทุกข์ถึงเหตุการ ที่ทั้งสองคนโดนทิ้งด้วยกานทั้งคู่ คุยกานไปเที่ยวกิงข้าว ด้วยกานพักใหญ่ คุยๆกานแล้วรู้สึกดี เลย เราเลยตัดสินใจคบกาน
แต่อย่างที่บอก ผู้หญิงที่แย่งแฟนเก่าเราที่เราจะแต่งงานด้วย กลับยางไม่เลิกลาวีกะชีวิตคู่ของเรากะแฟนใหม่เรา (ผู้ชายที่เป็นแฟนเราตอนเน้ก็คือแฟนเก่าของมัน) เราจะทำไงดี ทั้งๆที่อีผู้หญิงคนเน้มันก็มีลูกแล้วด้วย ก็เพราะว่ามันท้องนี้ละ แฟนเก่าเราเลยบอกเลิกเรา เพื่อไปคบกะมัน ตอนเน้เศร้ามาก เลยจะไปไหว้พระตรีขอพร คะ อยากรู้เหมือนกานว่ามีเพื่อนๆไปไหว้ขอพรกานมาแล้วเปนไงบ้าง

ด้วยรักและคิดถึง's picture
ด้วยรักและคิดถึง (visitor) said on Tue, 06/21/2011 - 14:57:

ตอนนี้กำลังทุกข์ใจย่างมาก ก็คิดว่าจะไปขอพรท่านอยู่พฤหัสบดีนี้ คือว่าแฟนกลับบ้านไปพักฟื้นหลังจากผ่าตัด และเราก็โทรคุยกับแฟนมาตลอดจนเกือนเดือน อยู่ๆเขาก็บอกเราว่าพ่อ-แม่ของเขาให้เขาเลิกกับเราด้วยเหตุผลที่ว่าเขาต้องอยู่ดูแลพ่อ-แม่ที่บ้านและความรักของเรามันต่างกันเกินไปไม่มีโอกาสเป็นไปได้ คบกันต่อไปก็มีแต่เสียเวลา ไ เราก็ถามเขาว่าเขายังรักเราอยู่ไหมเขาบอกว่ารัก...แต่เขาปฏิเสธพ่อแม่ไม่ได้เขาไม่รู้จะพูดกับท่านอย่างไรและเขาบอกว่าทุกอย่างที่แม่พูดมันก็เป็นความจริง ความรักกับอนาคตและปากท้อง อนาคตและปากท้องต้องมาก่อน และเขาก็ต้องเลิกพ่อแม่พี่น้องเขา แล้วเราก็ถามเขาอีกว่าแล้วตอบอย่างไรไปกับท่านจะเลิกกับเราหรอและไม่มาหาเราอีกแล้วหรอ...(เจ็บ)เขาตอบกลับมาว่าไม่รู้เขาปวดหัวคิดไม่ออกก็พ่อแม่ยื่นคำขาดมาแบบนี้ เพื่อนๆๆคิดว่าเราจะทำอย่างไรดี แต่เรารักเขามาคบมาตั้ง 4ปี แล้ว ทำใจไม่ได้

nu's picture
nu (visitor) said on Mon, 07/18/2011 - 09:18:

เรื่องของผมมันพึ่งเกิดได้ไม่นานคบกันมา 8 ปีผ่านอะไรมาก็มากทำอะไรมาด้วยกันผมไม่เคยนอกใจแฟนแม้แต่สักครั้ง แต่ก็ทะเลาะกันบ่อยด้วยเรื่องต่างๆรอบกายเพียงแต่ว่าทัศนคติไม่ตรงกัน ทะเลาะกันแต่เรื่องไร้สาระไม่เคยมีบุคคลที่ 3 เลย แต่ผมก็เอาแต่ใจเหมือนกันคุยโทรศัทพ์ไม่อยากคุยด้วยผมก็ว่างไปซะงั้นเพราะที่วาก็ไปเก็บอารย์ไม่อยากจะคุยเพราะมันจะต้องทะเลาะกันมากกว่าเดิมนี้เลยเป็นฉนวนเหตุที่ทำให้เขาเก็บไว้ตลอดจนมาถึงวันที่เขาบอกว่าเขาเบื่อนิสัยแบบนี้ของผมผมก็บอกว่าที่ทำแบบนี้ก็อยากให้เราไม่ใช้อารมย์ใส่กันเลยต้องทำแบบนี้แต่ที่สุดผมก็ต้องโทรกลับไปหาเธอและขอโทษทุกครั้งจนมาวันนี้เรื่องทุกอย่างกลับมาหาผมหมดเธอรวมเรื่องต่างๆบอกว่าเขาเข้ากันไม่ได้เธอขอเลิกกับผมทั้งๆที่ผมแถบจะกราบเท้าขอให้เธอคนนั้นกลับมาผมชินดีทำทุกอย่างเธอบอกว่าผมดีและก็รักเธอมากเธอเข้าใจแต่ว่าวันนึงก็ต้องทะเลาะกันอีก ผมพยายามเอาเวลา8ปีที่คบกันมาพูดว่าเรารักกันสนุกด้วยกันและทุกข์ด้วยกันมายังไงเธอก็ไม่ฟังแต่เธอก็ร้องให้เธอบอกว่าเธอก็เจ็บมากแต่เธอบอกว่าเธอไม่รักผมแล้วมันหมดไปนานแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าคำพูดแบบนี้เธอพยายามลืมผมแต่ ผมหมดที่พึ่งแล้วเมือ 2 วันก่อนผมคิดที่จะกระโดดสะพานแขวน ผมรู้แล้วว่าคนที่ตายด้วยความรักมันเป็นยังไง (มันทรมานจริงที่อยู่คนเดี่ยวไม่ได้)ผมไปถึงที่แล้วแต่สุดท้ายผมก็ต้องนึกถึง พ่อและแม่และก็คนที่ถ้าผมจากไปเขาต้องเสียใจแถบขาดใจไม่ใช้ผมแค่คนเดี่ยว ผมก็เป็นคนนึงที่จะลอง ขอพรดู ถ้าสิ่งศักดิ์มีจริงช่วยผมที่เหาะ จากคนสิ้นหวังเรื่องความรัก

kate's picture
kate (visitor) said on Fri, 08/12/2011 - 17:02:

โดนแฟนทิ้งค่ะ..ห่างกันประมาณ2-3เดือนได้ตอนแรกๆบอกว่าไม่ว่างต้องทามงานงานยุ่ง เราก้อเข้าใจ เพราะทามงานที่เด่วกันแต่ก้อมีแอบน้อยใจบ้างก้อขอเวลาเค้าก้อโดนว่าซ่ะยกใหญ่หาว่าก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวมากเกินไป เราก้อง้อทุกอย่างยอมทุกอย่างสุดท้ายเค้าคงทนเวทนาเราไม่ไหวเลยยอมสารภาพความจริงว่า เค้ามีคนอื่นช่วงที่ห่างเราไปและตอนนี้เด็กนั้นท้อง พ่อแม่เค้าจะเอาเรื่อง ถ้าไม่รับผิดชอบ เราเลยเกือบบ้าเพราะไม่รู้ว่าผิดอารายไหนว่าชั้นคือดาว..สำหรับคุณ ไม่เคยมีใครดีเท่าชั้น แล้วทามไมทามกันแบบนี้ อยากไปขอพรค่ะ ขอให้เค้ากลับมา ขอให้เค้าคิดได้ถึงความดีของเรา ความรักที่เรามีให้โดยไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทนเลย ขอให้เค้ากลับมาเรายังรอเหมือนเดิม ไม่เคยโกรธ ให้อภัยเสมอ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Sun, 12/11/2011 - 18:35:

ทุกข์ใจมากค่ะ

เคยปลื้ยผู้ชายคนนึงมาเป็นปีๆ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องสมหวังกัน แค่คอยมองดูเค้าอยู่ห่างๆ แม่ของช.คนนี้ ก็สนิทกับครอบครัวเรา มีอะไรครอบครัวเราก็ช่วยเหลือครอบครัวเขาเสมอ ทุกครั้งที่เรามีโอกาสได้ไปหม่ำข้าว เดินดูไฟในวันพ่อ หรือไปปีนเขา ถ้าไ้ด้ไปกับ ช.คนนี้ เขาก็จะจับมือเราเดินทุกครั้งไป เราก็แอบอบอุ่นใจอยู่ลึกๆ แต่ก็แค่นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ทุกครั้งหลังจากหมดทริปเที่ยวแต่ละที ต่างครอบครัวก็ต่างกลับบ้าน ไม่ได้โทรหาคุยกันเหมือนคู่รัก มีบ้างบางที ที่เราคิดหาเรื่องอยากโทรไปให้ได้ยินเสียงเค้าหน่อยก็ยังดี แต่ก็ไม่บ่อย ปีนึงจะโทรสักครั้ง สองครั้ง เพราะในช่วงเวลานั้นเราสองคนต่างก็มีแฟนกันในปีที่ผ่านๆมา

แต่เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่บ้านเกิดน้ำท่วม และเราต้องอพยพไปอยู่ต่างจังหวัดซึ่งก็ได้ไปอยู่กับครอบครัวของ ช.คนนี้ที่เราแอบปลื้มมาตลอด (นามสมมุติ ย.) วันสองวันแรกที่เราขึ้นไป ถามว่าสุขใจไหม มันอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะหลายปีที่รู้จักกันมา นี่เป็นเหมือนครั้งแรกที่เราจะได้รู้จักเขาจริงๆ ได้เห็นวิถีชีวิตของเขา เวลาเขานอน ตื่น หม่ำข้าว ฯ และเหมือนโชคชะตาจะเป็นใจ ในช่วงเวลาที่เราขึ้นไปนั้น เราเองก็เลิกกับแฟนมา แต่เราเพิ่งจะรู้ว่า เขาก็เพิ่งจะเลิกกับแฟนก่อนเราขึ้นมาได้ 2 วัน มันก็เหมือนกับ ขั่ว + กับ ขั่ว - มาชนกัน เราต่อกันติดเร็วมาก มองตาก็รู้ว่าอีกฝั่งคิดยังไง

ทุกเช้าเราตื่นนอนกันตอน 6.30 หม่ำข้าว เปลี่ยนเสื้อผ้า(น้ำไม่อาบที่นั้นอากาศหนาวอาบเฉพาะช่วงเย็น)และไปโรงเีรียน เค้าเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ เมื่อเค้าอพยพไปต่างจังหวัดเค้าจึงถือโอกาสไปเผยแพร่ความรู้แบบฉบับการกุศล คือไม่เก็บเงิน เราเองก็ซ้อนจักรยานไปกับเค้าทุกวัน ไป-กลับ 8 กิโล ระหว่างทางเราก็คุยกันตามประสา สัพเพเหระ ไปเรื่อย ระหว่างทางจะมีเนินที่ปั้นขึ้นไม่ไหวต้องลงเดินเข็นจักรยานขึ้นแทน ช่วงทางตรงนั้น มือซ้ายเขาจะจับจักรยานและมือขวาจะจับมือเราเดินขึ้นเนิ่นไปด้วยกัน และเป็นแบบนี้เสมอทุกครั้งไป

วันหนึ่งขณะที่กำลังติวเด็กที่จะไปแข่งในอาทิตย์หน้า อยู่ๆเขาก็เดินออกจากห้องไป สักพักเโทรสับเราก็สั่น เราก็เดินไปดู ปรากฏว่า สิ่งที่ได้เห็นนั้น เป็นเบอร์ชื่อว่า "Love U Na" ซึ่งในเวลานั้นเรารีบกดรับแล้วคิดในใจว่า ใครอ่ะ! ขนาดเขาพูดออกเสียงมา เรายังอึ่ง ไม่คิดว่าจะเป็นเขาที่มาเปลี่ยนชื่อเขาที่โทรสับเรา เขาโทรมาก็ไม่พูดอะไรเป็นพิเศษก็ทำเป็นไม่มีไรเกิดขึ้น นิ่งๆตามแบบฉบับมาดของเขา แค่เพียงโทรมาให้ชื่อมันเด้งเท่านั้นละ แต่แค่นั้นก็ทำให้เราสุขใจมากๆแล้ว

และเย็นวันนั้นหลังจากที่เราสองคนสอนเสร็จ ทางที่เรากลับบ้านนั้นจะมีศาลา ศาลาหนึ่ง เป็นศาลาเล็กๆติดกับสนามเด็กเล่นและสนามบาส เขาเองปั่นมาถึงก็จอดที่พักนั้น และเราก็นั่งเล่นกันที่นั้นสักพักใหญ่ เขาเองก็ถามว่ารักเค้าไหม ซึ่งคำถามนี้มันไม่ยากเลยที่จะตอบสำหรับเรา เพียงแต่เรากลัวกับสิ่งที่จะตามมาหลังจากที่เราพูดไปแล้วมากกว่า เราเองเพียงได้แต่มองหน้าเค้า แล้วยิ้มให้พร้อมกับพูดว่า

" ไม่รู้เรียกว่ารักได้ไหม แต่รู้สึกอยากอยู่ใกล้ๆ อยากรู้ว่าวันนึง ย.(นามสมมุติ)ทำอะไรบ้าง แต่ก่อนก็คิดหาเรื่องคุย จะโทรก็กล้าๆกลัวๆ คิดแล้วคิดอีก คงเรียกว่าปลื้มมากกว่ามั่ง รู้ทั้งรู้ว่า ย.ก็มีแฟนอยู่แล้ว ก็ไม่เคยคิดใที่จะหวังว่าต้องเลิกกันนะ แถบแอบลุ้นให้สมหวังกันเสียอีก ทุกครั้งที่ได้ยิน แม่ของ ย. มาบ่นเรื่องแฟนของ ย. ให้เขาฟัง เขาเองก็ยังพูดกับแม่ ย. ว่า ใจเย็นๆไม่แน่วันนึงอะไรก็อาจเปลี่ยนไป แฟน ย. อาจจะดีกับแม่ ย. ก็ได้ และก็ได้แต่แอบหวังให้เค้าดีกันจริงๆ ไม่ต้องเป็นแฟน ไม่คิดหวังไปขนาดนั้น แค่ได้เห็นเป็นบ้างครั้งบ้างคราวก็มีความสุขได้เอง เก็บมายิ้มได้เป็นวันๆ แบบนี้เค้าเรียกว่ารักได้ไหม? "

หลังจากที่เราพูดจบเขาเองก็ดึงมือเราไปจับแล้วยิ้มให้เราแบบที่เราไม่เคยเห็นรอยยิ้มนี้มาก่อน มันประทับใจมากๆโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดใดๆมาสื่อความหมาย

แล้วเขาก็ปั่นจักรยานกลับโดยเราซ้อนอยู่ข้างหลัง อากาศวันนั้นค่อนข้างเย็นแต่เรากลับรู้สึกว่ามีไออุ่นอยู่รอบข้างกายเสมอ

ความรักระหว่างเราเติมโตอย่างรวดเร็ว บ้านที่เราอยู่เป็นบ้านไม้อยู่ในสวนของครอบครัว ย. เรานอนกันแบบเรียงปลาทู คือนอนรวมกันหมด คืนแรกๆเราจะเปิดหนังผีดูกันเนื่องด้วยมันได้บรรยากาศ ตอนกลางคืนที่นั้นก็จะมืดมากๆ เรียกได้ว่ามืดสนิท เดินคนเดียวยังต้องคิดแล้วคิดอีก หนังผีที่ว่าก็ซื้อมาจากตลาดแถวโรงเรียนที่เราไปสอนนั้นละ ที่นั้นจะมีตลาดนัดทุกๆวันเสาร์

เวลาที่เค้านอนดูหนัง เราก็ชอบเอามือไปลูบหัวเค้า เกาหลังให้เค้าบ้างตามประสาของเรา และทุกครั้งที่เราลูบหัวเค้า เค้าจะดูเป็นเหมือนเด็กตัวเล็กๆ นอนซุกๆ และหน้าตาเค้าดู ผ่อนคลาย มาก เห็นแล้วเราเองก็พลอยจะรู้สึกสบายตามไปด้วย

เราสองคนตัวติดกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปกติแล้วไม่ว่าเราจะมีแฟนมากี่คนต่อกี่คน แค่จับมือยังไม่ได้เลย เรารู้สึกว่ามันไม่ได้อ่ะ ทุกครั้งที่ใครมาจับเราต้องรูดมือขึ้นให้ได้เต็มที่คือ แขน และก็จูงได้แค่ข้ามถนน แต่ไม่ใช่กับคนนี้ ตั้งแต่ไหนแต่ไร ทุกครั้งที่เราได้เจอกันบ้างตามโอกาส ไม่ว่าจะปีนเขา หรือดูไฟ เขาเองก็จะจับมือเราเดิน และเราก็ปล่อยให้เขาจูงเพราะมันอุ่นๆอยู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก

เรานอนดูหนังกันไป จากต่างคนต่างนอนดูหนังก็ใกล้กันมากขึ้น จนเรียกว่านอนกอดดูหนังก็ว่าได้ เราเหมือนถูกสตาปไว้ รู้ทั้งรู้ว่าไม่เหมาำะสม แต่เหมือนตัวแข็ง ไม่อยากจะลุกหนี ที่ที่เรานอนดูหนังกันก็คือที่นอนกันเรียงปลาทู พ่อแม่ผ่ายช. และน้องชายเขาอีกคน ก็อยู่ ก็เห็น เมื่อหนังจบ เค้าก็จะย้ายไปนอนที่ของเขาโดยมีแม่เค้านอนกั้นกลางระหว่างเรา

ทุกคืนเขาจะนอนกอดแม่โดยเอื้อมมือมาจับมือเราที่นอนอยู่อีกฝั่ง และหลับไปด้วยกัน ความสัมพันธ์ของเราดำเนิ่นไปแบบนี้

มีอยู่เช้าวันนึง เราไม่ได้ตามเขาไปสอนที่โรงเรียนด้วย อยู่บ้านเราก็ช่วยแม่เขาัซักผ้า ล้างจาน พอทำงานบ้านเสร็จ แม่เค้าก็มานอนคุยกับเรา บอกให้เรารู้จักเลือก ผู้ชาย เรายังอยู่ในวัยที่เลือกได้ก็เลือกให้มันดีๆ ยกตัวอย่างครอบครัวแต่ละคนที่ได้แต่งงานกับคนที่มีฐานะ มียศ มีตำแหน่งมากมาย แต่ในสายตาที่เรามองเห็น เรากลับรู้สึกว่าเค้ากำลัีงหวงลูกชาย แม้ว่าเค้าจะเคยพูดแหย่เล่นให้เราสองคนเป็นแฟนกัน แต่พอเอาเข้าจริงดูเหมือนจะไม่สวยอย่างที่เราคิดไว้ เราก็ได้แต่ฟังเนื่องเพราะเราเป็นเด็ก แต่ใจลึกๆมันกำลังบอกเราว่า ความสุขมันสั้นกว่าที่เราคิดไว้เยอะมากนัก เราขอตัวตัดบทไปอาบน้ำ และบอกเขาว่าเด่วเราก็กลับบ้านแล้ว แม่เขาเองก็โอเคไม่ได้ขอให้อยู่ต่อแต่อย่างใด

เราเองก็ร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ อาบน้ำใช้เวลาแปปเดียว แต่กว่าจะเดินออกมาจากห้องน้ำได้ เราต้องสูดลมหายใจเข้าออกอยู่หลายเฮือก ทั้งเรียกสติบอกตัวเองว่าอย่าฝูมฝาย แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อแม่เขาถามว่า เป็นอะไรหรือเปล่า โกรธอะไรแม่รึเปล่า แล้วดึงเราเข้าไปกอด เราถึงกับน้ำตาแตก ร้องไห้โฮออกมา พร้อมกับเล่าความรู้สึกที่เรามีต่อลูกชายเค้าให้เค้าฟัง

เวลานั้นเค้าดูเป็นเสมืือน แม่คนที่ 2 ของเราเลยก็ว่าได้ เรายังจำทุกคำพูดของเขาได้จนขึ้นใจ

"ถ้าเรารู้สึกแบบนี้ แม่อยากให้เราอยู่ต่อนะ ชีวิตคนเรามันสั้น กว่าจะเจอคนที่ถูกใจจริงๆ มันอาจจะหาไม่ได้แล้ว และโอกาสที่จะได้มาใช้ชีวิตอยู่กันแบบนี้มันแถบไม่มีแล้ว อยู่ที่นี้ก็ค่อยๆดูกันไป ศึกษากันไป ให้รู้จักเก็บรายละเอียดว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไรในอีกฝ่ายบ้าง แม่ก็รักเราเหมือนลูก เห็นกันมาตั้งนาน คืนนั้นที่แม่หลับไปก่อนโดยยังไม่้ย้ายที่ แม่ตื่นมาก็คิดนะว่าทำไมเราไม่ย้ายมานอนข้างแม่"

การนอนปกติจะเป็น พ่อ ย. แม่ เรา และ น้องชาย
แต่มีคืนนึง ขณะที่ ย.พิมพ์งานใน Laptop ดึก จนแม่หลับไปก่อน
ก็เลยนอนแบบ พ่อ แม่ ย. เรา และ น้องชาย

ต่อให้ น.(ชื่อเรานามสมมุติ)ย้ายไปนอนข้างแม่ ก็ยังคงนอนติดกับ ย. อยู่ดี เราเองก็บอกไป แต่แม่ ย. บอกว่า ถึงกระนั้นก็ยังนอนติดแม่มันก็ยังดีกว่า เราเองก็จำคำแนะนำของแม่ ย.ไว้

และหลังจากนั้นทุกๆคืน ย. ก็ย้ายที่นอนไปตามระเบียบ และไม่ยอมย้ายคืนที่ ปากเราก็บอกให้ ไปนอนที่เดิม แต่ใจเราจิงๆก็อยากอยู่ใกล้ๆ เมื่อ ย. ไม่ยอมไป เราก็เลยย้ายมานอนคิดกับแม่ ย. เลยกลายเป็น

พ่อ แม่ เรา ย. และน้องชาย

บางคืนเราก็รับรู้ว่า ย. มาหอมหน้าผากเราบ้าง ห่มผ้าให้เราบ้าง เช่นเดียวกัน
ทุกคืนที่เราตื่นไปห้องน้ำ เราเองก็จะห่มผ้าให้เค้า ลูบหัวเขาก่อนนอน ดูท่าทางซุกๆของเขาก็พลอยอิ่มใจ

ก็ดูเป็นชีวิตที่ไม่น่าจะมีความทุกข์อะไร

ไม่นานนัก แม่เราก็ขึ้นมาหาเรา ซื้อเสื้อผ้า มาให้ ย. และครอบครัวของ ย.
เป็นเสื้อผ้าที่นำเงินถวายแด่ในหลวง แต่เป็นการขึ้นมาเพื่อรับเรากลับกรุงเทพเช่นกัน
นับจากวันที่แม่เราขึ้นมา เรามีเวลาเหลืออีก 3 วันก่อนที่จะลงกรุงเทพ เพื่อมาสัมภาษณ์งาน (เพิ่งเรียนจบตอนน้ำท่วมพอดี) แน่นอนละว่าใจลึกๆเราเองก็ไม่อยากกลับ เพราะ ณ.เวลานั้นอะไรๆก็ดูจะสวยงามไปหมดในสายตาในความรู้สึกของเรา

ย. เองก็ได้บอกกับแม่ ย. ไปว่าคบกับเราแล้วนะ แม่ย. เองก็บอกกับ ย.และเราว่า "คนสองคนจะชอบจะรักกัน ผุ้ใหญ่ไม่ว่าหรอก สำหรับครอบครัวแม่ เปิดใจรับเราเต็มที่อยู่แล้ว ให้เราค่อยๆดูศึกษากันไปนะ"

คืนก่อนกลับเราไปหม่ำหมูกะทะกัน เราก็ซ้อนจักรยาน ย.เหมือนเดิม และถามย.ว่า รักเค้าไหม?

ย.ไม่ตอบ และถามว่าทำไมอยากได้ยิน
เราเลยฮัมเพลง "ถ้าหากรักนี้ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าวและเค้าจะรู้ว่ารักหรือเปล่า อาจยังไม่แน่ใจ อยากให้เค้ารู้เธอคงต้องแสดงออกไม่ใช่ให้ใครมาบอก หรือว่าให้เค้าเดาเอง"

ฮัมยังไม่ถึงไหนเค้าเองก็ร้องเพลงนี้ออกมา พร้อมจอดจักรยานจากปั่นมาเป็นเดินจูงมือ และร้องเพลงนี้ไปเรื่อยๆ
พร้อมบอกว่า "เขาเป็นคนที่ไม่ชอบพูดคำว่า รัก บ่อยๆ เพราะไม่อยากให้มันกลายเป็นความเคยชิน นานๆพูดทีสิมันถึงจะสุขใจ เค้าก็รักเรานะ รักมากด้วย ไม่รู้ว่าทำไม แต่เค้าก็รู้สึกใจเต้นทุกครั้งที่เราหยิบถุงเท้ามาใส่ให้เค้า บีบยาสีฟันให้ ดูแลเค้า เค้าเองก็มีความสุขและอยากให้เรามีความสุขเวลาอยุ่กับเค้าเช่นกัน"

เพียงเท่านี้ก็ทำให้เรานอนหลับอบยิ้มได้ไม่หยุึด แม้พรุ้งนี้เราต้องแยกกันแล้วก็ตาม

วันกลับเราเองก็ตามเค้าไปสอน ปรากฏว่าวันนั้นไม่มีเรียน เด็กทุกคนซ้อมกีฬาสี เราเองก็เดินดูเด็กๆสักพัก และแวะร้าน นมกล้วยปั่น ร้านประจำของเรา ถ่ายรูปคู่ อัดวีดีโอ ตามประสา และก็กลับบ้าน เก็บข้าวของเตรียมขึ้นรถตอน 6.30

เมื่อถึงท่ารถเราก็นั่งรอเวลาที่รถจะมา ระหว่างนั้นเขาเองก็อยู่ข้างกายเราไม่ห่าง
และพูดกับเราว่า "แล้วใครจะนั่งซ้อนเค้ากลับบ้านน๊า ใครจะไปสอนหนังสือกับเค้าน๊า ใครจะดูแลเค้า ห่มผ้าให้เค้า"
จนเราต้องบอกให้เค้าหยุดพูด ไม่งั้นเดี๋ยวมีน้ำตาร่วง(ไม่อยากร้องไห้เพราะการจากแบบนี้ เหมือนเป็นรางว่าจะไม่ได้เจอกันอีก)

พอถึงเวลารถมา เราก็หยิบ จดหมายที่เราแอบเขียนไว้ ในขณะที่เค้าสอนหนังสือออกมา ยื่นให้เค้า ก่อนที่จะเดินขึ้นรถ และเราก็จากกันแบบนั้น

ดูเหมือนไม่เห็นต้องทุกข์ใจอะไร แต่มันเริ่มหลังจากวันที่เราจากกัน
วันแรกเค้าเองก็โทรหาเรา เช้า กลางวัน บ่าย เย็น ก่อนนอน
เราก็รู้สึกอุ่นใจเหมือนเค้าเองก็ยังอยู่ข้างๆ
พอมาวันที่สอง แค่วันที่สองเรื่องก็เกิด แม่ย.บอก ย.ว่า
"แม่เราไม่ชอบไม่ปลื้ม ย.ให้โทรหาเราน้อยๆหน่อย" จนเราต้องไปถามแม่เรา เพราะแม่เราก็เห็นจดหมายที่เราเขียนให้ ย.ก่อนที่จะขึ้นรถ เราส่งไปให้แม่เราอ่านก่อน ถ้าแม่เราไม่ชอบ ไม่ปลื้ม ไม่อยากให้เราคบกัน ทำไมต้องอนุญาต ให้เราส่งจดหมาย ทำไมต้องซื้อเสื้อมาให้ครอบครัว ย. ทั้งครอบครัว ทำไมต้อง ยื่นความช่วยเหลือให้ครอบครัว ย. โดยไมต้องให้เขาเอ่ยปาก

เราเองได้ฟังจึงไปถามม้าเรา(เป็นลูกคนจีนเลยเรียกแม่ัว่า ม้า นะคะ)ด้วยความไม่เข้าใจ ว่า ม้าไม่ชอบ ย. หรอ
ม้าเราตอบกลับด้วยท่าทีที่ งง เต็มที่ว่า "ใครบอกว่าไม่ชอบไม่ปลื้ม"
เราก็เลยเล่าให้ม้าเราฟัง ม้าเราจึงบอกเราว่าเรื่องของเรื่อง ไม่ใช่ไม่ชอบไม่ปลื้ม
แต่แม่ ย.เล่าให้ ม้าฟังว่าเรานอนลูบหัว ย.นอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ม้าเป็นม้าเราทำไมจะไม่รู้ความประพฤติลูกของม้า แต่ก่อนคบใครเราก็หวงตัวมาตลอด แต่พอมากับคนนี้คนที่เรามีใจชอบ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ม้าแค่อยากให้เรารู้จักไว้ตัวบ้างอย่าปล่อยไปตามอารมณ์ ส่วนเรื่อง ย. นั้นไม่เคยห้าม ไม่เคยว่า คบกันได้ไปเที่ยวกันได้ เพียงแต่ถ้าจะไปต่างจังหวัดกันสองคน คงจะไม่ได้
แม่ยังคิดเลยว่า เดียววันที่ ย.ลงมาหรุงเทพ จะชวนมาบ้านให้รู้จักป๊าให้เป็นเรื่องเป็นราวทำกับข้าวหม่ำกัน

เราได้ยินดังนั้นก็ดีใจ และโล่งอก รีบโทรไปหา ย. และเล่าให้ ย.ฟัง
ซึ่งมันผิดกับที่แม่ ย.พูดทำไปทำมา แม่เราเลยโทรไปหา แม่ย.
พูดให้เข้าใจกันใหม่ว่าไม่ใช่ไม่ชอบ ย.นะ แม่ย.ก็บอกว่า เราผู้ใหญ่หนะพูดกันรู้เรื่อง เด็กไปคุยอะไรกันก็ไม่รู้ ก็เหมือนเป็นการสื่อสารกันผิด

แต่หลังจากนั้นเราโทรไปหาย.
ย.มีท่าทีที่เปลี่ยนไป คุยแบบ ไม่สะดวกคุย ทุกเช้าต้องไปแอบคุยที่ห้องน้ำข้างล่างเวลาที่ ย.ไปอึ รู้ทีหลังว่า แม่ย.บ่นว่า ย.ที่เอาเรื่องครอบครัวมาพูดให้เราฟัง
พอเรารู้ว่า ย. โดนว่า และเสียใจอึดอัดเวลาโดนแม่บ่น เราเองก็เจ็บและสงสารเค้า เลยบอกกับเค้าไปว่า ถ้าไม่ไหวก็บอกนะ อย่าฝืนเราเองก็อยากเห็น ย. มีความสุข ไม่อยากให้ ย.ต้องอึดอัด ย.เองก็เล่าให้เราฟังว่า แม่บอกให้ ย.ทำตัวเองให้สุงๆเรียนสูงๆเข้าไว้ (เค้ากำลังจะต่อ ป.เอก) ถึงเวลานั้นค่อยเลือกผู้หญิง เอาอย่าง ต.สิ ดูผู้หญิงเยอะๆแล้วเลือกทีเดียวให้มันเจ๋งไปเลย ทั้งมีฐานะ เรียบร้อย (แฟน ต.เค้าเป็นคนมีฐานะ เป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย ไม่มีปากมีเสียงกับใคร)แค่คำนี้เราก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร คำที่พูดว่า บ้านแม่เปิดรับเราเต็มที่อยู่แล้ว มันคงจะเป็นเพียงลมเท่านั้น ไม่มีสาระอะไรที่จะคิดเป็นจริงเป็นจังได้เลย

แฟนเก่าของ ย.ที่คบกันมา 2 ปี ก็เลิกกันเพราะแม่ ย. ไม่ชอบ ย.เป็นคนรักแม่มาก ถ้าแม่งอนหงุดหงิด ว่า หรือ บ่น ย.จะไม่มีความสุข อึดอัดใจ หงุดหงิดใจ แล้วนับประสาอะไรกับเราแค่เดือนกว่าๆ

ซึ่ง ณ. ตรงนี้เราเองก็เข้าใจดี เมื่อคืนเรานอนร้องไห้ทั้งคืน เพราะความสุขเดือนกว่าๆที่ผ่านมา มันกำลังทิ่มแทงใจเราอยู่ในทุกวินาทีนี้ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ นึกเสียใจน่าจะห้ามแม่ไม่ให้แม่โทรไปพูด กับแม่ย. เพราะนอกจากมันจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ทำให้ ย.โดนบ่นโดนว่า เจ็บเข้าไปอีก

วันนี้ตอนเช้า เราเองจึงตัดสินใจจะจบเรื่องนี้ นึกเสียใจอยู่ลึกๆ เพราะแม่ย.ก็สนิทกับบ้านเรามากพอควร มานอนค้างบ่อยๆ นอนกอดเรา บอกว่ารักเราเหมือนลูก แหย่เรากับ ย. ให้เป็นแฟนกันบ้าง แต่เอาเข้าใจมันไม่ใช่เลย

ย.โทรมาหาเราตอนเช้า สายกว่าวันอื่นๆ ปกติ 7-7.30 เวลาเขาเข้าห้องน้ำ
แต่วันนี้โทรมา 9.11 และคุยกันแบบ 2 นาที เพราะพอคุยได้สักพัก พ่อก็เรียก ย.ไปช่วยแม่ซักผ้า เราเห็นอาการเค้าที่ต้องแอบๆคุย เห็นเค้าอึดอัด เห็นเค้าเครียด

แค่นั้นก็พอแล้วที่จะทำให้เราจบเรื่องนี้และให้เค้าอยู่กับแม่เค้า ไม่ต้องปิดบังอะไรกับแม่ ไม่ได้หลบๆซ้อนๆ ไม่ต้องไม่สบายใจ

เราเลยโทรไปหาแม่ของย. และพูดว่า
ปัญหาของเรากับย.เพื่อความสบายใขจองแม่ น.จะ้เลิกติดต่อกับ ย.เอง
ขอเพียงอย่าบึ้งตึงกับ ย.
ย.เค้ารักแม่มากนะ เห็นบางทีเค้าอาจดูเหมือนไม่ฟังในสิ่่งที่แม่พูดแต่จริงๆแล้วไม่ว่าจะพูดหรือบ่น ว่าอะไร มันมีผลต่อจิตใจเขาหมด น. เองก็อยากให้ ย.มีความสุข ไม่อยากเห็นเขาต้องอึดอัด และไม่อยากเป็นคนที่เข้ามาทำให้ แม่กับ ย.ต้องผิดใจกัน แต่ยังไม่ทันพูดจบ แค่บทเริ่มว่า ปัญหาของเรากับย.เพื่อความสบายใจจองแม่ น.จะ้เลิกติดต่อกับย.เอง ขอเพียงอย่าบึ้งตึงกับ ย.

แม่เค้าก็บอก "อ่าวทำไมละ ทำไมต้องเลิกติดต่อกันละ" แม่ ย.พูดแบบไม่รู้สาเหตุ แบบ งง งง เราเองก็เลยไปไม่เป็นเลยพูดต่อไม่ออก แม่ ย.ก็เลยเสริมว่า ชีวิตมันสั้นนะ ก็ค่อยๆคบค่อยๆดูกันไปมันเร็วไปที่จะบอกว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ เราก็จับมือจูงกันเดินไป ไม่ได้ห้ามไม่ให้คุยกันนะ แม่และแม่ของเราก็สนิทกัน อย่าเอาผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยว เรื่องนี้ก็คือเรื่องของเรานะ

กลายเป็นคนละแบบอีก จากนั้นส่งโทรสับให้ ย. เค้าเองก็เงียบๆไป
และบอกว่าเด่วเค้าก็โดดอีก มันไม่ตรงกันเลย แม่ย.ถึงขนาดไม่พูดกับย.เลย
เวลาที่รู้ว่า ย.โทรหาเรา และพูดใส่ย.อีกว่าต่อไปนี้จะไม่ยุ่งไม่สอนอะไรเราอีกแล้ว
ซึ่งย.ก็เสียใจกับคำพูดเหล่านี้

ถึงเวลานี้ หลังจากที่เราคุยกับแม่เค้า ก็ยังไม่มีการติดต่อมาอีก
มีแต่เพียงคำพูดที่ ย.พูดกับเราเมื่อวาน ด้วยเสียงที่สั่นคลือตอนที่เขาออกมาคุยข้างนอกว่า "เค้าไม่รุจะทำยังไง คบแบบนี้จะเห็นอนาคตไหม จะไปต่อกันได้ไหม ทำไมเวลาเค้าอยากดูแลใครแล้วต้องดูแลไม่ได้" ลงท้ายด้วย
"เค้ารักเรานะ รักเสมอ และไม่อยากให้เราต้องเป็นทุกข์ แต่ไม่รู้ว่าจะทำไง เขาเองก็ไม่ชอบที่ต้องหลบๆซ้อนๆเลย"
ก้องอยู่ในหัว เหมือนจะเป็น คำว่า "รัก" คำสุดท้ายที่เราจะได้ยินจากเขา

เราเลยตกลงกับเค้าว่าจะคบกันห่างๆ ห่างๆ นี่ก็คงไม่ต่างจากเลิกกัน
เพราะแม่ย.คงไม่ไปมาหาสู่กับบ้านเราอีก เราก็ไม่กล้าที่จะโทรไปเพราะกลัวว่าจะสร้างความอึดอัดให้ ย.และแม่ย.

แล้วถ้าเป็นแบบนี้ ดอกไม้ 9 ดอก เทียนแดง 9 เล่ม จะช่วยเราได้ไหมคะ

sugarpie's picture
sugarpie (visitor) said on Tue, 12/13/2011 - 04:51:

จะบอกว่าก่อนหน้านี้เราไม่เคยรู้ว่าที่หน้าเซ้นทรัลเวิร์ลเค้าไปไหว้ขออะไรกัน
มีอยู่วันหนึ่ง เราไปแพลตตินั่มกับเพื่อน แล้วก็เดินต่อมาเซ็นทรัลเวิร์ล ผ่านพระตรีมูรติและพระพิฆเนศ
ด้วยความกลุ้มใจ ณ ตอนนั้นที่มี เลยไหว้ขอพร ให้ทริปที่เรากับแฟนจะไปด้วยกันในวันรุ่งขึ้นนั้นผ่านไปด้วยดี ให้ทั้งทริปนั้นเราไม่ทะเลาะกัน มีแต่ความสุข เพราะเรากังวลใจมาก เป็นการไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรก และยิ่งที่ผ่านๆมา เค้าไปเที่ยวกับแฟนคนก่อนๆ ไม่ว่าคนไหนก็ทะเลาะกันทุกราย เราเลยยิ่งกลุ้ม กลัวกลับมาแล้วจะเลิกกัน ก็ยืนไหว้ขอพรไป ไม่ได้ถวายอะไร (เพราะไม่รู้เรื่องซักอย่าง แล้วเพื่อนก็เดินทิ้งไปไกลแล้ว)
ตลอดทริปเราก็ลุ้นอยู่แทบทุกนาทีว่าจะทะเลาะมั๊ยนะ เข้าขั้นจิตตก
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ราบรื่นมาก บางเรื่องที่คิดว่าทำแล้วเค้าจะโกรธก็กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จนวันเวลาผ่านไป เราลืมเรื่องที่ไหว้ขอพรนี้ไปแล้ว อยู่ๆวันหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัวว่า หรือที่เราขอพรไปมันจะได้ผลนะ และนึกขึ้นได้ว่าเหมือนเคยได้ยินมาว่าที่นี่เค้ามาขอพรเรื่องความรักกัน (แล้วเราก็มาลองเสริชข้อมูลดูนี่หละ)
อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อและวิจารณญาณNของแต่ละคนนะ แค่ลองเอามาเล่าสู่กันฟัง
แต่ที่แน่ๆเร็วๆนี้เราจะไปขอพรอีก (ไม่รู้ว่าไปขออีกจะเป็นไรมั๊ยนะ ดูขอเยอะไปมั๊ย กลัวท่านจะไม่ให้อะ T^T ) แต่กะว่าจะเอาของหวานหรือเครื่องดื่ม(อย่างที่เขียนไว้ข้างบน)ไปถวายขอบคุณสำหรับทริปนั้น และทริปที่สองกำลังจะตามมา ก็อยากให้ราบรื่นอีก อย่างน้อยการไปไหว้สักการะบูชาก็ทำให้จิตใจเราผ่อนคลายลดความเครียดไปได้บ้าง เหมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอีกทางหนึ่งเราว่า แต่ที่สำคัญที่สุดถ้าเรามีศรัทธาและจิตใจที่ดี ทำดี มันก็จะส่งผลดีต่อตัวเราเอง เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังกลุ้มใจทุกข์ใจในเรื่องความรักนะคะ

แค่ได้คิดถึง's picture
แค่ได้คิดถึง (visitor) said on Thu, 12/29/2011 - 21:17:

คู่เรา เลิกกันเพราะว่าเค้าติดเพื่อน เค้าอยากอยุคนเดียว ห่างกัน 1 เดือน เพื่อจะได้รู้ว่า เราต่างยังรักกันอยุหรือไม่ ทั้งๆที่เรารักเค้ามาก จนในที่สุดเวลา 1 เดือนที่เรารอ เค้ามาบอกเลิกเค้าบอกว่าเค้ารักเรามาก ยังคิดถึงอยุ แต่สิ่งที่เค้าทำ คือ ไม่อยากเสียใจอีก เราเจอกัน โทหา ส่งข้อความ แต่สุดท้ายก้เลิกกันอยุดี 4 เดือนแร้วที่ยังรัก ยังลืมเค้าไม่ได้เรย ยังห่วงใย ยังคิดถึงเค้าตลอด ละวันนี้เราได้ไปขอพรมา ขอให้เรากลับมารักกัน ได้มีความสุขด้วยกันเหมือนที่ผ่านมา ให้เราได้เจอกันอีก ได้เค้าดาวด้วยกัน แต่กลับมาก้ได้แต่นั่งร้องไห้ เห้ออออ อยากรุว่า จะได้นั่งเค้าดาวด้วยกันเหมือนปีที่ผ่านมาไม๊

eii's picture
eii (visitor) said on Sat, 02/25/2012 - 15:40:

คือเราเลิกกับแฟนมาจะเดือนนึงแล้วคะ อยากทราบว่าไปไหว้ขอพรไห้เค้ากับมาหาเราต้องไหว้ยังไงบ้างคะ ต้องไช้ธูปกี่ดอก เทียนกี่เล่มค่ะ เราไปไหว้มาเมื่อวานพฤหัสที่ 23 ตอน21.30 ถามคนที่นั้นเค้าบอกว่าไช้เทียน2เล่ม เราไม่แน่ใจแล้วไม่ทราบอะคะว่า เราไหว้ถูกไม๊ (เรายังไม่สบายไจเท่าไหร่ยังกังวลเรื่องไหว้ผิดอะคะ) แต่เราจะไปไหว้อีกที พฤหัสน่าอะคะ ขอคำแนะนำทีนะคะ

bombik's picture
bombik said on Sat, 02/25/2012 - 20:03:

ถามร้านขายดอกไม้ตรงข้างหน้าได้เลยค่ะ ว่าไหว้ต้องใช้อะไรบ้าง

eii's picture
eii (visitor) said on Sat, 02/25/2012 - 22:00:

วันนั้นเราถามเค้าแล้วค่ะ เค้าบอกให้เราไหว้เป็นคู๋อะค่ะ คือเทียน 2เล่มเลยอะคะ
แต่เราไปเหนมานะคะเหนเค้าจุดเทียนเล่มเดียวก็มีค่ะ คือเราไม่แน่ใจ อยากทราบจากคนที่ไปขอให้คนรักเก่ากลับมาเขาใช้เทียนกี่เล่ม งงตรงนี้และคะ
บางเว็ปก็บอกให้ไช้เทียนเล่มเดียวเฉพาะคนโสดหรือคนที่อยากไห้แฟนเก่ากลับมาอะคะ

eii's picture
eii (visitor) said on Sun, 02/26/2012 - 10:15:

ฉันเชื่อในศรัทธาแห่งรักของเทพพระตรีมูรติ ท่านคงช่วยให้ดิฉันได้พบเจอกับคนรักเก่า ได้กลับมารักกันอีกครั้ง ดิฉันเฝ้ารอคอยอย่างตั้งใจ ขอให้ท่ายดลบันดาลคำขอของดิฉันให้เป็นจริงด้วยเทิด สาธุ สาธุ สาธุ

^^'s picture
^^ (visitor) said on Wed, 02/29/2012 - 23:09:

ไปกี่โมงค่ะ จะไปพรุ่งนี้ จำเป็นไหมค่ะที่ต้อง 21 30 น
คือกลัวกลับดึกอ่ะค่ะ อยากให้แฟนกลับมาดีกัน :(

eii's picture
eii (visitor) said on Fri, 03/02/2012 - 20:12:

ที่อ่านมาเค้ากำหนดไห้ไปไหว้เวลานั้นอะคะ ถ้ากัวกับดึกก็ไปไหว้แล้วแต่ศรัทธาเลยคะ มาด้วยใจ ตั้งใจจะไหว้ ก็คงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ ขอแค่ตั้งใจจะมาก็พอคะ ขอให้แฟนกลับมารักเหมือนเดิมนะคะ ส่วนตัวเราเชื่อในความรักที่ท่านจะมอบให้คนรักเก่าของเรากลับมา ตอนนี้เราก็ทำบุน ทำดี ทำแต่สิ่งดีๆเข้าไว้ และทำต่อๆไป เราก็รอคำขอของท่านอยู่ สักวันท่านคงประทานให้แฟนเรากลับมา

Prince's picture
Prince (visitor) said on Tue, 04/24/2012 - 09:52:

อยากรู้ว่า ตอนกลางวันพวกดอกไม้พวงมาลัยที่หน้าศาลมีขายไหมอะ แล้วแก้บนต้องกลางวันใช่ไหม

เหวิ่ง's picture
เหวิ่ง (visitor) said on Tue, 05/01/2012 - 11:48:

ขอบุญที่เราได้ทำมาช่วยดลบันดาลให้เจอคนที่ดี เหมาะสมกับเราและเป็นเนื้อคู่ที่แท้จริง ขอให้พบเจอกันโดยเร็ววันด้วยเทิด สาธุ สาธุ (((ขอให้อย่าเจ้าชู้แลย)))

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS