พาเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 7 : นมัสการพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี และชมวิวสวยๆ บนเขานาคเกิด

หลังจากเดินชมเมืองและตึกเก่าชิโนโปรตุกีสจนเมื่อยแล้ว ช่วงเย็นเราขึ้นเขาเพื่อไปนมัสการพระพุืทธมิ่งมงคลเอกคีรีบนเขานาคเกิด วันนี้ฟ้าใสไม่มีฝนตกเป็นโอกาสดีที่จะขึ้นไป เนื่องจากทางขึ้นเขาค่อนข้างชัน

พระพุืทธมิ่งมงคลเอกคีรี มหัศจรรย์แห่งศรัทธา สูงเทียมฟ้า จรดทะเลอันดามัน

พระพุทธมิ่งมงคลเอกคีรี อยู่บนยอดเขานาคเกิด ตำบลกระรน อำเภอเมือง ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติประเภทป่าบก เดาเอาว่าเขานี้น่าจะสูงที่สุดในจังหวัดภูเก็ตแล้ว  ไม่ว่าอยู่ที่จุดไหนจะมองเห็นพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีเด่นเป็นสง่า

ภาพนี้ถ่ายจากอ่าวฉลอง

ถ้าขับรถจากในเมืองมาตามถนนเจ้าฟ้าตะวันตก มีแยกทางด้านขวามือเข้าถนนยอดเสน่ห์ ซึ่งจะเป็นทางขึ้นเขา ก่อนถึงจะมีป้ายบอกทางขนาดใหญ่ ไม่ต้องกลัวหลง ขับเข้าซอยไปไม่นานก็จะขึ้นเขา สองข้างทางจะมีต้นไม้ร่มรื่น บางช่วงค่อนข้างชันต้องใช้ความระมัดระวัง ขึ้นมาถึงจะมีลานจอดรถด้านหลังองค์พระ จอดรถไว้และเดินเข้าไป

ด้านข้างขององค์พระ องค์ใหญ่มากๆ

ด้านข้างอีกภาพ ตอนนั้นเย็นแล้ว มองเห็นพระจันทร์อยู่ด้านบนพอดี

พระพุทธมิ่งมงคลเอกคีรีเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปแบบร่วมสมัย ขนาดหน้าตักกว้าง 25.45 เมตร ความสูง 45 เมตร โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับผิวด้วยหินอ่อนหยกขาวจากพม่า น้ำหนักเฉพาะหินอ่อนหยกขาวประมาณ 135 ตัน หรือประมาณ 2,500 ตารางเมตร

ขณะนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นดำเนินการสร้าง ซึ่งยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100%(ข้อมูล ณ กรกฎาคม 2552)

ด้านหน้าเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองภูเก็ต

ระฆังใบใหญ่ บริเวณนี้จะเป็นอาคารชั่วคราว เป็นที่ทำบุญและให้เช่าวัตถุมงคลต่างๆ

พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี สร้างขึ้นถวายในหลวงเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550

ถ้าสังเกตจะพบว่าขณะนี้องค์พระยังไม่มีดวงเนตร ในภาพที่เห็นคือดวงเนตรขององค์พระ มีการเชิญชวนให้ทำบุญเพื่อสร้างพระเนตรให้กับองค์พระ

นายสุพร วนิชกุล ประธานดำเนินการสร้างองค์พระ

พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี เป็นพระพุทธรูปประจำเมืองภูเก็ต ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ถวายนามให้ว่า พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี

จากด้านล่างสามารถขึ้นไปนมัสการพระและชมวิวรอบๆ เมืองภูเก็ต

บันไดมีทั้งหมด 78 ขั้น ความห่างแต่ละขั้นไม่สูงมาก เดินขึ้นไปได้สบายๆ

ด้านซ้ายมือจะมีที่จุดธูปเทียนบูชาพระ

จากที่ไหว้พระด้านซ้ายมือ ก็จะมีทางเดินไปจุดชมวิว

บริเวณจุดชมวิว จะมีรั้วกั้นแบบนี้

ระหว่างทางเดินไปจุดชมวิว จะพบรอยพระพุทธบาท ที่ตามตำนานเล่าว่า เมื่อพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาที่ภูเก็ต แล้วไปประทับรอยพระบาทตามคำขอของชาวบ้านที่เกาะแก้ว แล้วข้ามมาที่บนฝั่งริมหาด พระองค์ได้ประทับรอยพระหัตถ์ไว้อีก 1 รอย ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า เราไหว้ ต่อมาจึงเพี้ยนมาเป็น ราไวย์ ส่วนรอยนี้ท่านขึ้นมาโปรดเทวดาและนาค ทำให้นาคและเทวดาได้ไปจุติในสรวงสวรรค์ จึงเป็นที่มาของชื่อเขานาคเกิด ส่วนนาคที่ยังไม่บรรลุก็ขอให้พระองค์ทิ้งรอยพระบาทไว้เพื่อสักการะบูชา

วิวบริเวณจุดชมวิว

 มองเห็นอาคารบ้านเรือนด้านล่างเล็กมาก

 ท้องฟ้าวันนั้นถึงแม้ว่าจะเกือบ 5 โมงแล้วก็ยังใสอยู่

ดูแนวนอนกันบ้าง

มองไปเห็นภูเขาที่ยังอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยป่าไม้

ซึ่งนอกจากที่นี่จะมีพื้นที่ป่าสงวนแล้วยังมีป่าถาวรอีกหลายแห่ง

วิวสวยๆ อีกสักภาพ

จากจุดชมวิว เราเดินมาด้านหน้าขององค์พระใหญ่ จะมองเห็นวิวในมุมสูงแบบนี้ เห็นเกาะต่างๆ ของภูเก็ต สวยมาก ฟ้าครามกับน้ำทะเล

องค์พระตั้งหันพักตร์ไปทางอ่าวฉลอง ถ้าดูจากรูปด้านบน

เหมือนว่าท่านกำลังมองเมืองภูเก็ตทั้งเมือง เพื่อคุ้มครองคนเมืองนี้

ถ้าหากสร้างเสร็จคงสวยงามกว่านี้มาก ซึ่งขณะนี้กำลังมีการประกอบแผ่นหยกขาวไปทีละส่วน

ด้านขวาของพระใหญ่ ก็จะมีพระพุทธรูปทองเหลืองปางมารวิชัยบนฐานพญานาค

ด้านข้างขององค์พระ

กระดิ่งที่แขวนอยู่ที่ต้นโพธิ์ มีเขียนอักษรด้วย

อีกมุม

ด้านหน้าขององค์พระจะเป็นวิวมุมกว้าง ที่มองเห็นอ่าวฉลองและเมืองภูเก็ตได้ชัดเจน บริเวณนั้นจะมีรั้วกั้นไว้ ด้านล่างคืออาคารชั่วคราวที่เราเพิ่งขึ้นมา พระพุทธรูปองค์เล็กนี้เหมือนเป็นองค์ย่อของพระพุทธรูปใหญ่ ซึ่งวางอยู่บริเวณนั้น ด้านซ้ายมือจะเป็นเม็ดพระศกของพระองค์ใหญ่

ทางที่เราขึ้นมาบริเวณบันได 78 ขั้น จะมีกระดิ่งทองเหลืองห้อยตลอดทาง

วิวบริเวณบันไดทางขึ้น-ลง

มองเห็นวิวสวยๆ อีกมุม

แม่พระธรณีบิดมวยผม

นอกจากจะมีองค์พระขนาดใหญ่ให้สักการะและวิวสวยๆ ให้ชมแล้วแล้ว ที่นี่กำลังมีการปรับปรุงพื้นที่และภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความสวยงาม ร่มรื่น เพื่อสร้างเป็นพุทธอุทยานบนยอดเขานาคเกิด เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และนอกจากนี้ก็ยังเป็นที่วิปัสนากรรมฐานอีกด้วย ตรงนี้เป็นเหมือนอุโมงค์หิน คิดว่าน่าจะสร้างไว้เป็นที่วิปัสนากรรมฐาน

ดอกไม้บริเวณนั้น

ลักษณะเหมือนดอกลีลาวดี แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า

ดอกพุด

มาดูภาพวิวแบบพาโนรามากันบ้าง


คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

 ถ้าไม่มีหลังคาของอาคารชั่วคราวจะเห็นวิวสวยกว่านี้มาก


คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

พาโนรามาที่จุดชมวิวด้านข้าง


คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

อีกภาพ


คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

วิวด้านหน้าองค์พระ


คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

 ดูแบบที่ไม่มีคนบ้าง ธงไหวตลอด


คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

นอกจากไปไหว้พระประจำเมืองภูเก็ตและชมวิวสวยๆ ด้านบนแล้ว บนเขานาคเกิดก็ยังมีจุดที่สามารถชมวิวสวยๆ ได้อีกหลายจุด ซึ่งวันนั้นที่เราไป ขาลงจากเขาก็มาแวะที่ซุ้มแป๊บซี่และร้านแลเล จุดแรกที่ซุ้มแป๊บซี่จะมีวิวสวยๆ แบบนี้เป็นวิวหาดกะรน

ซุ้มที่นั่ง

จากนั้นถ้าลงมาอีกด้านซ้ายมือก็จะมีร้านแลเล ขายอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีวิวแบบนี้

ที่นั่งทานอาหารและเครื่องดื่ม

ถ้าไปภูเก็ต ก็อย่าลืมขึ้นไปนมัสการพระประจำเมืองภูเก็ต พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีบเขานาคเกิดกันนะคะ แผนที่เขานาคเกิด จุด A เป็นยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งขององค์พระค่ะ


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง phuketindex.com และเว็บไซต์พระพุทธมิ่งมงคลเอกคีรี

ตอนต่อไปวันสุดท้ายในภูเก็ตแล้ว จะพาไปลากูน่าภูเก็ตกันค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ

 

5 comments on "พาเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 7 : นมัสการพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี และชมวิวสวยๆ บนเขานาคเกิด"

ArtKung's picture
ArtKung (visitor) said on Thu, 08/27/2009 - 16:08:

โหย..ไม่เอารูปจากกล้องเราละสีจัดมามายเลยนะเอิ้กๆๆ

bombik's picture
bombik said on Thu, 08/27/2009 - 22:26:

กล้อง ArtKung สีสวยมาก น้ำเงินเป็นน้ำเงินเลย แต่เกรงใจ

ชมทะเล's picture
ชมทะเล (visitor) said on Sun, 03/21/2010 - 00:08:

ดอกสีขาวคล้ายลีลาวดี
ตอนซื้อมาปลูกคนขายบอกว่าชื่อลีลาวดีเกสรค่ะ

ขอบคุณที่แบ่งปันข้อมูลและภาพสวยๆนะคะ

bombik's picture
bombik said on Sun, 03/21/2010 - 17:31:

อ้อ มันคือดอกลีลาวดีเกสรนั่นเอง
ขอบคุณค่ะ

wat's picture
wat (visitor) said on Thu, 09/02/2010 - 21:13:

จริงเลยครับ วิวทางขึ้นลง สวยมาก แถมองค์พระพุทธมิ่งมงคลท่านศักดิ์มาก ได้ยินฝรั่งให้ไกด์พามาเที่ยว บอกว่าจะมาให้ได้เพราะฝันเห็น รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยก็เล่าให้ฟังว่าฝันเห็นกันหลายๆคน ทั้งที่บางคนไม่เคยขึ้นมาก่อน ผมเองก็ขอพรองค์พระพุทธมิงมงคลเอกนาคคีรีท่าน ก็สำเร็จหลายอย่าง
ตอนขากลับหากใครขึ้นไปนมัสการท่าน อย่าลืมซื้อบาล์มสมุนไพรธรรมบุญ ที่ผ่านการปลุกเสก ติดมือกลับบ้านล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก
แล้วแวะนั่งปฎิบัติธรรม 7 นาที ก็ดีนะ

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS