Post นี้ดองอีกตามเคย ก่อนหยุดปีใหม่(27 ธันวาคม 2552) ไปขี่จักรยานเที่ยวในเมืองโบราณ จ.สมุทรปราการมา เพิ่งเคยไปเป็นครั้งแรก สนุกดี เหมือนได้ไปเที่ยวทั่วไทย บรรยากาศดี ขี่จักรยานเล่นสบายๆ เป็นที่เที่ยวอีกที่หนึ่งที่ไม่ใช่แค่เพียงที่เที่ยวเล่น แต่แสดงให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมความเป็นชาติไทยเลยทีเดียว
Trip ครั้งนี้เกิดจากการที่ไปเดินเที่ยวงานเที่ยวไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2552 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เห็นมีบัตรขายในราคา 100 บาท จากปกติ 150 บาท ก็เลยซื้อมา ใช้ได้ถึง 31 ธันวาคม 2552 รอมาจนเกือบหมดอายุเพิ่งจะได้ใช้ 
ก่อนไปแวะเติมพลังกันที่ BKK Grill ก่อน เมนูนี้น่าทานมากๆ 
กว่าจะออกมาทานข้าว กว่าจะเดินทางก็บ่ายกว่าเข้าไปแล้ว ถึงเมืองโบราณเกือบบ่ายสาม =.= ไม่คิดเลยว่าเมืองโบราณจะไกลขนาดนี้
พอไปถึงก็มีรถกอล์ฟมารับไปที่ขายตั๋ว รับแผนที่และตั๋วรับจักรยาน จากนั้นก็ไปติดต่อยืมจักรยาน(ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม) จริงๆ สามารถเลือกรถรางหรือจักรยานก็ได้ หรือถ้าไม่อยากเหนื่อยมากก็เช่ารถกอล์ฟขับเที่ยวได้จะคิดราคาเป็นชั่วโมง ถ้า 2 ที่นั่งก็ชั่วโมงละ 200 บาท 4 ที่นั่งก็ชั่วโมงละ 300 บาท หรือเอารถส่วนตัวขับเข้าไปก็ได้คิดค่าเข้าคันละ 300 บาท ปั่นจักรยานได้อารมณ์สุดแวะที่ไหนนานแค่ไหนก็ไ้ด้ อิอิ กะว่าจะอยู่จนเย็น หลังจากเลือกจักรยานแล้วก็ออกเดินทางกัน
บ่ายสองเกือบบ่ายสาม แดดกำลังร้อนแรงได้ที่เลย แต่ก็ไม่ได้ร้อนมากมาย เพราะมีลมเย็นๆ พัดตลอด ถ่ายรูปมาแต่จำชื่อสถานที่ไม่ค่อยได้ถ้าจำผิดก็ขออภัย พอเข้ามาก็จะเจอภาคใต้ก่อนเลย เริ่มจากพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
พระบรมธาตุไชยา สุราษฎร์ธานี
ตลาดโบราณ มีของขายจริงๆ บริเวณนี้จะคุ้นๆ เพราะเคยเป็นฉากถ่ายทำละครย้อนยุคหลายเรื่อง
ร้านขายของเล่นโบราณ
ตึกในตลาดโบราณ
หนังใหญ่
พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชบุรี
ต่อจากภาคใต้ก็จะเป็นภาคกลาง พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพฯ
พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท เสียดายไม่ได้เข้าไปดูด้านใน
ด้านในเมืองโบราณร่มรื่นมากๆ และกว้างมากด้วย วันที่ไปอยู่ในนั้น 3 ชั่วโมงยังดูไม่ครบทุกสถานที่เลย สงสัยต้องไปอีก
สะพานรุ้ง รุ้งคือสัญลักษณ์ของความสุข ความอุดมสมบูรณ์ และความสวยงามทางธรรมชาติ
ลองขึ้นไปบนรุ้งกันหน่อย
จะมีบันไดให้ขึ้นไปด้านบนสะพานรุ้งได้
ที่เห็นด้านหน้าคือศาลาทศชาติ
ขบวนเสด็จพยุหยาตรา ทางชลมารค
ศาลาพระอรหันต์
ศาลาพระอรหันต์ จะอยู่กลางน้ำ
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางแสดงปาฏิหาริย์
ขบวนเสด็จพยุหยาตรา ทางชลมารค
สวนพฤกษชาติในวรรณคดีไทย ส่วนนี้กำลังปิดปรับปรุง เพื่อซ่อมแซม
เรือสำเภาไทย ด้านบนสามารถขึ้นไปได้
จริงๆ ด้านในก็มีทางหลายทาง แต่เลือกไปไม่ถูก เลยขี่มาเรื่อยๆ ก็เข้าเขตภาคเหนือ เป็นส่วนของหมู่บ้านไทยภาคเหนือ บ้านแบบชาวเหนือที่มีสัญลักษณ์คือ กาแล ที่ติดไว้ที่ปั้นลมบนยอดของหลังคา
ร้านขายเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องจักสาน
ปฏิมากรรมกลางน้ำ
หอคำลำปาง
วิหารหลวงวัดมหาธาตุ สุโขทัย
วิหารหลวงวัดมหาธาตุ สุโขทัย
วิหารหลวงวัดมหาธาตุ สุโขทัย
ตลาดน้ำ มีอาหารและของขายจริงๆ แต่ตอนที่เราไปถึง ตลาดวายแล้ว
มีศาลเจ้าจีนด้วย ในตลาดน้ำบรรยากาศดีจริงๆ
เป็นฉากถ่ายทำละครได้สบายๆ
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
บรรยากาศบริเวณท่าน้ำในตลาดน้ำ
ท่าเรือจ้าง
จากตลาดน้ำก็ขี่มาเรื่อยๆ บริเวณนี้เขากำลังจัดดอกไม้กันอยู่เลย เป็นกล้วยไม้สีต่างๆ สวยดี
ที่เห็นด้านหน้าหลังคาสีส้มๆ คือ มณฑปพระพุทธบาทยืน อุตรดิตถ์ สะพานที่เห็นสีแดงๆ สามารถเดินข้ามไปเดินด้านใน ในส่วนที่เป็นยมโลกได้
ชอบตรงนี้ ลมเย็นๆ วิวสวยดีด้วย
ตรงนี้จัดสวนได้สวยดี
ถ่ายรูปเล่นอยู่บริเวณนี้และพักเหนื่อยอยู่สักพักก็เดินทางต่อ ตอนนั้นก็ประมาณ 5 โมงแล้ว
พาโนรามาสักรูป
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
จากนั้นก็เดินทางต่อ
ผ่านหมู่บ้านไทยภาคกลาง
หอไตร วิหารลานช้าง และ พระธาตุพนม นครพนม
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
จากนั้นก็มาปราสาทพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ตรงนี้จะต้องเดินขึ้นไปหลายชั้น
ทางไม่ชันมาก เดินสบายๆ เหมือนมาเขาพระวิหารจริงๆ เลย 
จากที่ขี่จักรยานเที่ยวสถานที่ต่างๆ มา ที่นี่เป็นที่ที่สุดยอดจริงๆ มันคือสถานที่ที่จำลองมา แต่ก็จำลองแบบคล้ายของจริงที่สุด คงใช้เงินมากมายในการสร้าง
ต้องเดินขึ้นไปให้ถึงยอด ตัวปราสาทที่สร้างในเมืองโบราณนี้จำลองมา 1 ใน 3 ของของจริง
ซุ้มประตู
มองผ่านทะลุถึงกันได้
มีธงของประเทศไทย สมัยก่อนปักอยู่ด้วย
ขึ้นไปด้านบน มองเห็นวิวรอบๆ ได้อย่างชัดเจน
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
วิวรอบๆ เมืองโบราณ
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
วิวอีกด้าน แถบนั้นยังเป็นที่นา แต่ไกลออกไปเป็นโรงงานอุตสาหกรรม
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นปราสาทหินพนมรุ้ง ที่บุรีรัมย์ใช่หรือเปล่า
พระอาทิตย์เกือบตกดินแล้ว ใกล้จะหกโมง
พระพุทธบาท สระบุรี สวยมากทำเหมือนต่างกันแค่ขนาดเอง
พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท อีกด้าน ตอนพระอาทิตย์ใกล้ตก
ป่าเจดีย์
แล้วก็วนมาออกทางเดิม ผ่านหอพระไตรปิฎกและหอระฆัง
เกือบหกโมงแล้วต้องรีบออก ยังไปได้ไม่ทั่วยังไม่ได้ไปตั้งหลายที่ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงกับการปั่นชมรอบๆ ไม่ได้เข้าไปดูด้านในเลย ถ้าจะดูให้ครบทุกอย่างและดูด้านในด้วย คงต้องใช้เวลาทั้งวันตั้งแต่เปิดจนถึงปิด ถ้ามีโอกาสจะไปปั่นจักรยานเที่ยวอีก ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ จักรยานก็ OK ปั่นไม่ค่อยกินแรง
เป็นที่เที่ยวอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจมาก ถ้าพาเด็กๆ ไปเที่ยวคงได้ความรู้หลายๆ อย่างทั้งด้านสถานที่ ศิลปะวัฒนธรรม และความเป็นชาติไทย
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ
