เป็น Post ดองอีกตามเคย ไปมาเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา Post นี้จะพาไปไหว้พระขอพรที่วัดพระแก้ว หรือ ชื่อเต็มๆ ว่าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นวัดที่รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 ซึ่งเป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง และเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต หลังจากไหว้พระแล้วจะพาไปเดินต่อที่เซ็นทรัลเวิลด์ เห็นมีการจัดนิทรรศการของ ปตท สวยงามเลยเก็บภาพมาฝากกันค่ะ
ไปไหว้พระในเมืองทุกครั้ง เรามักเดินทางโดยทางน้ำ ขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าน้ำนนท์ ไปลงที่ท่าเตียน แล้วเดินออกมาจากท่าเรือ ด้านขวาจะเป็นวัดโพธิ์ท่าเตียน เราเลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าไปวัดพระแก้ว
เดินลัดเลาะกำแพงวังไปเรื่อยๆ
จนเลี้ยวมาที่ถนนหน้าพระลาน
ตึกฝั่งตรงข้ามวัดพระแก้ว
มุมที่ใครๆ ก็แวะถ่ายรูป
มุมกว้าง บริเวณนี้จะมีคนคอยดูเครื่องแต่งกายว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่นี่ห้ามใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว ตอนแรกคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะแต่งตัวเรียบร้อยอยู่แล้ว แต่พอถึงทางก่อนเข้าวัด จะมีอีกด่านนึงที่ตรวจอีกครั้ง ปรากฏว่ากางเกงที่เราใส่เป็นสี่ส่วน(ขายาวลงมาครึ่งแข้ง) แต่เลยขีดแดงขั้นต่ำของเขามานิดนึง ก็บอกให้เราออกไปเช่าผ้าถุงมาใส่ ผู้หญิงอีกคนใส่เสื้อตัวยาว กางเกงขาสั้น พอเขาบอกไม่ได้ ก็เลยถกกางเกงขาสั้นข้างในขึ้น และบอกว่าใส่ชุดแซก สั้นจนเห็นขาอ่อนก็เข้าได้ =.= อีกคนกระโปรงลูกไม้บานๆ สั้นเหนือเข่าก็เข้าได้ >_< ก็เลยคิดว่าถ้าใส่กระโปรง ไม่ว่าจะสั้นแค่ไหนก็ถือเป็นชุดสุภาพอย่างนั้นหรอ? งงกับคำว่าสุภาพของที่นี่มากๆ เจ้าหน้าที่อีกคนบอกว่า ให้เราดึงกางเกงลงมาอีกนิดเดียวก็จะถึงขีดแล้ว จะได้ไม่ต้องเดินออกไปเช่าผ้าถุง แต่เราก็ OK ไม่เป็นไร ถ้ามันไม่เป็นไปตามกฏ ก็ออกไปเช่าผ้าถุงดีกว่า เดินกลับออกไปเช่าผ้าถุงด้านหน้า 50 บาทเพื่อใส่ให้เรียบร้อยเข้าวัด
มาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ เท่าไหร่ ครั้งแรกรีวิวไว้ที่ >> ไหว้พระแก้วมรกต และชมความสวยงามของวัดพระแก้ว เข้ามาด้านในคนเยอะมากๆ
ด้านข้างของพระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต สวยงามมาก
พระแก้วมรกต จุดธูปเทียนบูชาด้านนอก และเข้าไปไหว้ด้านในได้ แต่ห้ามถ่ายภาพด้านใน ต้องออกมาถ่ายด้านนอกบริเวณนี้
ด้านข้างของพระอุโบสอีกด้าน
ด้านหลังเจดีย์สีทองคือปราสาทพระเทพบิดร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อปี พ.ศ.2395 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะในวันจักรี
ด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร จะมีสุวรรณเจดีย์(เจดีย์ทอง)อยู่ 2 องค์
บริเวณฐานของสุวรรณเจดีย์ จะมียักษ์และลิงแบกอยู่รอบๆ
จิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์
ที่บริเวณซุ้มประตูก็จะมีรูปยักษ์ต่างๆ ยักษ์ตนนี้คือชมภูพาน
พระอัษฎามหาเจดีย์ หรือ พระปรางค์ 8 องค์
ด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร
กินนร หน้าประสาทพระเทพบิดร
ตามตำนาน เขาพระสุเมรถือเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ล้อมรอบด้วยป่าหิมพาน ในที่นี้เปรียบประสาทพระเทพบิดรเป็นเขาพระสุเมร จึงมีรูปปั้นเหล่าสัตว์หิมพานต์ต่างๆ กินนร กินนรี อยู่รอบๆ
ยอดปราสาทพระเทพบิดร เป็นปรางค์ ซึ่งแต่เดิมเรียกว่า พุทธปรางค์ปราสาท
สุวรรณเจดีย์อีกมุม
ด้านหลังปราสาทพระเทพบิดรคือ พระมณฑป เป็นที่เก็บประไตรปิฎก
ด้านหน้าพระมณฑป มียักษ์เฝ้าหน้าประตูอยู่ 2 ตน
พระอุโบสถ
พระอัษฎามหาเจดีย์ หรือ พระปรางค์ 8 องค์ เรียงรายกันอยู่ เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่ปูชนียบุคคลและวัตถุในพุทธศาสนา คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระภิกษุณี พระปัจเจกโพธิ พระมหาจักรพรรดิ์ พระโพธิสัตว์ และ พระศรีอาริยเมตไตรย์(ผู้จะลงมาตรัสรู้ในอนาคต)
จากวัดพระแก้วแวะกินมนต์นมสดที่มาบุญครอง และมาเดินเที่ยวต่อกันที่ Central World
มีงานของ ปตท แต่จำไม่ได้ว่างานอะไร จัดสถานที่สวยดี
เป็นรูปหยดน้ำ
ตกแต่งด้วยดอกไม้สวยๆ
มองขึ้นไปด้านบน
ตกแต่งด้วยผักและผลไม้
หยดน้ำที่ทำมาจากดอกไม้
ตรงทางออก มีนกยูงทำมาจากกล้วยไม้
สี่แยกราชประสงค์
เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีลม
สี่แยกราชประสงค์
เดินตาม Sky Walker มาเรื่อยๆ เพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้ากลับที่สถานีชัดลม ^_^
ชมวัดพระแก้ว 360 องศา >> คลิกเพื่อชมวัดพระแก้ว 360 องศาค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^
