วันก่อนขึ้นแท็กซี่จากบางลำภู ผ่านไปแถวๆ สะพานมัฆวาน ก็เลยนึกได้ว่าที่พระที่นั่งอนันตสมาคมมีการแสดง 4D Visual Light & Sound เมื่อวานเลยออกไปชมการแสดงนี้กัน
การแสดงนี้อยู่ในโครงการ “พ่อ... The Greatest of the Kings The Greetings of the Land” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 13 ธันวาคม 2552 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม โดยมีการแสดง 4D Visual Light & Sound ที่มีชื่อว่า “พ่อ... The Greatest of the Kings The Greetings of the Land” และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และการแสดงมหรสพบนเวที รวมทั้งมีการบันทึกภาพบรรยากาศการจัดงานเพื่อเป็นภาพความทรงจำในการแสดงความ จงรักภักดีของพสกนิกรไทย ข้อมูลจาก oknationblog
งานนี้ขาไปใช้บริการของ ขสมก ขึ้นรถสาย ปอ70 จากแยกพงษ์เพชรไปลงพระที่นั่งอนันตสมาคม คนเบียดกันแน่นอย่างกับปลากระป๋อง รถติดพอสมควร ออกไปประมาณหกโมงกว่าๆ ถึงประมาณสองทุ่มกว่า รถจอดให้ลงแถวๆ วังสวนกุหลาบ แล้วก็เดินต่อเข้าไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
คนเยอะจนล้นลานพระบรมรูปทรงม้าทีเดียว ด้านหลังคนยืนออกันอยู่เยอะมาก ทีแรกคิดว่าคงเข้าไปไม่ถึง แต่ก็ค่อยๆ เดินเข้าไปด้านในเพื่อหาที่นั่ง ซึ่งเขาจะจัดเก้าอี้ไว้ให้นั่งชมการแสดง ระหว่างเดินเข้าไปก็มีคนเดินสวนออกมา เก้าอี้ด้านในยังพอมีที่ว่างอยู่ อาจจะเป็นเพราะมีคนทะยอยออกไปบ้างแล้ว
ในที่สุดก็ได้ที่นั่งแถวๆ หน้าพระบรมรูปทรงม้า
ด้านข้างจะมีจอขนาดใหญ่ ฉายภาพการแสดงบนเวทีให้ชม ซึ่งก่อนจะมีการแสดง 4D Visual Light & Sound จะมีการบรรเลงดนตรีของวง Orchestras และการขับร้องเพลงเทิดพระเกียรติ ของนักร้องต่างๆ ตอนไปมาลีวัลย์กำลังร้องเพลงอยู่พอดี
นั่งอยู่บริเวณนั้นไม่ถึง 5 นาที ก็เดินเข้าไปหาที่นั่งใหม่ด้านในซึ่งอยู่ด้านหน้า เนื่องจากยังมีที่ว่าง สักพักการแสดงก็เริ่ม การฉายภาพยนตร์แบบ 4D ซึ่งฉากคือพระที่นั่งอนันตสมาคม สวยงามมาก ภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวงและเหตุผลว่าทำไมคนไทยจึงรักในหลวง ผ่านตัวละครซึ่งเป็นด.ญ.คนหนึ่งที่จะได้เข้ามาดูงานในวังของพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทำให้ได้รู้ว่า วังของพระเจ้าอยู่หัวของคนไทยเป็นวังที่ไม่เหมือนที่ใดๆ ในโลก และตัวละครอีก 2 ตัวที่คอยดำเนินเรื่อง
คนที่ไม่ได้อยู่ด้านหน้าจะมองเห็นไม่ชัดเจน ก็สามารถมองจากจอที่ตั้งไว้ให้ชมได้ ในส่วนที่เรานั่งจะอยู่ทางด้านหน้าดังนั้นจะไม่มีจอให้ดู ในระหว่างชมการแสดงให้ปิดมือถือห้ามลุกออกจากที่นั่งและลุกขึ้นมาถ่ายภาพ หรือใช้แสงเฟลชในการถ่ายภาพ เพราะจะเป็นการรบกวนการชมของผู้อื่น ได้ยินพิธีกรประกาศตอนจบการแสดงแล้ว =.=
ในภาพยนตร์น้ำเสียงของตัวละคร ดนตรีประกอบ ภาพพระราชกรณียกิจ ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ใครที่อยู่ในบรรยากาศตรงนั้นคงรู้สึกได้ โดยเฉพาะน้ำเสียงของตัวละคร ที่พูดถึงพระเจ้าอยู่หัวแล้วเหมือนจะร้องไห้ กินใจมากจริงๆ
หลังจากจบภาพยนตร์ก็จะมีเสียงของในหลวงตรัสขอบใจประชาชนที่มาอวยพรและพระราชทานพระโอวาท ทุกคนในที่นั้นเงียบสนิท
หลังจากนั้นเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้นทุกคนยืนตรง จากนั้นบริเวณนั้นก็เริ่มสว่างไสวด้วยแสงเทียนสีชมพู ที่มีการแจกก่อนการแสดง ทุกคนยืนตรงร้องเพลงสดุดีมหาราชา
หลังจากเพลงสดุดีมหาราชาจบ ก็มีการจุดพลุ
คนที่มีธงในมือก็โบกธงแล้วพูดว่าทรงพระเจริญพร้อมกัน ดังกึกก้องไปทั่วลานพระบรมรูปทรงม้า
ภาพแสงเทียนที่อยู่ในมือทุกคน ซึ่งน่าจะเป็นหมื่นๆ เล่มเป็นภาพที่สวยงามมาก
หลังจากจบการแสดง ก็เว้นเวลาให้การแสดงรอบต่อไป ครึ่งชั่วโมงเพื่อให้คนรอบเก่าทะยอยออก และรอบใหม่ทะยอยเข้ามานั่ง ตอนนั้นที่สนามหลวงก็มีการจุดพลุพอดี
เราเดินลัดเลาะด้านข้างเพื่อเดินออกจากบริเวณนั้น
หลังจากจบการแสดงรอบแรก ก็มีประกาศว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าไปนั่งด้านใน ในบริเวณที่ไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปนั่ง ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าเวที ระหว่างรอการแสดงรอบต่อไปที่พระที่นั่งอนันตสมาคมก็เปิดไฟหลากสีสวยดี
บริเวณมุมกว้าง
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
เดินออกมาด้านนอก บริเวณนั้นคนก็นำเทียนที่จุดมาตั้งไว้ที่ริมฟุตบาท
แถมขยะอีกจำนวนมหาศาลที่อยู่บริเวณนั้น นี่ถ้าเทียนล้มแล้วไปถูกขยะที่มีอยู่จำนวนมากขนาดนั้น ต้องแย่แน่ๆ
ด้านบนคือความสวยงามของไฟที่ประดับประดา ด้านล่างเกินคำบรรยายจริงๆ แค่ชั่วเวลาแป๊บเดียวถนนก็เต็มไปด้วยขยะมากมาย
เดินต่อมาเรื่อยๆ บริเวณด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการก็มีการออกร้านของภาคต่างๆ มีของกินขาย และมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ
ขบวนรถที่ประดับไฟของหน่วยงานราชการและหน่วยงานเอกชนต่างๆ
ครั้งนี้ยังไม่ได้ไปเดินดูไฟแถวๆ อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยและถนนราชดำเนินกลางก็ดึกซะแล้ว ขากลับ ขึ้นรถปอ สาย 49 มาลงหัวลำโพง แล้วต่อ MRT แล้วก็ต่อแท็กซี่อีกต่อ กลับมาถึงเกือบเที่ยงคืน
งานนี้จะมีจนถึงวันที่ 13 ธันวาคม นี้ ถ้ายังไม่ได้ไปก็ยังมีเวลาอีก 4 วันค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ
