Trip เกาะไหง 11-15 เมษายน 2552
ให้รางวัลกับชีวิตปีละครั้ง กะว่าจะไปเที่ยวทะเลไกลๆ ปีละครั้ง เห็นมีการโปรโมทปี 2009 เป็นปีเที่ยวตรัง สนใจเกาะรอกกับเกาะกระดานอยู่พอดี เลยตกลงว่าจะไปที่นี่
ซื้อทัวร์ของอินสยามจากงานเที่ยวไทยครั้งที่ผ่านมา เป็นเพคเก็จทะเลตรังรวมทุกอย่างเบ็ดเสร็จ ราคา 6,590 บาท -_-" (แอบแพง) มีราคาที่ถูกกว่านี้ถ้าเดินทางเอง แต่ช่วงสงกรานต์จะหารถหาเครื่องที่ไหนไป ก็เลยเอาสะดวกไว้ก่อน พักบนเกาะไหง 2 คืน เที่ยวเกาะเชือก เกาะม้า ถ้ำมรกต เกาะกระดาน เกาะรอกนอก เกาะรอกใน ตอนแรกลังเลใจว่าจะพักที่ไหนระหว่าง เกาะลันตา เกาะไหง และในเมืองตรัง แต่ไหนๆ ไปทะเลแล้วก็พักบนเกาะน่าจะได้บรรยากาศกว่า เลยเลือกพักเกาะไหง วันเดินทางต้องไปขึ้นรถที่สวนลุมพินี เวลานัด 17.30 น. รถออก 18.00 น.
รถจะจอดอยู่บริเวณข้างๆ สวนลุม ตลอดแนวรั้ว
มีรถของบริษัททัวร์หลายบริษัทมาก หาทัวร์ที่ตนเองจะไปโดยดูจากป้ายหน้ารถ
ไปก่อนเวลานิดหน่อย ก็เลยไปเดินเล่นในสวนลุมพินี
อยู่ ก.ท.ม. มาเกือบ 10 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่มาสวนลุม =.=
ร่มรื่นดี เห็นรถที่เราจะไปจอดเรียงรายอยู่นอกรั้ว
มีคนมาเดินเล่นและออกกำลังกายพอสมควร รวมถึงเจ้าตัวนี้ จระเห้บก ก็ออกมากับเขาด้วย 
ร่มรื่น บรรยากาศดี
มาพักผ่อนกันเป็นคู่ๆ เห็นแล้วน่าอิจฉาจริงๆ
รถออก 18.00 น. พร้อมเสริฟอาหารว่าง จากครัวการบินไทย
เบเกอรี่ 3 อย่าง น้ำผลไม้รวม 1 ถ้วย อ้วนๆ ทั้งนั้น
ผ่านเขาวังเพชรบุรี มีงานอยู่พอดี
อยู่บนรถนอนไม่ค่อยหลับ เมื่อยมากๆ สงสัยเป็นเพราะขายาว คนขาสั้นๆ คงนอนสบายกว่า
มาถึงกระบี่ประมาณตีห้ากว่าๆ รถไม่ติดเลย แวะส่งคน Group นึงทานข้าวเช้าที่ศรีเพชร ทัวร์นี้เขาใช้รถคุ้มมากๆ วิ่งวนรับส่งคนกระบี่-ตรัง ซึ่ง Group ที่ไปก็จะมีหลาย Group พักที่ต่างกัน ส่งคนที่ศรีเพชรเอากระเป๋าลง แล้วก็พาอีกหลายกรุ๊ฟไปทานข้าวที่เวียงทอง แล้วก็กลับมารับคนที่ศรีเพชร
จากนั้นก็ไปแวะทานอาหารเช้าและทำธุระส่วนตัวที่โรงแรมเวียงทอง ในตัวเมืองกระบี่อีกเช่นกัน
อาหารเช้าของเราคือ ข้าวต้มกุ๊ย+กับข้าว ไข่เค็ม กับผัดขิงอร่อยสุดแล้วล่ะ
บรรยากาศในเมืองกระบี่ยามเช้า ทานข้าวเสร็จก็เดินชมวิวแถวๆ นั้น
มีวิวสวยเหมือนกันแฮะ แถวนี้ กุ๊ยหลิน เอ้ย กุ้ยหลินในตัวเมืองกระบี่
จากนั้นก็ไปแวะรับคนที่โรงแรมศรีเพชรแล้วก็มุ่งหน้าไปตรัง ท่าเรือปากเมงที่จะไปขึ้นเรือไปเกาะไหง จากกระบี่ไปปากเมงระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง แล้วก็มาถึงท่าเรือปากเมง จ.ตรัง
รถใหญ่เข้าไปไม่ได้ ต้องลงแล้วเดินเข้าไปที่ท่าเรือเอง
ถึงแล้วท่าเรือปากเมง
สะพานท่าเรือยาวมาก เราต้องไปขึ้นเรือที่ศาลาปลายสะพานโน่น
ก่อนมาฝนตกเกือบทุกวัน กลัวเหมือนกันว่าฝนตกแล้วจะไม่สนุก แต่เห็นฟ้าแล้วค่อยโล่งใจ
ตู้ไปรษณีย์ สมเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเล
มาถึงท่าเรือประมาณ 10 โมงกว่าๆ ก็ยังขึ้นเรือไม่ได้ เพราะคนเยอะต้องต่อคิว รอนานมากๆ ระหว่างรอก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ มีรถตู้ประจำทางด้วยหรือนี่ เป็นรถตู้ ป2 ตรัง สิเกา ปากเมง อุทยานฯ แล้วก็เห็นมีรถตู้หาดใหญ่-ตรังวิ่งเข้ามาด้วย
ชักจะนานเลยเอาโน้ตบุ๊ค มาโหลดรูปจากกล้องมาดูกันดีกว่า
ทัศนยภาพบริเวณท่าเรือ ก็ใช้ได้ทีเดียว นั่งรอเรือจนเมื่อยสะพานนี้ถ่ายมาทุกมุมเลย
ร้านค้าที่เราไปนั่งรอเรืออยู่หน้าร้าน
ร้านนี้แทบจะมีขายทุกอย่างละมั้ง ขนาดครีมหมอจุฬายังมีขาย! ราคาน้ำดื่ม น้ำอัดลม ชาเขียวขายราคาปกติ แต่ขนมแพงกว่าปกติเช่นทาโร่ 20 บาท ขาย 25 บาท
เรือลำเล็กๆ ที่จอดเทียบท่าอยู่แถวนั้น
กว่าเรือจะมารับก็เที่ยงกว่าๆ ท้องร้องจ๊อกๆ เรือที่ไปเกาะไหงเป็น Speed Boat ของทางรีสอร์ท ถ้าขึ้นช้ากว่านั้นหน่อยก็ไม่มีที่นั่งแถมมีชูชีพไม่ครบคน บางคนถึงกับต้องนั่งบนพื้นเรือ บางคนต้องยืน เที่ยวหน้าเทศกาลเป็นแบบนี้หรอเนี่ย ~_~ จริงๆ ควรจะมีการจัดการที่ดีกว่านี้ มาถึงต้องนั่งรอ 2 ชั่วโมง ขึ้นเรือแล้วบางคนก็ไม่มีที่นั่ง หลายคนคงเซ็งรวมถึงเราด้วยเริ่มรู้สึกเซ็งนิดหน่อย จากจุดนี้เราต้องเผชิญชะตากรรมกันเอง เพราะไกด์ไม่ได้ไปกับเราด้วย บอกให้ดูตามแพลนที่ให้ไว้ ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้ปริ้นท์มา แต่ไม่เป็นไรเปิดดูในคอมพ์ได้
เรือแล่นมาได้ 25 นาทีก็มาเทียบท่าที่ท่าเรือเกาะไหงรีสอร์ท มีพนักงานต้อนรับตัวน้อยๆ ว่ายมารับกันเต็มไปหมด
ถึงแล้วเกาะไหงรีสอร์ท จุดเริ่มต้นของการเข้าค่ายพักแรม เอ้ย Trip นี้ งานนี้ถูกปล่อยเกาะของจริง
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาเยีี่่ยมชม
ติดตามต่อตอนที่ 2 พาเที่ยวเกาะไหง(2) : ถึงแล้ว..เกาะไหง
