พาเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 6 : เดินเที่ยวในเมือง ชมตึกเก่าชิโนโปรตุกีส

หลังจากตอนที่แล้วที่พาไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไทยหัว ออกมาจากพิพิธภัณฑ์ก็เดินชมตึกเก่า ที่มีสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า ชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมของยุโรปผสมกับศิลปะแบบจีน ชิโน หมายถึงคนจีน ส่วนโปรตุกีสหมายถึงโปรตุเกส ที่ยังอนุรักษ์ไว้เป็นเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต ดูคลาสสิกสวยงามมาก ครั้งที่แล้วที่มาทำธุระที่ภูเก็ต ตอนนั้นไม่รู้ข้อมูลอะไรเรื่องเที่ยวภูเก็ตเลย นั่งรถผ่านเห็นตึกยัง โห..ตึกที่นี่สวยจัง ครั้งนี้เลยต้องของไปเดินชมสักหน่อย

จากตอนที่แล้วเราลงรถที่ถนนเยาวราช และเดินต่อมาเรื่อยๆ เพื่อไปพิพิธภัณฑ์ไทยหัวถนนกระบี่ ระหว่างทางบนถนนเยาวราช ก็มีตึกเก่าๆ ให้ชม เดินผ่านบริเวณนี้เห็นด้านในเป็นบ้านเก่าน่าสนใจ เลยเดินเข้าไปถ่ายรูป แต่ก็ถ่ายได้แค่นี้ เนื่องจากพอเข้าไปได้นิด สุนัขที่เป็นยามเฝ้าบ้านทั้งหลายก็ออกมากัน 4-5 ตัว พยายามทำใจดีสู้หมา ค่อยๆ ถอยออกมา สงสัยจะเป็นเพราะเราถือร่ม =.= ถ้าเดินไปถ่ายรูปก็ระวังนะคะ ถ้าเข้าใจไม่ผิดที่ดูข้อมูลมาจากพิิพิธภัณฑ์ไทยหัว นี่คือบ้านของคุณสงวน ลิมปานนท์ ตั้งอยู่บนถนนเยาวราช

เดินมาเรื่อยๆ จากวงเวียนน้ำพุ จะเจอแยกทางขวามืือ คือถนนพังงา เราข้ามไปเดินสำรวจถนนพังงากันก่อน เพราะจำได้ว่าตรงนั้น มีโรงแรมออนออนอยู่ เดินไปก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

ย่านนี้ คือ ถนนเยาวราช ถนนพังงา ถนนถลาง ถนนกระบี่ ถนนดีบุก จะเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมือง บริเวณนี้ก็จะมีตึกเก่าๆ เกาะกลุ่มกันอยู่มาก

ถึงแล้วโรงแรมออนออน ตอนนี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ ขลังมากๆ เท่าที่ดูเห็นมีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพัก ด้านล่างของโรงแรมจะเป็นร้านกาแฟ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต สร้างเืมื่อ พ.ศ. 2473 เคยใช้เป็นที่ถ่ายทำบางฉาก ในภาพยนตร์เรื่อง The Beach เมื่อปีพ.ศ. 2542

จากถนนพังงา เราย้อนกลับมาทางเดิม และเลี้ยวเข้าถนนกระบี่ บริเวณนี้ก็มีตึกเก่าๆ เยอะพอสมควร สังเกตที่ด้านหน้าอาคารชั้นล่างจะมีช่องโค้งเรียงกันเป็นแนว สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ตลอดเรียกว่าอาเขต หรือถ้าเรียกตามภาษาจีนฮกเกี้ยนจะเรียกว่า หงอคาขี่

ตึกเก่าบริเวณถนนกระบี่

บางส่วนก็ได้รับการปรับปรุงให้ดูใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้

ศิลปะแบบตะวันออกผสมกับศิลปะแบบตะวันตก กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเสน่ห์

หน้าต่างด้านบนสวยดี เป็นหน้าต่างบานใหญ่ยาวถึงพื้น 1 คูหาของตึกแถวจะมีประมาณ 3 บาน

อาเขตหรือหงอคาขี่ ใช้รับน้ำหนักของตัวอาคาร

ประตูหน้าต่างด้านล่าง

ถ้าเดินถ่ายรูปแบบจริงๆ จังๆ คงต้องใช้เวลานานมาก เพราะว่าดูทางไหนก็น่าถ่ายรูปหมด

เมื่อปี พ.ศ. 2537 ทางเทศบาลนครภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานจากภาครัฐและองค์กรเอกชน องค์กรท้องถิ่นในเมืองภูเก็ต ได้ร่วมกันพัฒนาและอนุรักษ์ย่านเมืองเก่าขึ้นมา มีการกำหนดให้พื้นที่ประมาณ 210 ไร่ ซึ่งครอบคลุมถนนรัษฎา ถนนพังงา ถนนเยาวราช ถนนกระบี่ ถนนดีบุก ถนนถลาง ถนนเทพกระษัตรี ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม

ประตูหน้าต่างด้านล่างเป็นศิลปะแบบจีน ก็มีความสวยงามไม่แพ้หน้าต่างด้านบน

ซุ้มหน้าต่างด้านบน จะมีลักษณะเป็นแบบปูนปั้นเป็นศิลปะแบบยุโรปส่วนบานหน้าต่างเป็นศิลปะแบบจีนที่ผสมกันได้อย่างลงตัว

จากถนนกระบี่ เราเดินมาที่สี่แยกแล้วข้ามมาที่ถนนถลาง ซึ่งย่านถนนถลางเป็นย่านที่มีตึกเก่าหนาแน่นที่สุด และยังเป็นโครงการนำร่องในการพัฒนาให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

ตึกเก่าแรียงรายกันเป็นแถวยาว ถึงแม้ว่าวันนั้นจะร้อนมากๆ แต่ก็เดินได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย

บานหน้าต่างและซุ้มหน้าต่าง เสาเป็นแบบโรมัน

แต่ละคูหาก็จะแตกต่างกันไป แต่ความสวยงามไม่แตกต่างกันเลย สังเกตได้ถึงความประณีตในการก่อสร้าง

มีโรงแรมเล็กๆ ที่ดูมีเสน่ห์ของตึกเก่าแทรกอยู่

โรงแรมไชน่าอินน์ China Inn Cafe & Restaurant

ศาลเจ้าไหหลำ

สวยคลาสสิก ถ้าไม่มีรถจอดจะแจ่มมาก เหมือนไปเดินย้อนยุคไปเมื่อสัก 80 - 120 ปีที่แล้ว

ถ้าไม่มีสายไฟจะดูดีมาก ซึ่งในขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกำลังศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการนำสายไฟฟ้าลงไปใต้ติน เพื่อให้ไม่บดบังทัศนียภาพของตึึกเก่า

ขนาดกระถางต้นไม้ยังเท่

ลวดลายปูนและเสาสวยมากๆ

ร้านขายเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ดูแล้วนึกถึงร้านขายของในตลาดสมัยยังเป็นเด็ก

ซอยนี้มีตึกสวยเยอะ แต่ไม่ได้เดินเข้าไป ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นซอยรมย์มณี อาคารมีสีสันสวยงาม

เดินต่อมาเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งๆ ที่วันนั้นร้อนมากๆ

เดินต่อมาจนถึงฮอนด้า ตึก Honda เข้ากับเมืองเก่าดีจริงๆ ถึงตรงนี้เริ่มหิว เลยคิดว่าน่าจะหาอะไรทานกลางวันกันดีกว่า พอดีเจอพนักงานฮอนด้าเลยเข้าไปถาม พี่แกเป็นคนใต้ที่ใจดีมาก ท่าทางจะเป็นมุสลิม เพราะแกแนะนำร้านอาหารอิสลาม และอีกร้านคือร้านก๋วยเตี๋ยวแถวๆ นั้น เราเดินข้ามฝั่งและเดินต่อมาเรื่อยๆ

ด้านซ้ายมือเป็นสวยเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี พ.ศ. 2547 วันนั้นฟ้าใสมาก

มีน้ำพุมังกรทองตัวใหญ่ด้วย

ถนนบริเวณนั้น เป็นภาพลวงตา

เดินต่อมาจากสวนเฉลิมพระเกียรติฯ อีกนิดก็พบกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แวะที่นี่เข้าไปหาแผนที่และข้อมูลที่เที่ยว เพราะเดินไปเรื่อยๆ ไม่ดีแน่

 เข้าไปเหมือนสวรรค์ เพราะแอร์เย็นฉ่ำ มีน้ำเย็นๆ และชากาแฟไว้บริการ เดินหาแผนที่ภูเก็ตแล้วก็ออกเดินทางต่อ

มีแผนที่ก็ง่ายต่อการเดินทางหน่อย มีจุดมุ่งหมายในการเดิน เราจะไปทานกลางวันกันที่ร้านหมี่ต้นโพธิ์ เดินจากสำนักงานการท่องเที่ยวเจอแยกเลี้ยวขวา เข้ามาที่ถนนภูเก็ต เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอกับที่ทำการไปรษณีย์ภูเก็ต อาคารหลังนี้เป็นอาคารหลังเก่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรภูเก็ต ส่วนที่ทำการใหม่จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของตึกเก่า เป็นอาคารหลายชั้น

ด้านในก็จะจัดแสดงประวัติตราไปรณีย์

แสดงตราไปรษณีย์ แต่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุง

แสดงข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ

ตู้ไปรษณีย์เก่า

ตราชั่งที่ใช้ในกิจการไปรษณีย์ จากเก่าถึงใหม่(ขวามาซ้าย)

ภาพที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขภูเก็ต พ.ศ. แต่เดิมเป็นเเรือนที่อยู่ของพระอนุรักษ์(นุต) ผู้กำกับราชการเมืองภูเก็ตในสมัยนั้น

เดินมาเรื่อยๆ ก็มาถึงวงเวียนหอนาฬิกา

 ร้านหมี่ต้นโพธิ์อยู่ฝั่งตรงข้าม ต้องเดินข้ามถนนไป 2 ครั้ง

มื้อกลางวันฝากท้องไว้ที่ร้านหมี่ต้นโพธิ์

ศาลเจ้าฮกหงวนก้ง เป็นศาลเจ้าหนึ่งในสี่แห่งในภูเก็ต

 จากร้านหมี่ต้นโพธิ์เดินมาเรื่อยๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นถนนตลิ่งชันใช่หรือไม่ แถวนั้นจะเป็นย่านศูนย์การค้า

 ศูนย์การค้าโอเชี่ยน ช็อปปิ้ง มอลล์

จากนั้นก็เดินมาอีกเรื่อยๆ จุดหมายคือไปซื้อของใช้ที่โรบินสัน

แวะทานพายช็อกโกแลต เพราะจากร้านหมี่ต้นโพธิ์ทานไม่อิ่ม :S

ตอนนั้นจำไม่ได้แล้วว่าเดินถนนเส้นไหนบ้าง เพราะเดินไปเรื่อยๆ ทีแรกกะจะกลับที่พัก ไปเที่ยวสวนผีเสื้อ แต่ค่ารถที่นั่นแพงมากๆ จากโรบินสันไปสามกองรถสามล้อคิด 300 บาท ถ้าอยู่กรุงเทพ 300 นี่ก็แท็กซี่จากเกษตรไปสุวรรณภูมิรวมค่าทางด่วนเลยนะเนี่ย -_-" รถมอร์เตอร์ไซค์ก็ 100 บาท ยังไงก็แพงอยู่ดี ก็เลยเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ดีกว่า ระหว่างทางยังมีอะไรน่าสนใจ

โรงฝิ่น ผับ แหล่งบันเทิงสำหรับคนทำงาน แต่ดูแล้วน่าจะปิดกิจการไปนานแล้ว

ถนนเส้นนี้มีธนาคารตั้งอยู่หลายธนาคาร เหมือนเป็นถนนสายธนาคาร ตึกนี้ดูไฺฮโซที่สุดแล้ว สร้างเข้ากับเมืองเก่าภูเก็ตดี

ด้านหน้าธนาคาร

Phuket Center Apartment สีสันสวยดี

ในที่สุดก็เดินกลับมาที่เดิม แถวๆ วงเวียน้ำพุ

กะว่าจะเดินไปให้ถึงที่พัก:D เดินในเมืองมาตั้งแต่สิบโมงจนตอนนั้นสี่โมงกว่าๆ กำลังเมื่อยได้ที่ แต่ในที่สุดก็มีเทพบุตรขี่ราชรถมาเกย สวรรค์ทรงโปรดจริงๆ

แผนที่ย่าเมืองเก่า ถนนเยาวราช ถนนกระบี่ ถนนถลาง ถนนพังงา ถนนดีบุก


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันนี้อากาศเป็นใจ ช่วงเย็นเราจะไปไหว้พระพุทธมิ่งมงคลเอกคีรีกันบนเขานาคเกิด ติดตามตอนต่อไปนะคะ นอกจากไหว้พระแล้ว ก็ยังได้เห็นวิวสวยๆ ของเมืองภูเก็ตด้วย ^_^

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ

แหล่งข้อมูลอ้างอิงและข้อมูลเพิ่มเต้มเกี่ยวกับตึกเก่าชิโนโปรตุกีส
th.wikipedia.org, art4d.com, phuketvegetarian.com, .phuketcity.go.th

 

5 comments on "พาเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 6 : เดินเที่ยวในเมือง ชมตึกเก่าชิโนโปรตุกีส"

Yutphuket's picture
Yutphuket (visitor) said on Mon, 08/24/2009 - 16:28:

มาเที่ยวภูเก็ตบ้านผมด้วย อิอิ ว่างๆมาเที่ยวอีกน่ะครับ ลองเข้าไปดู เว็บ blog เที่ยวภูเก็ตของผมได้ที่ http://yutphuket.wordpress.com/

ขอบคุณครับ

bombik's picture
bombik said on Mon, 08/24/2009 - 18:27:

ภูเก็ตเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีเสน่ห์ ที่สำคัญมีของอร่อยๆ เยอะมาก ^_^ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปอีก
ยังไม่ได้ไปเที่ยวอีกตั้งหลายเกาะ และยังไม่ได้ไปชิมของอร่อยอีกหลายที่

Blog ของคุณ Yut คุ้นๆ ว่าเคยเข้าไปตอนหาข้อมูลที่เที่ยวภูเก็ต ภาพสวย ข้อมูลดี
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยมชม

thaworn's picture
thaworn (visitor) said on Wed, 04/20/2011 - 13:02:

สวัสดีค่ะ
22 เมษา จะไปภูเก็ต พักที่ oldtown ไม่คยไปเลย ช่วยแนะนำด้วย
ขอบคุณค่ะ
thaworn

bombik's picture
bombik said on Tue, 04/26/2011 - 21:51:

เข้ามาตอบไม่ทันแล้ว >_<
ไปภูเก็ตมาครั้งเดียวคงแนะนำอะไรไม่ได้มาก ยังไงลองดูรีวิว อาจจะพอเป็นไกด์ได้บ้างค่ะ

Kailey's picture
Kailey (visitor) said on Wed, 12/14/2011 - 02:10:

All of my questions settled-tnhaks!

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS