แชร์ประสบการณ์ ขั้นตอนการขอวีซ่าและสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกา(1)

เพิ่งไปสัมภาษณ์วีซ่ามาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และได้วีซ่า(B1/B2) ระยะเวลา 10 ปีมา ก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ ขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกา และ การไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาที่สถานกงศุลค่ะ ได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับการขอวีซ่าอเมริกามาเยอะ ได้สัมผัสมาด้วยตัวเองก็เลยเอามาเล่าให้ฟังและรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น เผื่อว่าอาจจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลค่ะ ^_^


ภาพจาก Wikipedia

เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับข่าวดีว่าหน่วยงานที่เราทำงานอยู่ เลือกเราไปสังเกตการณ์และดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงต้องรีบดำเนินเรื่องการขอวีซ่าเพราะวันเดินทางอีกไม่นาน ตอนนั้นยังไม่รู้ขั้นตอนอะไรเลยเกี่ยวกับการขอวีซ่าอเมริกา ผู้ใหญ่ที่จะเดินทางไปด้วยกันก็ดำเนินเรื่องให้ คือ ซื้อ PIN จากที่ทำการไปรษณีย์มาให้ และ ให้ตัวอย่างการกรอกเอกสารออนไลน์มา บอกว่าเราต้องเข้าไปกรอกเอกสาร DS-160 ผ่านเว็บ และให้ไปปรึกษาพี่ที่มีประสบการณ์ในการกรอกเอกสารและเคยไปมาเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้คำแนะนำในการกรอกเอกสารมาว่าจะต้องกรอกอะไรอย่างไร กลับมาก็ลองเข้าไปในเว็บที่จะต้องเข้าไปกรอก ปรากฏว่ามันต้องใช้รูปถ่ายแบบดิจิตอลเพื่อ Upload รูปไปในแบบฟอร์มด้วย ก็ต้องออกไปถ่ายรูปที่ร้านและขอไฟล์รูปมา เอาเป็นว่าเริ่มเล่าตั้งแต่รูปถ่ายเลยละกัน ^_^

รูปถ่ายที่ใช้ในการขอวีซ่าอเมริกา

ต้องเป็นรูปขนาด 2 x 2 นิ้ว เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ไม่ใช่รูปถ่าย 2 นิ้วปกติทั่วไป พื้นหลังต้องเป็นสีขาว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ถ่ายหน้าเต็ม ถ้าจะให้ดีสัดส่วนใบหน้าในรูปต้องไม่น้อยกว่า 50% ของพื้นที่รูปทั้งหมด เรียกได้ว่าเห็นหน้าใหญ่ชัดเจนเลยทีเดียว จากที่เสพเดี่ยวของโน้ตอุดมที่พูดถึงเรื่องใบหูในรูปถ่ายที่ใช้ขอวีซ่าอเมริกา ก่อนถ่ายก็เก็บผมเรียบร้อย ทำผมเปิดใบหูให้เห็นใบหูชัดเจนจะได้ไม่มีปัญหา

จริงๆ ง่ายๆ เวลาไปถ่ายรูปก็บอกเขาว่า มาถ่ายรูปไปขอวีซ่าอเมริกา ทางร้านเขาจะทราบว่าต้องใช้แบบไหน บอกว่าต้องการไฟล์รูป ทางร้านจะ Write ใส่แผ่นซีดีมาให้ รูปจะเหมือนตัวจริงที่สุด เพราะจะไม่มีการตกแต่งใดๆ ในรูปทั้งสิ้น ของเราไปถ่ายที่ร้าน Master ถ่ายเสร็จก็ขอไฟล์มาเลย ไฟล์ที่ใช้ได้ต้องเป็นไฟล์ .jpeg ขนาด 600 x 600 หรือ 1200 x 1200 ขนาดของไฟล์จะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 240 เมกกะไบต์ ไม่งั้นจะ Upload ไม่ได้

สรุปเรื่องรูปถ่ายคือ

1. เป็นรูปที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
2. พื้นหลังสีขาว
3. ถ่ายหน้าเต็ม หน้าตรง
4. เป็นไฟล์ .JPEG หรือ .jpg ขนาดกว้าง x สูง 600x600 พิกเซล และ 1200x1200 พิกเซล
5. ขนาดของไฟล์จะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 240 กิโลไบต์(KB)
6. ภาพจะต้องไม่ถูกปรับแต่งใดๆ

ขั้นตอนการขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา

หลังจากได้ไฟล์รูปถ่ายมาแล้ว และเตรียมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทางและข้อมูลส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็มาหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเราจะต้องทำอะไรอีกบ้าง นอกจากเข้าไปกรอก DS-160 ในเว็บแล้ว ก็ได้รู้ขั้นตอนต่อไปว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร สรุปขั้นตอนการขอวีซ่าคร่าวๆ คือ

1. เข้าไปกรอกแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า DS-160 ผ่านเว็บ แล้ว Print ใบยืนยันเก็บไว้
2. ซื้อ PIN ที่ไปรษณีย์ (จริงๆ ซื้อมาก่อนกรอก DS-160 ก็ได้ เพราะจะใช้ได้หลังบ่ายโมงของวันถัดไป)
3. เข้าไปนัดวันสัมภาษณ์วีซ่า โดยใช้รหัส PIN ที่ได้มา(ต้องกรอก DS-160 เรียบร้อยแล้วนะ)
4. ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปรษณีย์ แล้วเก็บใบเสร็จไว้
5. เตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม เดินทางไปที่แผนกกงศุลสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อสัมภาษณ์วีซ่า
6. ถ้าผ่านก็รอรับ VISA ทางไปรษณีย์(กรณีให้จัดส่งทางไปรษณีย์) ถ้าไม่ได้ก็ถือ Passport กลับในวันสัมภาษณ์เลย

ในแต่ละขั้นตอนที่บอกมาข้างบน จะขอเล่าในรายละเอียดแต่ละขั้นตอนนิดนึงค่ะ

1. เข้าไปกรอกข้อมูลสมัครวีซ่า DS-160 แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ >> https://ceac.state.gov/genniv ขวามือด้านบนสามารถเลือกภาษาที่จะเป็น Tooltip ได้ คือเป็นตัวช่วยทางภาษาในการกรอกแบบฟอร์ม พอเราเอาเม้าส์ไปวางก็จะมีคำแปลภาษาที่เราเลือกขึ้นมาให้อ่าน ว่าในส่วนนั้นหมายความว่าอย่างไร

เลื่อนลงมาอีกนิดตรงนี้ให้เลือกสถานที่ที่จะสมัครวีซ่าประเทศไทยจะมีให้เลือก 2 ที่คือ THAILAND, BANGKOK กับ THAILAND, CHIANGMAI ก็เลือกไป แล้วก็เลือก tooltip langguage เป็นภาษาไทย

ด้านล่างจะมีให้ทดสอบรูปถ่ายของเราว่าใช้ได้หรือไม่ จะทดสอบเลยหรือว่าจะเข้าไปกรอกแบบฟอร์มก่อนก็ได้ ถ้าทดสอบระบบจะให้ Upload ไฟล์รูปของเราเข้าไป แล้วจะบอกว่ารูปใช้ได้หรือไม่ หลังจากนั้นก็เลือก Start a New Application ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการกรอก DS-160

การกรอก DS-160 ควรจะเตรียมข้อมูลต่างๆ ไว้ให้พร้อม เช่น Passport ข้อมูลและที่อยู่ผู้ติดต่อที่สหรัฐอเมริกา และข้อมูลอื่นๆ เช่น วันเดือนปีเกิด และ ชื่อภาษาอังกฤษของพ่อแม่ ฯลฯ ซึ่งทางสถานทูตได้จัดทำคู่มือและคำแนะนำขั้นตอนการกรอกแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า DS-160 ผ่านทางเว็บไซต์อย่างละเอียดไว้แล้ว สามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาอ่านทำความเข้าใจก่อนกรอกได้ >> ดาวน์โหลดคู่มือกรอก DS-160 << เวลากรอกให้ save ไว้เรื่อยๆ ค่ะ เพราะถ้าหยุดกรอกข้อมูลเกิน 20 นาที ระบบจะให้ทำการกรอกข้อมูลใหม่ ถ้าเรา save ไว้จะได้ไม่ต้องกรอกใหม่ทั้งหมด รวมถึงกรณีที่อินเทอร์เน็ตหลุดด้วย

เมื่อกรอกเสร็จทั้งหมด ระบบจะให้ตรวจสอบข้อมูลในแต่ละส่วนให้ถูกต้องอีกครั้ง ซึ่งในขั้นตอนนี้เรายังสามารถที่จะแก้ไขข้อมูลได้ หากพบว่ามีส่วนที่ผิดหรือยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อเรากดส่งข้อมูลยืนยันครั้งสุดท้ายไปแล้ว เราจะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้อีก เสร็จแล้วให้เรา Print เอกสารยืนยันออกมา หรือ จะเลือกให้ส่ง E-Mail แล้วค่อยมา Print เอกสารในภายหลังก็ได้ ตัวอย่างเอกสารในภาพด้านล่าง ขอเซ็นเซอร์หน้านิดนึง >_< เอกสารจะมี 2 หน้า  หน้าแรกจะมีข้อมูลต่างๆ และ Barcode ใต้บาร์โค้ดมีรหัส DS-160 ที่กรอกไป(ในภาพเราลบออกไปค่ะ) เราจะใช้รหัสตรงนี้ในการกรอกนัดวันสัมภาษณ์ และก็มีคำแนะนำอยู่ด้านล่างต่อด้วยหน้า 2 อย่าลืม Print ไปทั้ง 2 หน้านะคะ(แต่พอไปถึงเขาก็ดึงหน้า 2 ออก)  แล้วที่สำคัญต้อง Print ตรงบาร์โค้ดให้ชัดเจนค่ะ เคยมีคนรู้จัก Print ไปไม่ชัดเจน เครื่องอ่านบาร์โค้ดอ่านไม่ได้ ต้องเสียเวลากลับมา Print เอกสารใหม่อีก

2. ซื้อ PIN ที่ที่ทำการไปรษณีย์ หลังจากที่กรอกข้อมูลใน DS-160 เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเข้าไปนัดวันสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ ก่อนที่เราจะเข้าไปนัดวันสัมภาษณ์ได้ จำเป็นจะต้องมี PIN ก่อน โดยที่เราจะต้องไปซื้อ PIN จากที่ทำการไปรษณีย์ โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ขอซื้อ PIN นัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาทางเว็บไซต์ แจ้งชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษที่ตรงกับ Passport หมายเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ เขาก็จะพิมพ์ Code PIN ใส่กระดาษ(คล้ายๆ กับกระดาษเวลาที่เราไปส่งพัสดุลงทะเบียน) ในนั้นจะระบุชื่อเรา หมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และรหัส PIN ซึ่งเป็นตัวเลขจำนวน 15 ตัว อยู่ตรง Pin Generator no. : และทางไปรษณีย์จะให้เอกสารแนบมาอีกแผ่น เป็นเอกสารการขอรับบริการข้อมูลวีซ่า ก็จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ PIN

PIN ที่ใช้นัดสัมภาษณ์ทางเว็บไซต์ราคา 384 บาท(12 USD) ซึ่งรหัส PIN จะมี 2 แบบคือ รหัส PIN ที่ใช้ทางเว็บไซต์ และ รหัส PIN ที่ใช้ทางโทรศัพท์ซึ่งราคาแพงกว่า(20 USD) PIN จะไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ ต้องเป็นผู้ที่มีชื่อซื้อ PIN นั้นเท่านั้น แต่จะมีในกรณีที่คนในครอบครัวที่อยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน สามารถใช้ PIN ร่วมกันได้ ซึ่ง 1 PIN สามารถใช้ได้สูงสุด 5 คน และ PIN มีอายุ 90 วันหลังจากที่ซื้อ จริงๆ เราซื้อ PIN มาเตรียมไว้ก่อนก็ได้ เพราะว่า PIN จะใช้งานได้ หลังจาก 13.00 น. ของอีกวันหลังจากที่ซื้อ PIN

3. การนัดวันสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ หลังจากที่กรอกข้อมูลใน DS-160 เรียบร้อยแล้ว เราก็มานัดวันสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ที่ >> https://thailand.us-visaservices.com << ด้านบนสามารถเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้ ก็ทำตามขั้นตอนเอกสารที่ไปรษณีย์ให้มาตอนซื้อ PIN พอเข้าไปตามลิ้งค์แล้วให้เลือก วีซ่าและการนัดหมาย หรือภาษาอังกฤษจะเป็น Visa Information and Appointments

เมื่อเข้าไปแล้วก็เลือกว่าจะสมัครสัมภาษณ์วีซ่าที่ใด ระบบจะให้เราสร้างชื่อผู้เข้าใช้ โดยกำหนด username และ password เอง ซึ่งเราจะต้องจำให้ได้ว่า Login ที่เราสร้างคืออะไร เพื่อที่จะสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงการนัดหมายได้ในภายหลัง ซึ่งเราสามารถนัดสัมภาษณ์และยกเลิกการสัมภาษณ์ได้ 2 ครั้ง จากนั้นก็ใส่เลข PIN ที่ซื้อมา(ดูจากตรง Pin Generator no.) และทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าไปสู่หน้าที่ให้เลือกวันสัมภาษณ์ จะเป็นปฏิทินมาให้เราเลือกวันที่เราต้องการ ในช่องวันที่ที่เป็นสีเขียวคือเราสามารถที่จะนัดสัมภาษณ์ในวันนั้นได้ ส่วนช่องที่เป็นสีส้มคือคิวนัดสัมภาษณ์วันนั้นเต็มแล้ว ให้คลิกเข้าไปในช่องสีเขียวในวันที่เราต้องการ ก็จะมีเวลาขึ้นมาให้เลือกว่าเราต้องการเวลาใด หากเวลาไหนเต็มแล้วก็จะไม่ปรากฏมาให้เลือก วันที่เร็วสุด ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นมีคนนัดสัมภาษณ์มากน้อยแค่ไหน

ตอนที่เรานัดสัมภาษณ์วันที่ 25 เดือนที่แล้ว วันที่เร็วสุดคือวันที่ 11 ของเดือนนี้ ก็ประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆ เลยทีเดียว การดูตารางนัดสัมภาษณ์ บางทีเข้าไปดูในครั้งแรกบางวันอาจจะไม่ว่าง แต่พอเวลาผ่านไปเข้าไปดูอีกครั้งอาจจะว่าง เนื่องจากอาจจะมีบางคนที่นัดสัมภาษณ์ในวันนั้นยกเลิกหรือเลื่อนไปสัมภาษณ์วันอื่น >> ตัวอย่างการใช้ PIN ในการเข้านัดสัมภาษณ์ << เมื่อทำการนัดสัมภาษณ์เสร็จเราจะต้อง Print เอกสารข้อมูลยืนยันการนัดหมายมาเก็บไว้ ในนั้นก็จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการนัดหมายต่างๆ ข้อมูลเกี่ยวกับ PIN และวันสุดท้ายที่เราจะสามารถแก้ไขข้อมูลได้ วันที่เราไปสัมภาษณ์จะต้องนำใบนี้ไปด้วย อย่าลืมเป็นอันขาด (ในภาพมีการลบข้อมูลบางส่วนออกไปนะคะ)

สำหรับคนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ก็สามารถที่จะขอเร่งรัดการสัมภาษณ์วีซ่าชั่วคราวได้ ซึ่งจะมีการพิจารณาเป็นรายกรณี >> ข้อมูลการขอเร่งเร่งรัดการสัมภาษณ์วีซ่าชั่วคราว <<

หลังจากที่นัดสัมภาษณ์เสร็จหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็รอที่จะไปสัมภาษณ์ตามวันและเวลาตามใบยืนยันการนัดหมาย หากต้องการเปลี่ยนแปลงวันนัดสัมภาษณ์ก็สามารถที่จะเข้าไปในเว็บ แล้ว Login โดยใช้ Username และ Password ที่เราตั้งไว้ เปลี่ยนแปลงวันนัดสัมภาษณ์ได้ 2 ครั้ง

4. ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปรษณีย์ เมื่อนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าเรียบร้อยแล้ว ก่อนไปสัมภาษณ์อย่าลืมไปชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปรษณีย์ ซึ่งชำระได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์เท่านั้น ไปบอกเขาว่ามาชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา เขาก็จะให้ใบสีฟ้าๆ แบบในภาพมากรอก ที่ไปรษณีย์จะมีตัวอย่างการกรอกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง กรอกเสร็จก็ไปชำระค่าธรรมเนียมที่เค้าท์เตอร์ ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเภทธุรกิจ ท่องเที่ยว นักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนและอื่นๆ 5,120 บาท จากนั้นเขาจะปริ้นท์ใบเสร็จการชำระค่าธรรมเนียมสีขาวเย็บติดมากับใบสีฟ้าคืนมาให้ ในวันที่ไปสัมภาษณ์วีซ่าจะต้องนำใบเสร็จนี้ไปแสดงด้วย

เอกสารและข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา

ข้อมูลการขอวีซ่าเยี่ยมเยียนหรือวีซ่าชั่วคราวจากเว็บของสถานทูตสหรัฐอเมริกา
>> //thai.bangkok.usembassy.gov/non-immigrant_visas.html <<

เอกสารวิธีการสมัครวีซ่าสหรัฐอเมริกา
>> ดาวน์โหลดเอกสารวิธีการสมัครวีซ่าจากเว็บสถานทูตสหรัฐอเมริกา <<

ว่าจะเขียนเล่าคร่าวๆ เขียนไปเขียนมาชักเริ่มยาว เอาเป็นว่ายกไปตอนต่อไปนะคะ จะมาเล่าประสบการณ์การไปสัมภาษณ์วีซ่าและการเตรียมเอกสารต่างๆ ที่จะนำไปสัมภาษณ์ด้วยค่ะ

ต่อตอนที่ 2 ค่ะ >> แชร์ประสบการณ์ ขั้นตอนการขอวีซ่าและสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกา(2)

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^

 

56 comments on "แชร์ประสบการณ์ ขั้นตอนการขอวีซ่าและสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกา(1)"

yenjit's picture
yenjit (visitor) said on Thu, 04/17/2014 - 21:22:

อยากรู้ว่ามีเอกสารอะไรบ้่างค่ะที่เราต้องแปลเป็นภาษากฤษนะค่ะรบกวนช่วยตอบด่วนด้วยนะค่ะ

linky's picture
linky (visitor) said on Fri, 07/11/2014 - 11:33:

สอบถามค่ะ ตอนไปสัมภาษณ์ เขาไม่ได้เก็บรูปถ่ายไป แสดงว่าไม่ผ่านหรืออย่างไรค่ะ
รบกวนด้วยค่ะ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Sat, 11/08/2014 - 16:39:

กรอกข้อมูลds 160ผิดนัดสัมภาษณ์แล้วแต่ระบบเออเร่อให้รอก่อนเราแก้ไขใหม่ได้มั้ยคะ

Anonymous's picture
Anonymous (visitor) said on Tue, 12/23/2014 - 20:49:

ขอวีซ่านักท่องเที่ยวแต่ตั้งใจหนีเพื่อหางานทำแต่ขอเอกสารประกอบธุรกิจญาติแนบ จะมีผลกระทบกับธุรกิจเค้าหรือเปล่า

กัญญ์ชญารัตน์'s picture
กัญญ์ชญารัตน์ (visitor) said on Fri, 01/23/2015 - 22:21:

สอบถามผู้รู้หน่อยค่ะ คือได้ทำการสมัครเรียบร้อยแล้วค่ะทางสถานทูตได้ส่ง mail ยืนยันมาให้แล้วแต่ลืมรหัสผ่าน mail ที่ให้ไปกับสถานทูตแบบนี้จะสามารถแก้ไขได้ยังไงค่ะ เพราะนัดสัมภาษณ์วันศุกร์นี้แล้ว ไม่รู้จะแก้ไขยังไงดีรบกสนหน่อยนะค่ะ

Montree's picture
Montree (visitor) said on Fri, 02/27/2015 - 14:25:

สวัสดีครับ

คือผมอยากทราบว่าในกรณีที่พาสปอรทหมดก่อนวีซ่า 10 ปี จะหมดต้องทำอย่างไรกับการเดินทางไปอเมริกาครับ?

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS