แชร์ประสบการณ์ ขั้นตอนการขอวีซ่าและสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกา(2)

จากตอนที่แล้ว แชร์ประสบการณ์ ขั้นตอนการขอวีซ่าและสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกา(1)

ตอนนี้จะเล่าถึงเรื่องการเตรียมเอกสารและบรรยากาศวันที่ไปสัมภาษณ์วีซ่า ก่อนไปตื่นเต้นเหมือนกันนะ ไปคนเดียว ยิ่งอ่านประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าในอินเตอร์เน็ต ที่แต่ละคนมาเล่าถึงการสัมภาษณ์และการได้มาซึ่งวีซ่าอเมริกาว่ายาก ยิ่งทำให้รู้สึกกลัว ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงก็น่าจะผ่านเพราะเราไปดูงาน มีจดหมายเชิญจากทางอเมริกา การงานก็มั่นคงมีเอกสารรับรองจากหน่วยงาน แต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี ก่อนที่จะถึงขั้นตอนการไปสัมภาษณ์ มาทบทวนขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกากันก่อน จาก Post ที่แล้ว ^_^

ขั้นตอนการขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา

เตรียมไฟล์รูปถ่าย ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางและข้อมูลส่วนตัวต่างๆ

1. เข้าไปกรอกแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า DS-160 ผ่านเว็บ แล้ว Print ใบยืนยันเก็บไว้
2. ซื้อ PIN ที่ไปรษณีย์ (ซื้อมาก่อนกรอก DS-160 ก็ได้ เพราะจะใช้ได้หลังบ่ายโมงของวันถัดไป)
3. เข้าไปนัดวันสัมภาษณ์วีซ่า โดยใช้รหัส PIN ที่ได้มา(ต้องกรอก DS-160 เรียบร้อยแล้วนะ)
4. ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปรษณีย์ แล้วเก็บใบเสร็จไว้
5. เตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม เดินทางไปที่แผนกกงศุลสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อสัมภาษณ์วีซ่า
6. ถ้าผ่านรอรับ VISA ทางไปรษณีย์(กรณีให้จัดส่งทางไปรษณีย์) ถ้าไม่ผ่านก็ถือ Passport กลับบ้าน

การเตรียมเอกสารไปสัมภาษณ์วีซ่า

หลังจากที่เรานัดสัมภาษณ์เสร็จแรียบร้อย ก็มาเตรียมเอกสารที่จะต้องนำไปในวันสัมภาษณ์ เราขอวีซ่าชั่วคราว B1 Business/Conference สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ ใบรับรองการทำงานจากหน่วยงาน และ จดหมายเชิญจากอเมริกา ตอนที่กรอก DS-160 ยังไม่ได้ดำเนินการขอเอกสาร ซึ่งผู้ใหญ่ใจดีที่ไปด้วยดำเนินเรื่องทำเอกสารให้ทั้งหมด (- /I -) เนื่องจากช่วงนั้นเราเข้าโรงพยาบาล รายละเอียดข้อมูลในเอกสาร

  1. จดหมายเชิญจากอเมริกามา ในนั้นมีชื่อเรา บอกชื่อกิจกรรมที่เราจะไปดูงาน วันที่และระยะเวลา สถานที่พักและอาหารการกิน ว่าทางนั้นเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ ชื่อผู้ที่รับผิดชอบและที่อยู่ผู้ติดต่อที่อเมริกา
  2. ใบรับรองการทำงานจากหน่วยงาน เราว่าอันนี้สำคัญสำหรับใครที่มีงานประจำทำ จะเป็นเอกสารที่แสดงให้เห็นว่า เรามีงานที่มั่นคงทำ ให้ทางสถานทูตมั่นใจว่าไปแล้วต้องกลับมาเมืองไทยแน่นอน ในเอกสารจะรับรองว่าทำงานที่หน่วยงานนี้ ตำแหน่งอะไร ทำมาแล้วกี่ปี เงินเดือนเท่าไหร่ ในระหว่างลาไปต่างประเทศก็ยังเป็นพนักงานที่นี่อยู่ เมื่อกลับมาต้องเขียนรายงานต่อหน่วยงาน และ หน่วยงานเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางครั้งนี้

นอกจากเอกสารสองอย่างที่พูดมาแล้ว เราก็ยังเตรียมเอกสารอย่างอื่นด้วย ซึ่งที่เตรียมไปก็ไม่ได้ใช้เลย แต่ก็เตรียมไปเพื่อความอุ่นใจ ซึ่งถ้าเขาขอดูขึ้นมาก็มีให้ดู คือ สมุดบัญชี และ Statement 6 เดือน จริงๆ ของเราในจดหมายรับรอง หน่วยงานเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ Statement ก็ไม่จำเป็น

สรุปเอกสารที่ใช้ตอนไปสัมภาษณ์วีซ่า

เอกสารที่ต้องถือไปด้วยในวันสัมภาษณ์วีซ่า(ข้อ 1-5 ทุกคนต้องเตรียมไปเหมือนกัน)

  1. Passport เล่มปัจจุบัน มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หากมี Passport เล่มเดิมด้วย ให้เอาไปด้วยทั้งหมด
  2. หน้ายืนยัน DS-160 ที่พิมพ์ออกมา
  3. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า ที่ไปรษณีย์ให้มาตอนไปชำระค่าวีซ่า ต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น และ  ชื่อในใบเสร็จต้องตรงกับชื่อของเรา ถ้าใครต้องการใช้ใบเสร็จไปเบิกกับหน่วยงาน แนะนำให้สำเนาไว้ เพราะเขาจะเก็บเอกสารนี้ไปเลยไม่คืนให้เรา
  4. ใบข้อมูลยืนยันการนัดหมาย ที่พิมพ์อออกมา
  5. รูปถ่าย เผื่อว่ารูปถ่ายที่เราโหลดเข้าไปจะมีปัญหา จะได้ใช้รูปที่เราเอาไปแสกนลงเครื่อง (ของเราไม่มีปัญหา รูปถ่ายที่นำไปเลยไม่ได้ใช้)
  6. ใบรับรองการทำงาน
  7. จดหมายเชิญจากสหรัฐอเมริกา

เราขอวีซ่าแบบ B1 Business/Conference เอกสารที่เราใช้ในวันนั้นก็มีแค่นี้ ส่วนใหญ่คนที่ขอวีซ่า B1 ก็จะขอวีซ่า B2 ด้วย ซึ่งตอนกรอก DS-160 จะสามารถเลือกชนิดของวีซ่าเพิ่มได้ ของเราพอได้วีซ่ามาก็ได้เป็นวีซ่า B1/B2 เหมือนกัน ส่วนคนที่ขอวีซ่าชนิดอื่นก็อาจจะต้องมีเอกสารเพิ่มเติมที่แตกต่างกันไป ตามที่สถานทูตกำหนด เช่น นักเรียนหรือผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน อาจจะต้องมีเอกสารเพิ่มเติมคือ I-20 หรือ DS-2019 ดูรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารได้ที่ >> //thai.bangkok.usembassy.gov

เอกสารอื่นๆ ที่จะนำไปในวันสัมภาษณ์แต่ละคนก็จะมีการเตรียมที่แตกต่างกันไป ซึ่งเราคิดว่าเตรียมไป ดีกว่าเขาเรียกดูแล้วไม่มี จากที่ได้อ่านเกี่ยวกับการไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาและเอกสารต่างๆ ที่ทางกงสุลจะขอเรียกดูและการที่ได้รู้จากการต่อคิวสัมภาษณ์ เอกสารที่เราคิดว่าควรเตรียมไปด้วย ซึ่งบางอย่างอาจจะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ก็ได้ อาจจะมีมากกว่านี้แต่ขอยกตัวอย่างแค่นี้ค่ะ

  • คนที่มีงานประจำทำ >> ใบรับรองการทำงานจากหน่วยงาน อันนี้สำคัญ
  • คนที่ทำธุรกิจส่วนตัว หริอเป็น เจ้าของกิจการ >> ใบทะเบียนพาณิชย์ หรือ หลักฐานที่แสดงว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจ หลักฐานทางการเงิน
  • ถ้าไปสัมภาษณ์เป็นครอบครัว(นัดสัมภาษณ์โดยใช้ PIN เดียวกัน) >> ทะเบียนบ้านตัวจริง
  • พ่อแม่ที่มี VISA อเมริกาแล้ว พาลูกไปขอวีซ่า >> ทะเบียนบ้าน สูติบัตร(กรณีที่เด็กยังไม่มีบัตรประชาชน) Passport ของพ่อและแม่(จริงๆ ถ้าไม่ได้เอาไปก็สามารถตรวจสอบได้ว่ามีวีซ่าแล้ว)
  • ถ้ายังไม่ทำงานหรือยังไม่มีรายได้ >> หลักฐานทางการเงินของผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายให้ ถ้าเรียนอยู่ก็หลักฐานว่ายังเรียนอยู่ที่ไหน
  • คนที่ไปเยี่ยมญาติหรือไปดูงาน >> จดหมายเชิญจากทางสหรัฐอเมริกา
  • นักเรียนจะไปเรียนต่อ >> หลักฐานทางการศึกษา เช่น Transcript ใบปริญญาบัตรหรือใบรับรอง หลักฐานทางการเงินของผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายในการเรียนให้
  • ถ้าไปท่องเที่ยวก็ต้องรู้ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างเผื่อเขาถาม หรือ จะมีโปรแกรมการท่องเที่ยวเลยก็ได้เผื่อไว้

ประสบการณ์วันไปสัมภาษณ์วีซ่า

ก่อนไปก็เตรียมเอกสารใส่แฟ้มไว้พร้อม ใช้คลิปหนีบแยกเอกสารที่ต้องใช้แน่ๆ กับเอกสารที่เอาไปเผื่อเขาขอดูออกจากกัน เรานัดสัมภาษณ์เวลา 7.10 น. ในใบข้อมูลยืนยันการนัดหมายให้ไปถึงก่อนเวลา 30 นาที ซึ่งเราควรจะต้องไปถึงสถานทูตก่อน 6.40 น. ข้อควรระวังคือควรเผื่อเวลาไว้ก็ดี เพราะถ้ามาสายมากเกิน 1 ชั่วโมง เขาอาจจะไม่ให้เราเข้าสัมภาษณ์และต้องไปนัดสัมภาษณ์ใหม่ เราเดินทางไปโดยรถแท็กซี่ ให้แท็กซี่มารับ 5.30 น. เผื่อเวลาไว้ ไปถึงก่อนดีกว่าไปสาย วันนั้นตื่นตีห้า แต่งตัวเรียบร้อยใส่ชุดทำงาน เราว่าการแต่งตัวก็สำคัญนะ สร้างความน่าเชื่อถือได้ส่วนหนึ่ง และที่สำคัญควรแต่งกายเคารพสถานที่ที่เราไป

แท็กซี่พาขึ้นทางด่วน มาถึงสถานทูตสหรัฐแผนกกงสุลเวลา 6.00 น. เห็นคนยืนเข้าแถวรออยู่บนฟุตบาทข้างกำแพง มีสายกั้นขนานกับกำแพง ก็เดินไปต่อแถว คนข้างหน้าเรามีประมาณ 20 กว่าคน ลูกป้าคนที่ยืนต่อจากเราบอกว่าข้างหน้าเรามี 26 คน ได้คุยกับป้าที่ยืนต่อคิวได้สัมภาษณ์รอบแรก 7.00 น. ซึ่งของเราน่าจะเป็นรอบต่อไป 7.10 น. รู้สึกว่าโชคดีที่วันที่เข้าไปนัดสัมภาษณ์มีรอบนี้ให้เลือกรอบเดียว เพราะว่ามาตอนเช้ารถไม่ติด และ การมาเข้าแถวยืนรออยู่ด้านหน้า ถ้าเป็นตอนบ่ายๆ คงร้อนมากๆ ด้านหน้าตรงทางเข้ามีน้ำดื่มไว้บริการ

เรายืนรออยู่จนถึงเวลาประมาณ 6.45 น. ก็มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงสองคนมาจัดแถวใหม่ ซึ่งคนที่ไม่ใช่เวลา 7.00 น. ให้ยืนชิดด้านซ้ายติดกำแพง ส่วนคนที่เป็นเวลา 7.00 น. ก็จะถูกเรียกเรียงขึ้นมาตามคิวที่ยืนอยู่ เพื่อมายืนอยู่แถวด้านขวา ตอนนี้เหลือคนที่อยู่ด้านหน้าเราที่ไม่ใช่รอบ 7.00 น. ประมาณ 8 คน พอเรียก 7.00 น. ครบ ก็ถึงคิวเวลานัด 7.10 น. แอบดีใจที่เรามาเป็นคนแรกของ 7.10 น. ^_^ เราย้ายไปต่อแถวด้านขวาของคนสุดท้าย 7.00 น. เจ้าหน้าที่จะบอกให้เราเอาเอกสารออกจากแฟ้มหรือซอง เปิด Passport หน้าแรกไว้ และเอาใบนัดหมายและ DS-160 ขึ้นมา แล้วจะเดินถามว่าขอวีซ่าชนิดไหนและเขียนเวลานัดและชนิดของวีซ่าด้วยปากกาเมจิก ไว้บนใบ DS-160 พร้อมทั้งแจกบัตรสีน้ำเงิน หากเป็นการขอวีซ่าถาวรจะเป็นอีกแถว ซึ่งวันนั้นตอนที่เราไป มีเพียงไม่กี่คน ส่วนผู้พิการ เด็ก คนชรา จะอยู่แถวพิเศษอีกแถวนึง

คิวจะเดินตามกันไปเรื่อยๆ จนขึ้นบันได และไปยืนรออยู่ด้านหน้าซึ่งจะมีประตูเข้าได้ 2 ทาง จะต่อแถวเป็น 2 แถวสั้นๆ ตรงนั้นจะเป็นห้องรักษาความปลอดภัยก่อนที่จะเข้าไปด้านใน ก่อนเปิดประตูกระจกเข้าไป ต้องแสดงบัตรสีน้ำเงินที่ได้รับแจกเมื่อสักครู่ จะอนุญาตให้เข้าไปไม่เกินทีละ 4 คน ขั้นตอนนี้ให้เตรียมบัตรประชาชนไว้ด้วย ด้านในจะเป็นเค้าท์เตอร์ เราต้องเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดออกมา ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กุญแจรถแบบรีโมท แฟลชไดร์ฟ เครื่องเล่นเพลง และ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ถ้ามีร่ม ให้เอาร่มออกมาจากกระเป๋าด้วยนะ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จะถูกเก็บไว้ในถุงสีดำมีกุญแจล็อคพร้อมกับบัตรประชาชนของเรา เจ้าหน้าที่จะมอบกุญแจให้กับเรา ส่วนกระเป๋าถือ เอกสารที่เตรียมมาและกุญแจที่เจ้าหน้าที่ให้มา ให้ใส่ลงไปในตระกร้า เพื่อนำเข้าเครื่องแสกน เราต้องยืนรอให้ของเราถูกแสกนเรียบร้อยก่อนและไม่มีปัญหา จึงจะเดินผ่านเครื่องแสกนเข้าไปรับของได้ กุญแจที่ได้มาคล้องไว้ที่มือก็สะดวกดี ส่วนร่มเขาจะเอาไปวางเรียงๆ ไว้บนเค้าท์เตอร์ด้านทางออก

เปิดประตูจากห้องนั้นออกมาด้านนอก ก็จะเป็นทางเดินลาดมีหลังคา มีช่องให้ยืนเข้าแถว ตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่ 2 คนเป็นคนเตรียมเอกสารใส่แฟ้มให้ และให้ใบส่งไปรณีย์สีฟ้ามาเขียนรายละเอียด เอกสารที่ไม่ใช้เจ้าหน้าที่จะคืนให้ เอกสารของเราก็มี ใบ DS-160 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่ามาเย็บติดกันไว้ เล่ม Passport หนังสือรับรอง และ หนังสือเชิญ ทุกอย่างใส่ไว้ในแฟ้มใส และให้นำแฟ้มนี้ไปยื่นที่ช่องด้านบน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน

เดินขึ้นทางลาดไปยืนต่อคิวที่ช่องด้านบน จะเป็นช่องกระจกคล้ายๆ ช่องจำหน่ายตั๋วใน BTS เจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิงคนไทยทั้ง 2 ช่อง การสนทนาจะพูดใส่ไมค์โครโฟนเล็กๆ เราจะได้ยินบทสนทนาของคนด้านหน้าเราด้วย ตรงนี้จะเป็นการตรวจเอกสาร สัมภาษณ์เบื้องต้นและแสกนลายนิ้วมือ หากมีเอกสารอะไรที่จำเป็นอีกเจ้าหน้าที่จะขอเอกสารนั้น อย่างพ่อแม่ลูกที่มาขอวีซ่าให้ลูกสาวอายุประมาณ 3-4 ขวบเจ้าหน้าที่ก็ขอสูติบัตร แต่เขาไม่ได้เอามาเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนใหญ่คำถามที่ถามก็.. ไปทำอะไรที่อเมริกา ไปนานเท่าไหร่ ทำงานอะไร ที่ไหน ฯลฯ ยืนต่อคิวอยู่ไม่นานก็ถึงคิวเรา เอาแฟ้มเอกสารยื่นให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตรวจดูเอกสาร แล้วก็จะเริ่มสัมภาษณ์เรา จำบทสนทนาได้คร่าวๆ ได้ประมาณนี้

เจ้าหน้าที่ : คุณจะไปทำอะไรที่อเมริกาคะ
bombik : สังเกตการณ์และดูงาน ... ค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ไปกี่วัน และ ไปเมื่อไหร่คะ
bombik : เราไปประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ ตั้งแต่วันที่...ถึง...
เจ้าหน้าที่ : ไป...แล้วคนอื่นๆ ได้วีซ่ากันหมดแล้วหรือคะ
bombik : ไม่ทราบค่ะ เพราะแยกกันมาขอวีซ่า
เจ้าหน้าที่ : มี Passport เล่มอื่นอีกไหมคะ
bombik : ไม่มีค่ะ เล่มนี้เล่มแรก (=.= Passport ว่างเปล่ามาก มีแค่วีซ่าญี่ปุ่นอยู่เท่านั้น)
เจ้าหน้าที่ : เล่มแรกในชีวิตเลยหรอคะ
bombik : ใช่ค่ะ เล่มแรกในชีวิตเลย
เจ้าหน้าที่ : คุณเป็น...อยู่ที่...ใช่ไหม
bombik : ใช่ค่ะ แต่เป็นในส่วนของ ... ค่ะ

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้อ่านป้ายด้านข้างให้จบ แสกนลายนิ้วมือ และคืนแฟ้มเอกสารพร้อมบัตรคิว และ แจ้งว่าให้ไปยืนต่อคิวได้ที่ช่อง 11

เดินมาด้านข้างและเปิดประตูกระจกเข้าไปในห้อง ด้านหน้าเราก็จะเป็นเค้าท์เตอร์ไม้ ที่มีกระจกกั้นระหว่างผู้สัมภาษณ์กับเรา เหมือนช่องด้านนอกที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ เราเดินเข้าไปต่อแถวช่อง 11 ซึ่งมีคนยืนรอต่อคิวอยู่หน้าเราประมาณ 5 คิว ซึ่งบางคนก็มาเดี่ยว บางคนก็มาเป็นครอบครัว และในช่องอื่นๆ อีกถ้าจำไม่ผิดก็มี 5 ช่อง ด้านซ้ายมือที่เราเข้าแถวอยู่มีอีก 5 ช่องแต่ไม่เปิด มีเจ้าหน้าที่คนไทยนั่งอยู่เพียงช่องเดียว ด้านขวามือจะเป็นเก้าอี้ที่นั่งรอจำนวนเยอะพอสมควร การสัมภาษณ์ก็เป็นไปคามคิวที่ยืนรออยู่ เราจะได้ยินบทสนทนาระหว่างผู้สัมภาษณ์กับผู้เข้าสัมภาษณ์คนอื่นๆ ด้วย เพราะผู้สัมภาษณ์จะพูดใส่ไมค์ ผู้สัมภาษณ์ช่องเรายืนสัมภาษณ์ด้วยนะ

ตอนเข้าไปในห้องใหม่ๆ รู้สึกตื่นเต้น ป้าที่เจอกันด้านหน้า กำลังสัมภาษณ์อยู่ในช่อง 11 พอดีและเดินถือ Passport กลับบ้าน นั่นหมายความว่าป้าไม่ได้วีซ่า =.= ระหว่างรอก็ฟังคนอื่นสัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ ช่อง 11 ที่เราสัมภาษณ์ เป็นฝรั่งผู้ชายยังหนุ่ม ใส่หมวกผ้าแหลมๆ ดูอารมณ์ดีและเป็นกันเองกับผู้สัมภาษณ์มากมีเสียงหัวเราะตลอด ทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียด แถมพูดภาษาไทยชัดมาก ช่อง 11 เป็นช่องแรกสุดทางซ้ายมือ ไล่ไปทางขวามืออีก 2 ช่องก็เป็นฝรั่งผู้ชายเหมือนกัน ส่วนที่ถัดไปเป็นช่องที่ 4 กับ 5 มองไม่เห็น แต่ได้ยินเสียงผู้หญิงไทยอยู่ช่องใดช่องนึง เพราะพูดภาษาไทยชัดมาก คาดว่าน่าจะเป็นคนไทย

ครอบครัวที่พาลูกมาขอวีซ่าก็สัมภาษณ์ช่องเดียวกับเรา เด็กถามถึงหมวกที่ผู้สัมภาษณ์ใส่อยู่ ก็เลยได้ทราบว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขา ช่องที่เรารอสัมภาษณ์จากป้าคนที่ไม่ได้หลังจากนั้นวีซ่าก็ได้วีซ่ากันทุกคน จนถึงคิวเรา ตื่นเต้น! เดินเข้าไปแล้วยื่นแฟ้มเอกสารพร้อมกับกล่าวคำทักทาย

bombik : ยิ้ม พร้อมกับยกมือไหว้ "สวัสดีค่ะ "
ผู้สัมภาษณ์ : รับเอกสารไปเอาออกจากแฟ้ม "สวัสดีครับ คุณ ... ใช่ไหมครับ"
bombik : ใช่ค่ะ ^_^
ผู้สัมภาษณ์ : How are you?
bombik : "I'm fine, Thank you." ไม่ได้ and you? ด้วยอ่ะ >_<
ผู้สัมภาษณ์ : หันไปทางคอมพิวเตอร์และหยิบเอกสาร และถามว่า "คุณพา...ไป....ใช่ไหม"
bombik : ใช่ค่ะ ^_^
ผู้สัมภาษณ์ : เอาเอกสารใบรับรองการทำงาน กับ จดหมายเชิญออกมาวางตรงหน้า กวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว ไม่ได้พูดอะไรอีกหันกลับไปทางคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็หยิบเอกสารใบสีฟ้ามายื่นให้ "เอาใบนี้ไปที่ไปรษณีย์นะครับ"
bombik : ดีใจมากได้วีซ่าแล้ว ^_^ รับเอกสารมาพร้อมกับยกมือไหว้ "ขอบคุณมากค่ะ Happy Birth Day ค่ะ"
ผู้สัมภาษณ์ : "โอ้ว..ขอบคุณมากครับ"

เป็นการสัมภาษณ์ที่สั้นมาก จากนั้นก็เดินออกมาที่ที่ทำการไปรษณีย์ ที่เป็นตู้อยู่ด้านข้าง(ตอนเดินเข้าไปก็จะเห็นว่าอยู่ด้านข้าง) ยื่นเอกสารใบสีฟ้าและชำระเงินค่าจัดส่ง 75 บาท ได้ซองและใบเสร็จมา ก็เขียนจ่าหน้าซองถึงตนเอง แล้วก็เอาซองไปให้เจ้าหน้าที่ซึ่งรอรับซองอยู่ตรงนั้น เขาจะตรวจอีกครั้งถ้าเรียบร้อยก็กลับได้ ทางกงสุลจะจัดส่ง Passport ให้ประมาณ 3 - 4 วันทำการ ซึ่งเราไปสัมภาษณ์วันจันทร์ วันพฤหัสบดีก็ได้รับ Passport แล้ว ^_^ เสร็จขั้นตอนที่ไปรษณีย์ก็เดินออกมาทางเดิม เข้าประตูด้านขวามือซึ่งเป็นทางออก โชว์หมายเลขที่กุญแจให้เจ้าหน้าที่ดู เพื่อรับของที่เราฝากไว้ และถ้ามีร่มอย่าลืมหยิบร่มที่วางไว้บนเค้าท์เตอร์มาด้วยนะ

เดินยิ้มออกมาจากแผนกกงสุล ^_^ ในความคิดของเรา สิ่งสำคัญของการขอวีซ่าชั่วคราวของอเมริกา คือ ถ้ากงสุลเชื่อมั่นว่า เราไปแล้วจะกลับมาเมืองไทยอย่างแน่นอน ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไรแอบแฝงอยู่ เตรียมเอกสารให้พร้อม ตอบคำถามด้วยความบริสุทธิ์ใจ การได้มาซึ่งวีซ่าก็ไม่ยาก

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^

67 comments on "แชร์ประสบการณ์ ขั้นตอนการขอวีซ่าและสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกา(2)"

warmypoko's picture
warmypoko (visitor) said on Wed, 07/18/2012 - 22:05:

จะไปเหมือนกัน แต่ไปงานแต่งเพื่อน อ่ะ ปีหน้า .....

bombik's picture
bombik said on Fri, 08/10/2012 - 21:55:

ฝากซื้อ กระเป๋า Coach ด้วย อิอิ

พ่อปัน ปัน's picture
พ่อปัน ปัน (visitor) said on Mon, 07/30/2012 - 17:17:

เค้าอาจจะกลัวว่าเราจะไปแย่งานคนของเค้าก็ได้ครับ....เลยมีขั้นตอนเยอะไปหน่อย...แต่ก็ดีใจด้วยครับ

bombik's picture
bombik said on Fri, 08/10/2012 - 21:56:

ขอบคุณค่ะ ใช่ค่ะคงกลัวว่าจะแอบไปทำงานแล้วไม่ยอมกลับ

Busara Belza's picture
Busara Belza (visitor) said on Tue, 02/12/2013 - 01:23:

อยากจะถามว่าคุณแม่ได้วีซ่าแล้วมีเวลาอยู่ในเมื่องไทยได้เท่าไหร่ค่ะ

Tom Tom's picture
Tom Tom (visitor) said on Thu, 08/23/2012 - 23:05:

เขียนได้ละเอียดมากค่ะ
ขอบคุณนะคะ

M@M's picture
M@M (visitor) said on Wed, 09/05/2012 - 12:54:

เรานัดสัมภาษณ์ พรุ่งนี้เช้าคะ ตื่นเต้นมากๆๆๆตอนนี้
ไม่รู้จะเป็นไงเหมือนกัน ยังไงขอกำลังใจด้วยนะคะ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Mon, 09/24/2012 - 12:35:

สัมภาษณ์เป็นไงบ้างคะ

bombik's picture
bombik said on Wed, 10/10/2012 - 21:55:

เข้ามาบอกไม่ทันว่าขอเป็นกำลังใจให้ ผลเป็นยังไงบ้างคะ มาเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ

ดัสอิท's picture
ดัสอิท (visitor) said on Mon, 10/08/2012 - 11:11:

ขอวีซ่าให้ลูกเราอายุ 3 ขวบ ต้องพาไปในวันสัมภาษณ์ด้วยไหม

bombik's picture
bombik said on Wed, 10/10/2012 - 21:52:

เท่าที่เห็นคนที่มาสัมภาษณ์ก่อนหน้าเรา มาขอวีซ่าให้ลูก ก็พาลูกมาด้วยนะคะ

 

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Sun, 10/14/2012 - 23:44:

ถ้าไปกับพี่สาวในการกรอกPin Code ของไปรษณีย์ ทำอย่างไรค๊ะ

chalida's picture
chalida (visitor) said on Sun, 10/14/2012 - 23:47:

กรอก Pin code ที่ซื้อจากไปรษณีย์ ให้พี่สาวแต่ไม่ทราบว่า ของตัวเองต้องทำอย่างไร ยังงงอยู่ค่ะ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Sun, 10/21/2012 - 12:01:

กรอกข้อมูลเสร็จแล้วแต่ไม่รู้ว่าต้อง upload รูปตรงไหนคะ

Benjawun Mauy 's picture
Benjawun Mauy (visitor) said on Wed, 10/24/2012 - 02:40:

นี่ก้อกำลังจะไปยื่นขอวีซ่า แต่ไม่แน่ใจจะขอวีซ่าถาวรหรือชั่วคราวก่อนดี จดทะเบียนสมรสมาจะเข้าสองปีแล้วคะ เอกสารของวีซ่าถาวรมีอะไรนอกเหนือจากที่กล่าวมารึป่าวคะ หรือจะแนะนำให้ไปดูที่ไหนได้บ้างมั้ยคะ ทำไมกลัวจังเลยก้อไม่รู้เรื่องวีซ่าอ่ะคะ

bombik's picture
bombik said on Wed, 10/24/2012 - 17:55:

ดูรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารได้ที่ >> http://thai.bangkok.usembassy.go

 

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Tue, 10/30/2012 - 21:32:

ใช้เวลานานกี่ชั่วโมงกว่าจะเสร็จค่ะ ตอบด่วนค่ะ

ผู้สนใจ's picture
ผู้สนใจ (visitor) said on Wed, 10/31/2012 - 14:29:

ได้ความรู้มากขึ้นค่ะ หากมีอะไรสงสัยขอคำแนะนำด้วยนะคะ

นฤมล's picture
นฤมล (visitor) said on Thu, 11/01/2012 - 14:21:

อยากทราบว่า การทำใบพาสปอร์ต ที่สถานทูตเมริกา มีเอกสารอารัยบ้างค่ะ คือว่าจะไปทำให้ลูก นะค่ะ เด็กอายุ สี่ ปี

bombik's picture
bombik said on Sat, 12/01/2012 - 22:45:

ดูรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารได้ที่ >> http://thai.bangkok.usembassy.go

 

Gittiboy's picture
Gittiboy (visitor) said on Fri, 11/02/2012 - 22:50:

ขอบคุณมากคับ เขียนได้ละเอียดดีมากคับ

วิไลวรรณ อินทะนาม's picture
วิไลวรรณ อินทะนาม (visitor) said on Sun, 11/11/2012 - 14:08:

เราจดทะเบียนสมรสแล้วในอเมริกาหลังจากนั้นดิฉันกลับมาเมืองไทย ถ้าจะกลับไปอเมริกาอีกเราต้องทำอย่างไร

Su's picture
Su (visitor) said on Wed, 11/14/2012 - 20:05:

เพิ่งไปสอบสัมภาษณ์เมื่อวันที่5พย.ผ่านแล้ว แต่ได้แค่ปีเดียวเอง ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มาแบ่งปันกันค่ะ

Oh's picture
Oh (visitor) said on Thu, 11/22/2012 - 14:20:

ไปสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6/11 โชคดีที่สัมภาษณ์ผ่าน ไปกันเป็น group บริษัท ประมาณ 10 กว่าคน ไม่ผ่าน 4 คน ส่วนใหญ่คนที่ไม่ผ่านจะโสด และตอบคำถามไม่ชัดเจน
ดังนั้น คนโสดต้องเตรียมตัว และเอกสารให้ละเอียดที่สุดจ้าขอบอก อะไรก็ได้ที่ยืนยันว่าคุณจะกลับมาประเทศไทยแน่นอน

4 คนที่ไม่ผ่านไปสัมภาษณ์ครั้งที่ 2 ผ่านเพียง 1 คน
ดูเหมือนคำถามง่ายมาก แต่ถ้าตอบไม่เคลียร์ก็แป่วละ

ขอให้ทุกคนที่ไปสัมภาษณ์ผ่านฉลุยนะ

Phubesth's picture
Phubesth (visitor) said on Thu, 11/22/2012 - 16:03:

ถ้าสมมุติขอผ่านแล้ว จะไปวันไหนก็ได้ใช่ไหมครับหรืออย่างไรครับ รบกวนด้วย

เบน's picture
เบน (visitor) said on Sun, 11/25/2012 - 23:18:

ทำใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่าหาย
พรุ่งนี้ต้องไปสัมภาษณ์
ที่สถานฑูตมีไปรษณีย์ให้ขำระเงินไหมคะ
ขอบคุณค่ะ

bombik's picture
bombik said on Sat, 12/01/2012 - 22:47:

ต้องชำระให้เรียบร้อยก่อนไปสัมภาษณ์ค่ะ เพราะมีการตรวจเอกสารก่อนเข้าไปด้านใน

 

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Thu, 12/06/2012 - 22:00:

จะไปเยี่ยมญาติ เอกสารของญาติจะต้องมีอะไรบ้างครับ แล้วญาติต้องติดต่อทางเมกาด้วยป่าวครับ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Thu, 12/06/2012 - 22:03:

ตอนไปสัมภาษณ์เราต้องรู้วันเดินทางของเราด้วยรึป่าวครับ

Nok's picture
Nok (visitor) said on Mon, 12/10/2012 - 20:32:

คุณสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยหรอคะ

Music monkey's picture
Music monkey (visitor) said on Tue, 12/18/2012 - 16:38:

ผมเพิ่งไป สัมภาษมาวันนี้เค้าก็ถามผม สั้นๆ เหมือนกันครับ

ผู้สัมภาษณ์: ไปเที่ยวหรอค่ะ
ผม: ครับผมไปเที่ยวครับ ผมได้สัญญากับแฟนไว้ว่าเราจะไปเที่ยวเมกากันเมื่อ 2 ปีที่แล้วก่อนที่แฟนผมจะเสีย
ผู้สัมภาษณ์: อะไรนะค่ะได้ยินไม้่ค่อยชัด
ผม : i promise my girlfriend before she die 2 year ago
ผู้สัมภาษณ์: ขอโทษนะค่ะที่ถามแฟนเสียแล้วหรอค่ะ
ผม : ครับแฟนผมเสียไป 2 ปี ครับ จากเหตุรถคว้ำ
ผม: ไปคนเดียวครับ
ผู้สัมภาษณ์:มีเพื่อนอยู่ที่เมกาหรอค่ะ
ผม: มีครับแต่ไม่ได้ติดต่อกันนะครับ ผมทราบแค่ว่าเพื่อนผมไปเรียนต่อเมื่อตอนมัธยมครับผม ทราบแค่ว่าไปเรียนที่เมกา
ผู้สัมภาษณ์: ยังทำงานที่นี่ใช่ไหมค่ะ
ผม: ใช่ครับ
ผู้สัมภาษณ์:มีแผนเที่ยวหรือยังค่ะ
ผม: มีแล้วครับจะไปที่ ...... แล้วไปที่น้ำตกไนแองกาล่าเป็นความฝันของแฟนผม
ผู้สัมภาษณ์: เรียบร้อยแล้วค่ะ เอา ใบนี้ไปยื่นให้ไปรษณีข้างหน้านะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ผม: ขอบคุณครับ (ในใจอยากถามว่าวีซ่าผมผ่านไหมT_T แต่ไม่กล้าถามก็เดินออกมาที่ไปรษณีเลย)

กลับมาบ้านด้วยความงงๆว่าวีซ่าเราจะผ่านไหมหวา T_T ได้แต่ภวานาเท่านั้น

namfon's picture
namfon (visitor) said on Thu, 12/20/2012 - 20:01:

สวัสดีค่ะ คือพอดีกำลังหาข้อมูลจะไปเยี่ยมครอบครัวที่อเมริกาค่ะไม่ทราบว่าเราต้องใช้เอกสารของครอบครัวอะไรบ้างคะ ต้องมีจดหมายจากทางนู้นมายืนยันหรือเปล่าคะและทางนู้นเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ และทางพ่อเลี้ยงต้องติดต่อกับทางสถานทูตเพื่อยินยันไหมคะ แล้วต้องยื่นขอวีซ่าแบบ ไหนคะ บังเอิญภาษาก็พูดไม่่ค่อยได้ด้วยค่ะ สัมภาษณ์เป็นภาษาไหมคะ รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

namfon's picture
namfon (visitor) said on Thu, 12/20/2012 - 20:05:

อีกคำถามนะคะ เราต้องจองตั๋วเครื่องบินก่อนเพื่อไปยื่นขอวีซ่าจำเป็นไหมคะ

jin's picture
jin (visitor) said on Sat, 02/02/2013 - 22:50:

จะไปสัมภาษณ์ขอวีซ่า วันที่ 5 ก.พ.56 นี้ แต่กังวลใจกลัวจะไม่ผ่าน
ทั้งตื่นเต้น และก็กลัว จะทำไงดีล่ะ

Snow Qween's picture
Snow Qween (visitor) said on Mon, 02/11/2013 - 12:08:

ทำไมง่ายจัง เราไปสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 มกรา เจอกับเจ้าหน้าที่ผู้ชายท่าทางดูเข้มงวด ถามไปได้ 3-4 ประโยค ขอดูเอกสาร แล้วหยิบใบสีขาวกากบาทที่ช่องแรก แล้วพูดว่า "ผมเสียใจด้วยนะครับ เสียใจจริงผมไม่สามารถออกวีซ่าให้คุณได้ เพราะผมไม่แน่ใจว่าคุณจะไปทำอะไร และไม่แน่ใจว่าคุณจะกลับมาที่ประเทศไทยรึป่าว" เหวอมากเลยค่ะตอนนั้น เป็นครั้งแรกด้วยก็เลยเดินออกมาแบบ งงๆ ไม่ได้ตอบโต้หรือแย้งอะไรสักคำ

muthita's picture
muthita (visitor) said on Wed, 02/20/2013 - 16:44:

เขียนละเอียดมากค่ะ มองเห็นภาพเลย

Anonymous pun's picture
Anonymous pun (visitor) said on Fri, 03/01/2013 - 07:09:

เราก็มีประสบการณ์ การสัมภาษณ์ไปอเมริกามาก่อนเหมือนกัน เมื่อต้นเดือน ก.ค 53 จําวันที่ไม่ได้ "และก็ไม่อยากจะจดจํา "เป็น จนท ผู้หญิงฝรั่ง (จมูกใหญ่ๆ) โดนสัมภาษณ์อย่างดุเดือด !! รู้สึกสับสนในตัวเองว่า เรามาขอวีซ่าหรือว่าเรามาขออะไรหว่า ...สรุป วีซ่าไม่ผ่าน ...เดินคอตกกลับบ้าน กับความรู้สึกที่แย่สุดๆ...และก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่า ทําไมมันยาก อย่างนี้..แต่เราก็ไม่ย่อท้อ พยายามอีกต่อไป ลองขออีกรอบ และตอนนี้เราก็อยู่ที่อเมริกาเข้าปีที่ 2 แล้ว และก็ว่าจะกลับไทย ปลายปี 56 นี้ ขอให้เพื่อนๆทุกๆคนที่กําลังจะไปขอวีซ่าก็ สู้ๆ นะจ๊ะ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Tue, 03/12/2013 - 21:11:

ขอบคุณนะครับ สำหรับข้อมูลดีๆๆ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Wed, 03/27/2013 - 21:31:

วันนี้ไปทำวีซ่ามาเศร้าจังวีซ่าไม่ผ่านท้อแล้วแหล่ะ....เฮ้อ:-((((

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Thu, 03/28/2013 - 22:18:

ขอบคุณมากค่ะ เขียนได้ดีมากเลยค่ะ ละเอียดดีมากเลยค่ะ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Thu, 04/11/2013 - 14:33:

ตอนนี้กำลังเดินเรื่องทำวีซ่าไปเยือนญาต ที่อเมริกา อยากได้รายละเอียดก่อนไปสัมภาษณ์ค่ะ และเอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้ประกอบ

ฉันเอง's picture
ฉันเอง (visitor) said on Mon, 05/06/2013 - 23:24:

สุภาพสตรีโสดขอวีซ่าจะยากมากครับ^^

เก๋'s picture
เก๋ (visitor) said on Thu, 05/16/2013 - 14:01:

เท่าที่สังเกตนะ หากอยากให้วีซ่าผ่านนะคะ ไม่ยากอย่างที่คิด เตรียมเอกสารให้พร้อม และแต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือ แบบเน็นหรูเลิศ เพื่อสถานทูตจะได้คิดว่ามีเงิน หากไปแล้วก็ไม่หนีหาย

หากเป็นวีซ่าท่องเที่ยวยื่นเองได้ เราเคยโทรไปปรึกษาที่หนึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวที่บอกว่ารับปรึกษาเรื่องยื่นวีซ่า ขอบอกนะไม่ต้องเสียเวลาไปปรึกษา ยื่นเองดีกว่า

โทรไปที่บริษัทท่องเที่ยว visa pass and travel service co.ltd. http://www.visapass-travel.com/ เห็นบริษัท่องเที่ยวนี้ตั้งอยู่ถนนวิทยุ นึกว่าจะดี โทรไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้ชาย มันพูดให้คำปรึกษาไม่ดี คนยิ่งกลุ้มใจ มันพูดเหมือนขอไปที แบบไม่ได้ให้คำแนะนำที่ดี หากใครโทรไปหามันก็ถือว่าโชคร้าย ไม่รู้ว่าพนักงานใหม่เปล่า ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้เลย กลับให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่

อุ้ม's picture
อุ้ม (visitor) said on Wed, 06/26/2013 - 18:08:

ขอบคุณสำหรับรายละเอียดนะคะ ขอสอบถามอีกหน่อยนะคะ วันที่ไปสัมภาษณ์เอกสารDS160 คือใบยืนยันที่มีรูปเราและบาร์โค๊ต ใช่มั้ย คะ ส่วนแบบฟอร์มที่เรากรอกใบสมัครไปแล้ว ที่กงสุลเค้าจะเปิดดูที่คอม ตอนเราไปสัมภาษณ์ใช่มั้ยคะ ตื่นเต้นจัง มีนัด 15/07/13 นี้แล้วคะ

ornwara's picture
ornwara (visitor) said on Tue, 07/16/2013 - 12:38:

วีซ่าเข้าอเมริกาหายไม่ทราบว่าจะต้องทำไงค่ะไปแจ้งความแล้วเคยได้10ปีเมือ่2ปีที่แล้ว

ชาตรี's picture
ชาตรี (visitor) said on Wed, 07/24/2013 - 00:28:

เคยได้รับใบกรีนการ์ดเมื่อปี 2006 แต่อยู่อเมริกาแค่ 3 เดือนแล้วกลับมาเมืองไทย ก็ไม่ได้ไปอีกเลย เป็นเวลา 7 ปีแล้ว ตอนนี้ถ้าจะไปอีกครั้งจะต้องทำอย่างไร เพราะกฎของ
กรีนการ์ดระบุว่าต้องไม่ออกจากประเทศอเมริกาเกินกว่า 1 ปี มีใครทราบบ้างครับแนะนำด้วยครับ

ToonToon's picture
ToonToon (visitor) said on Mon, 11/18/2013 - 22:32:

เคยได้เหมือนกันค่ะ มันไม่ Valid แล้วถ้าออกมาจากเมกาเกิน 1-2 ปี พอดีได้ตอนเด็กๆ โตหน่อยจะไปเรียน ต้องทำเรื่องคืนก่อนค่ะ ที่ตึกแดงๆ ตรงข้าม คืนกรีนการ์ด ง่ายมากเลยค่ะ เสร็จแล้วก็ข้ามถนนมาขอวีซ่านักเรียนต่อเลยค่ะ

แต่รุ้สึก SSN ยังใช้ได้อยู่นะคะ

tobKung's picture
tobKung (visitor) said on Tue, 08/06/2013 - 10:46:

ไปขอ วีซ่า มาแล้ว ไปวันที่5สิงหาคม นี้
ไปคนน้อยมาก สงไสจะเป็นวัน จันทร์ ครับ
ไปถึงไม่ต้องต่อคิว เดินไปทางประตูทางเข้า พนักงาน ตรวจชื่อแล้วเข้าไป ฝาก มือถือ เค้าห้ามเอามือถือเข้าไป
เสร็จก็ ไปให้ พี่สาว รปภ ตรวจอีก แล้วก็ เดินใจ ตุ้มๆต่อมๆ ไป ที่ตรวจ เอกสาร เค้าเอาเอกสารไป ไม่กี่อย่าเลย อุส่า เตรียม สำเนาบัตร สำเนาทะเบียนบ้านไป สำเนาทะเบียนรถ เค้าเก็บไปไม่กี่อย่างเอง
พอ เข้าสัมภาษ เค้าก็ ขอเอกสาร เพิ่มเล็กน้อย
คุยกัน อยู่ แค่ ไปทำไม มีคนรู้จักไม ทำงานอะไรที่นี้ เงินมาจากไหน ( เรามียอดเงินใน บัญชี สามแสน ) ก็ ตอบไปตามที่ถาม
คุยกัน ไม่ถึง 5 นาที เค้าเอาเอกสารดเราไป แล้วให้ไป ซื้อซอง ไปรษณี

ตอนนี้และ คือ คำถาม ว่าเรา ฝ่านหรือ ไม่ ใครตอบที อิอิอิ

Priss_Peter's picture
Priss_Peter (visitor) said on Wed, 08/14/2013 - 15:47:

จะไปสัมภาษณ์วันที่ 16 สค. เวลา 8.00 ค่ะ เป็นการขอครั้งที่ 2 ค่ะ ครั้งผ่านค่ะ แต่ได้แค่ 2 เดือน เลยต้องไปเมกาเพื่อรักษาประวัติ ไปขอพร้อมกัน 4 คน มีพ่อ แม่ พี่สาว ทุกคนได้ 10 ปี มีดิฉันได้ 2 เดือน เมื่อปี 2007 ไปขอรอบนี้ไปกับคุณลูกชาย พี่สาวและลูกพี่สาว เคยขอใจก้อยังตุ้มๆต่อมๆ เหมือนเดิม ภาวนาขอให้เจอกงสุลใจดี๊ ดี พอเลยค่ะ

Priss_Peter's picture
Priss_Peter (visitor) said on Tue, 08/20/2013 - 14:52:

ผู้ที่ไปสัมภาษณ์วีซ่าเมกา อย่าเอาไอแพดไปด้วยน่ะค่ะ เพราะไม่มีที่รับฝาก ให้ฝากได้แต่โทรศัพท์มือถืนคนละเครื่องค่ะ สรุปไปขอมารอบนี้เจอกงสุลหญิงใจดี ได้วีซ่า 10 ปี ทั้ง 4 คนเลยค่ะ

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS