Alice in Wonderland หรือชื่อไทยว่า อลิซในแดนมหัศจรรย์ เป็็นหนังแฟนตาซี 3 มิติ ที่เนื้อเรื่องดัดแปลงมาจากนวนิยายอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ และ อลิซผจญภัยโลกในกระจก เคยได้ยินชื่อเรื่องนี้มาเหมือนกันแต่ไม่เคยอ่าน นิยายเรื่องนี้บางคนคงเคยอ่านตอนเป็นเด็ก ทีแรกก็คิดว่าหนังนี้น่าจะเป็นหนังเด็กๆ แต่มีคำแนะนำสำหรับการชมว่า เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป
ดูหนัง
ดูหนัง Alice in Wonderland อลิซในแดนมหัศจรรย์ แบบ3D
- 11 comments
- 24311 reads
ดูหนัง Avatar อวตาร แบบ 3D
- 11 comments
- 36834 reads
ไปดูมาเมื่อวาน(17 ธันวาคม 2552) ที่ SF เดอะมอลล์งามวงศ์วาน รอบ 18.50 น. หนังเข้าเป็นวันแรก โทรจองทางโทรศัพท์ ดูระบบ 3 มิติที่นั่งธรรมดา 240 บาท แพงกว่าระบบธรรมดา 100 บาท เคยดูตัวอย่างเรื่องนี้ก็เฉยๆ แต่อืม..ไปก็ไป น่าจะสนุก
Avatar หนังอภิมหากาพย์ไซไฟ 3 มิติ ของเจมส์คาเมรอน ของผู้กำกับเรื่อง Titanic ที่เคยโกยรายได้มหาศาลมาแล้ว บทของเรื่อง Avatar ถูกเขียนขึ้นมาก่อน Titanic แต่สมัยนั้นเทคโนโลยียังไม่ถึงอย่างที่ต้องการคาเมรอนเลยยังไม่ทำ ว่ากันว่า Avatar เป็นหนังที่แพงที่สุดในโลกเพราะใช้เงินลงทุนสูงถึง 230 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ในการถ่ายทำแบบ 3 มิติ
The Twilight Saga: New Moon แวมไพร์ ทไวไลท์ 2 นิวมูน
- 11 comments
- 17049 reads
ไปดูมาเมื่อวาน หนังเข้าฉายเป็นวันแรก(19 พฤศจิกายน 2552) เป็นภาคที่ต่อจาก Twilight ภาคที่แล้ว ดูรอบ 20.00 น. จองทางโทรศัพท์ได้แถว F =.= คนก็ไม่เยอะมาก อาจจะเป็นเพราะรอบด้วยก่อนเขียนถึงภาคสองก็มาทบทวนภาค 1 ก่อน ภาค 1 เข้าเมื่อ 27 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ผ่านไป 1 ปีพอดี
เนื้อเรื่องภาคก่อน คือ นางเอก(เบลล่า)ต้องย้ายมาอยู่กับพ่อซึ่งเป็นหัวหน้าตำรวจที่เมืองฟอร์ค ในรัฐวอชิงตัน เป็นเมืองที่มีฝนตกตลอด ซึ่งที่นี่เธอก็ได้พบกับพระเอก(เอ็ดเวิร์ด) แวมไพร์สุดหล่อ ที่อยู่ในครอบครัวคัลเลน ซึ่งเป็นครอบครัวแวมไพร์ที่ไม่กินเลือดมนุษย์ หัวหน้าครอบครัวคือหมอคลาลิสและมีพี่น้องที่เป็นลูกๆ อุปถัมป์ของหมอคลาลิสเช่นกัน ตอนแรกที่เอ็ดเวิร์ดเจอกับเบลล่าเบลล่าเข้าใจผิดคิดว่าเอ็ดเวิร์ดไม่ชอบตนเอง แต่จริงๆ แล้วเอ็ดเวิร์ดพยายามที่จะควบคุมตัวเองในอาการที่อยากดื่มเลือดของเบลล่า ซึ่งเมื่อเอ็ดเวิร์ดเจอกับเบลล่าก็รู้ทันทีว่าเบลล่าคือผู้หญิงที่เกิดมาเพื่อเขา จนวันหนึ่งมีอุบัติเหตุกับเบลล่า เอ็ดเวิร์ดเข้าไปช่วยทำให้เบลล่า ด้วยความรวดเร็วมากๆ ของเอ็ดเวิร์ดทำให้เบลล่าสงสัย จึงไปค้นหาข้อมูล และสอบถามจากเจคอปซึ่งเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อที่สืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์ของหมาป่าเป็นเผ่าศัตรูกับแวมไพร์ ในที่สุดเบลล่าก็รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เบลล่ารู้สึกกลัว ทั้งสองรักกัน เอ็ดเวิร์ดพาเบลล่าไปแนะนำกับครอบครัว วันหนึ่งที่ครอบครัวพากันออกไปเล่นเบสบอล ก็เจอแวมไพร์อีกกลุ่ม(เจมส์ ลอเรนส์ และ วิคตอเรีย) ที่ผ่านมาและเคยออกดูดเลือดคนในเมืองนี้ ซึ่งเมื่อทั้งสามเจอเบลล่าก็รู้ว่าเบลล่าเป็นมนุษย์ทำให้เกิดการปะทะกัน จากครั้งนั้นทำให้ลอเรนส์ตามล่าเบลล่า ทุกคนในบ้านคัลเลนช่วยกันปกป้องเบลล่า ซึ่งด้วยกลลวงของเจมส์ ทำให้เบลล่าตกเป็นเหยื่อ และโดนเจมส์กัด เอ็ดเวิร์ดตามมาทันจึงดูดเลือดพิษออกให้เบลล่า ซึ่งพี่น้องคัลเลนที่ตามมาก็ฆ่าเจมส์ ทำให้วิคตอเรียที่เป็นแฟนโกรธแค้น และจะตามล่าเบลล่าเพื่อล้างแค้น
มาในภาคนี้ก็เป็นการกลับมาของวิคตอเรียที่จะมาตามล่าเบลล่าเพื่อล้างแค้น แต่ดูในเรื่อง ส่วนนี้ก็ไม่ได้สำคัญมากเท่าไหร่ หนังก็ดูเรื่อยๆ จะเน้นด้านความรักมากกว่า ซึ่งภาคนี้ดูเหมือนจะเป็นรักสามเศร้า หญิงหนึ่งชายสอง แบบคนคนหนึ่งที่รักมากแต่ก็ทำให้เราเจ็บปวดกับความรักของเขา ที่พยายามทำเพื่อเราแต่กลับทำให้เราเจ็บปวด จากไปแบบไม่ทันตั้งตัว กับอีกคนที่เหมือนมาช่วยเยียวยาหัวใจทำให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่สุดท้ายยังไงนางเอกก็ต้องเลือกพระเอก ภาคนี้เจคอปเด่นขึ้นเยอะ บึ๊กมากๆ Six Pack ที่ท้อง ฉากถอดเสื้อนี่สุดยอด สาวๆ ในโรงฮือ..กันซะทำเอาเราขำ อะไรมันจะขนาดนั้น ส่วนพระเอกก็ไม่แพ้กัน ฉากถอดเสื้อกางเกงเอวต่ำซะ ภาคที่แล้วนางเอกรู้ว่าพระเอกเป็นแวมไพร์ ภาคนี้รู้ว่าเจคอปเป็นหมาป่า ส่วนฉากต่อสู้ในเรื่องก็มีนิดหน่อยไม่เยอะ มีการต่อสู้แวมไพร์กับหมาป่า แวมไพร์กับแวมไพร์ มีฉากให้หัวเราะบ้างประปราย ภาคนี้มีแวมไพร์ตัวอื่นๆ เข้ามาอีกหลายตัว เช่น เจน แวมไพร์สาวจิตสังหาร
สำหรับเราชอบเรื่องนี้ไหม ก็เฉยๆ แต่ดูแล้วมันก็ซึ้งดี เหมือนเข้าไปในอารมณ์ความรู้สึก(ขนาดนั้นเลย ) ความรักของคนต่างสายพันธุ์ กับความรู้สึกรักที่เหมือนกับคนสองคนเกิดมาคู่กัน..มันกินใจ ยิ่งภาคนี้ถ้าได้ฟังพระเอกพูดกับนางเอกและสิ่งที่พระเอกทำให้นางเอก เชื่อว่าหลายคนคงอยากเป็นนางเอก แวมไพร์ก็แวมไพร์เถอะ
ไม่เคยอ่านหนังสือ แต่ก็พอจะรู้ว่ามันต้องมีภาคต่อไป แต่ตอนจบหักอารมณ์มากๆ พอหนังจบปุ๊บ
จะมีเสียงอุทาน โธ่เอ๊ย.. อ้าว.. อะไรอ่ะ.. ฯลฯ
เข้าไป 20.00 ออกมา 22.30 ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งรวมโฆษณาด้วย
ภาพดาวน์โหลดจาก //www.twilightthemovie.com
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ
ดูหนัง 2012 Were Warned 2012 วันสิ้นโลก
- 9 comments
- 17030 reads
2012 Were Warned/ 2012 วันสิ้นโลก
ไปดูมาเมื่อ 2 วันก่อน อย่างที่รู้คือเป็นหนังหายนะของโลกที่จะเกิดขึ้นในปี 2012 หนังยาวประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ดูแล้วน่ากลัวกับหายนะที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดแบบนั้นจริงๆ คงไม่มีใครรอด ในหนังคนที่จะรอด ก็จะเป็นพวกผู้นำประเทศและบุคคลสำคัญของประเทศทั้งหลาย รวมถึงพวกมหาเศรษฐี คนธรรมดาอย่างเราคงไม่มีสิทธิรอด ตอนดูคนดูก็คงจะพอจะเดาออกว่าครอบครัวของพระเอกจะต้องรอด แต่ก็ลุ้นดีว่าจะรอดได้ยังไง ก็โลกถล่มทลายซะขนาดนั้น ดูแล้วลุ้นตามไปด้วย บางทีก็ลืมตัวแอบกลั้นหายใจตามในหนัง ออกจากโรงหนังมา เหมือนจะเหนื่อยเพราะง่วงมากๆ ดูรอบ 18.20 ออกมาอีกที 21.15 รวมโฆษณาประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ Bangkok Traffic Love Story
- 5 comments
- 23207 reads
อาทิตย์ก่อนที่หนังเรื่องนี้จะเข้า ดูรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง คุณกาละแมร์บอกว่าเพิ่งไปดูรอบเปิดตัวหนังมา พูดถึงหนังจนอยากไปดู แบบว่า..อายุกำลังเท่านางเอกในเรื่องพอดี (แถมบอก พี่เคน..หล่อแบบทะลุแป้ง) ก็ยังเฮ้ย..เรื่องนี้มันน่่าดูขนาดนั้นเลยหรอ? ชวนลุง เอ้ย! ลิงไปดู ตั้งแต่วันอาทิตย์ เพิ่งได้ไปดูมาเมื่อวาน รู้แหละว่าคงไม่ค่อยอยากดูเรื่องนี้ พอไปดูแล้วก็ได้คำตอบว่า..หนังเรื่องนี้น่าไปดูจริงๆ สนุก ซึ้ง ฮาเกือบทุกตอน
เมื่อวาน(วันพุธ) ซื้อตั๋วหนังได้ถูกมาก 80 บาท(2 ใบ) เพราะ SF มีโปรโมรชันดูหนัง 40 บาททุกวันพุธ ทุกเรื่องทุกรอบที่เป็นโรงธรรมดา(แข่งทับเมเจอร์กับ EGV ที่ 60 บาท)
G-Force หน่วยจารพันธุ์พิทักษ์โลก แบบ 3D
- 2 comments
- 13070 reads
วันก่อน(1 ตุลาคม 2552) ไปดูหนังเรื่อง G-Force หน่วยจารพันธุ์พิทักษ์โลก แบบ 3D มา
เป็นเรื่องของหน่วย หน่วยหนึ่งที่มีการฝึกสัตว์ให้ทำหน้าที่เป็นสายลับ และกำลังจะถูกสั่งปิด ซึ่งในทีมนี้มีหนูตะเภา คือดาร์วินซึ่งเป็นหัวหน้า บลาสเตอร์และฮัวเรซ หนูสาวเพียงตัวเดียวในทีมที่ชอบหว่านเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมี มูช ที่เป็นแมลงวันสอดแนม และสเป็คเคิลส์ตัวตุ่นที่เชี่ยวชาญเรื่องระบบคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก ทีมนี้เรียกตัวเองว่า G-Force ซึ่งต้องแสดงศักยภาพของหน่วย เพื่อที่จะให้หน่วยไม่ถูกปิดคงอยู่ต่อไป กับภารกิจกู้โลกของทีม
ภาพนี้จาก movie.kapook.com
ไปดูที่ SF งามวงศ์วานโรง 3D ค่าตั๋ว 220 ค่าแว่นอีก 20 บาท รวมเป็น 240 บาท ที่นั่งจะเป็นแถว A ของโรงที่ 6 ถ้าเป็นแถว D เป็นต้นไปจะราคา 220 บาทรวมค่าแว่นแล้ว พอเข้าไปแถว A ไกลจากด้านหน้าพอสมควร เวลาดูหนังมันมองเห็นขอบจอด้วยเลยไม่ได้อารมณ์ 3D เท่าไหร่ ไม่เหมือนดูในโรงที่จอใหญ่ อย่าง IMAX แอบเสียดายว่านั่งแถว D น่าจะดีกว่าเพราะใกล้กว่า แถมถูกกว่าอีก 20 บาทแน่ะ
หนังก็น่ารักดี โดยส่วนตัวยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่เพราะยังไม่สนุกมากที่พอจะทำให้รู้สึกว่าออกมาแล้วประทับใจ สงสัยว่าจะคาดหวังมากไปหน่อยว่าจะต้องสนุกมาก =.= แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค ตอนท้ายเรื่องมีอะไรแบบที่คาดไม่ถึงด้วย ถ้าดูแบบไม่ได้คาดหวังมาก ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่ารักและก็สนุกดี
ภาพนี้จาก movie.kapook.com
ปล ดูเจ้าเฮอร์ลีย์ที่เป็นหนูแกสบี้ที่อยู่ในร้านขายสัตว์เลี้ยง บางตอนทำให้นึกถึงเจ้า Scrat ในเรื่อง Ice Age บางส่วนของเรื่องก็นึกถึงเรื่อง Transformers อิอิ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ
Harry Potter and the Half-Blood Prince
- 5 comments
- 10544 reads
Harry Potter and the Half-Blood Prince แฮร์รี่พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม
ดูมาเมื่อ 16 กรกฏาคม 2552 เป็นวันที่หนังเข้าฉายวันแรก ซื้อตั๋วล่วงหน้าจาก SF ด้วยเหตุผล
ราคาถูกกว่าปกติ 20 บาท(ที่นั่งปกติ 120 ลดเหลือ 100) และก็ไม่อยากไปต่อคิวซื้อตั๋วนาน
ตอนซื้อจะเป็น Voucher 1 ใบ 2 ที่นั่ง 200 บาท ซื้อเสร็จก็ไปแลกตั๋วจริงไว้ก่อนล่วงหน้าได้เลย
Ice Age3 : Dawn Of The Dinosaurs จ๊ะเอ๋ไดโนเสาร์
- 1 comment
- 23285 reads
เมื่อวาน Ice Age3 เข้าเป็นวันแรก ดูมาตั้งแต่ภาค 1 มาจนถึงภาค 3 ฉะนั้นไม่พลาดแน่นอน
ไปดูที่ SF งามวงศ์วาน เสียดายไม่ได้ดูแบบที่เป็น 3D
ภาคนี้ทุกตัวเป็นผู้ใหญ่ พูดถึงเรื่องการสร้างครอบครัว ซึ่ง Manny กับ Ellie กำลังจะมีสมาชิกใหม่
ส่วน Sid กับ Diego ก็นึกถึงเรื่องการสร้างครอบครัวเหมือนกัน ตรงนี้เองเลยทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้น
เมื่อ Sid เกิดอยากจะมีลูกกับเขาบ้างจนทำให้เอาไข่ที่บังเอิญเจอมาฟูมฟักเป็นลูก ส่วน Diego ก็ขอ
แยกตัวไปตามทางที่จะใช้ชีวิตตามธรรมชาติของตัวเอง
แต่ในที่สุดทุกตัวก็ต้องมาร่วมผจญภัยในโลกที่ไม่เคยรู้ว่ามีมาก่อน เพื่อไปช่วย Sid ที่ถูกจับตัวไป
ในดินแดนที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์และเรื่องอันตรายต่างๆ มากมายทำให้พบกับ Buck ซึ่งมีตาเดียว
ที่ดูเหมือนไม่ค่อยจะเต็มเท่าไร ที่ช่วยเป็นผู้นำในการตามหา Sid ซึ่ง Buck มีกฏซึ่งตั้งขึ้นได้เรื่อยๆ
ดูเหมือนจะเป็นพวกขี้โม้เกินจริง แต่ในที่สุดแล้วก็ต้องยกให้ Buck เป็นฮีโร่ตัวจริง
Transformers : Revenge of the Fallen
- 1 comment
- 10173 reads
เมื่อวันอาทิตย์หลังจากกลิ่นตัวอบอวนด้วยเนื้อย่างแล้ว ก็มาแวะดูหนังที่เซ็นทรัลลาดพร้าว
เห็นคนแล้ว โอ้ว.. ทำไมเยอะแบบนี้ ตอนนั้นบ่ายสอง มีพนักงานมาเดินขายตั๋วที่คนยืนเข้าแถวอยู่
เป็น Transformers รอบบ่ายสองซื้อได้เลยไม่ต้องรอ เห็นมีคนสนใจ แต่แล้วก็เห็นทุกคนส่ายหน้า
เดาได้ว่าที่นั่งเป็นแถวหน้าๆ แน่นอน ต่อคิวได้สักพักก็เข้าไป ตอนนั้นกะเอารอบ 14.20 น. แต่เต็ม
ก็เลยเป็นรอบ 15.00 แทนก็เหลือที่นั่งประมาณ 4 แถวหน้า ไม่ไหวๆ ออกมาต้องคอเคล็ดแน่ๆ
ขอดูรอบ 15.30 ก็เหลือที่นั่งโซนหน้าๆ เหมือนกัน หนังเข้าตั้งแต่วันอังคารแล้วคนยังเยอะอยู่เลย
สรุปแล้วก็เลยไม่ได้ดูที่เซ็นทรัล สุดท้ายก็ได้มาดูที่ SF งามวงศ์วานรอบ 15.40 น.แทน
Transformers : Revenge of the Fallen อภิมหาสงครามแค้น
สงครามระหว่างออโต้บอทส์ และ ดีเซปติคอนส์เริ่มขึ้นอีกครั้งในภาคนี้ เนื่องมาจาก Fallen ต้องการ
หาแหล่งพลังงานซึ่งก็คือดวงอาทิตย์ ที่จะมาสร้างพลังงานให้กับหุ่นยนต์ แน่นอนพระเอกของเราคือ
ออพติมัส ไพร์ม ซึ่งเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งไพร์มตัวเดียวที่เหลืออยู่ที่สามารถจะกำจัด Fallen ได้ (แต่ถูก Megatron ฆ่าตายซะงั้น -_-") ซึ่ง Optimus prime ไม่ใช่ prime รุ่นแรกที่ถูกสร้างขึ้น แต่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับ Prime ไม่ทางใดก็ทางนึงล่ะมั้ง
X-Men Origins Wolverine : เอ็กซ์–เม็น กำเนิดวูล์ฟเวอรีน
- 2 comments
- 43727 reads
วันก่อนไปดูหนังเรื่อง X-Men Origins Wolverine ที่ SF งามวงศ์วานมา
ซื้อ 1 ใบ ฟรี 1 ใบ เพราะมีโปรโมรชั่นฝาโค้ก 5 ฝาแลกตั๋วหนังเรื่อง X-Menได้ 1 ใบ
ภาคนี้ก็เป็นเรื่องราวก่อนที่จะเกิดทุกๆ ภาคที่เคยฉายมา เหมือนกับเป็นต้นกำเนิด X-Men
พูดถึงความเป็นมาของโลแกนรวมถึงชีวิตในวัยเด็ก และที่มาของชื่อ Wolverine
ซึ่งโลแกนมีพี่ชายคือ Victor Creed ที่ต่อมา Wolverine ต้องตามล่าพี่ชายเพราะความแค้น
และก็ยังมีมนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆ อีกหลายคน เช่น Gambit, Scott Summers, Cyclops
Emma Frost, Deadpool รวมถึง Kayla Silverfox ที่เป็นอดีตแฟนสาวของ Wolverine ด้วย
ที่สำคัญอีกคนคือ William Stryker ซึ่งภาคนี้จะได้้รู้จักกับเขามากขึ้น