หลังจากที่เคยไปเที่ยวเกาะนางยวนมาแล้วเมื่อเดือน พฤษภาคม ปี 2550 จากวันนั้นก็ประมาณ 2 ปีกว่า ยังจำความประทับใจได้ดี เพราะนางยวนเป็นที่ที่สงบ สวย ทำให้อยากไปอีก คราวนี้เพื่อนชวนไปอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ยังมีทะเลหลายที่อยู่ใน List ที่ยังไม่เคยไปและอยากไป แต่ในที่สุดก็ตกลงไปนางยวนอีกจนได้ คงเป็นเพราะหลงเสน่ห์นางยวนแน่ๆ 555 งานนี้วางแผนกันมานานเป็นปีเลยทีเดียว เพื่อนชวนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รอที่จะซื้อแพคเก็จจากงานเที่ยวไทยเดือนมีนาคม หลังจากที่มัดจำที่งานเที่ยวไทย ก็โทรไปจองห้องพัก(อ่านรายละเอียด ไปเที่ยวเกาะเต่า เกาะนางยวน สวรรค์กลางอ่าวไทยกัน) ทีแรกจะจองช่วงเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด แต่มาลงตัวที่ช่วงหยุดวันพ่อ เป็นช่วงมรสุมของอ่าวไทยพอดี (กลางตุลาคม-กลางธันวาคม) ซึ่งจะมีฝนตกและคลื่นลมแรง
เราจองบ้านพักปรับอากาศโซน K ซึ่งราคาแพคเก็จจะเท่ากับโซน A แต่ต่างกันตรงที่โซน K อยู่เขาเล็ก ส่วนโซน A อยู่เขาใหญ่ เท่าที่ดูโซน A น่าจะขึ้นเขาต่ำกว่าโซน K จากการสอบถามพนักงานเพื่อความสะดวกเพราะช่วงนั้นน้ำท่วมสันทรายฝั่งไปเขาใหญ่ เลยตัดสินใจจองโซน K ซึ่งบ้านพักที่ราคาสูงส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งนี้ เลยคิดเอาเองว่าวิวน่าจะดีกว่า และอยู่ฝั่งเดียวกับจุดชมวิวด้วย ราคาแพคเก็จต่อคน 4,700 บาท รวมค่ารถ ค่าเรือ ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าดำน้ำรอบเกาะแล้ว
ออกเดินทางคืนวันที่ 4 ธันวาคม ต้องไปเช็คอินรับตั๋วเรือที่สำนักงานลมพระยาก่อน 2 ทุ่มครึ่งและขึ้นรถแถวๆ หน้าธนาคารทหารไทยสาขาบางลำพูซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ออกมากันตั้งแต่หกโมง และเนื่องจากเป็นวันหยุดติดต่อกันรถติดมากๆ รอแท็กซี่อยู่เกือบชั่วโมง ก็ได้ออกเดินทาง ถึงตรอกข้าวสารสองทุ่มสิบห้า ก็เดินไปเช็คอิน
ถนนแถวนั้นปิดบางสายเนื่องจากจะมีขบวนรถประดับไฟที่ร่วมเฉลิมฉลองวันพ่อ
เดินเข้าไปเช็คอินเพื่อรับตั๋วเรือ ตั๋วรถ ป้ายติดกระเป๋า และจองที่นั่งบนรถ ที่สำนักงานลมพระยาในตรอกข้าวสาร แถวนี้คึกคักดี
ได้ตั๋วเรือมาเท่าจำนวนคนที่ไป ส่วนตั๋วสีชมพูให้นำไปยื่นที่เกาะในวันที่จะกลับเพื่อรับตั๋วรถตั๋วเรือ นอกจากนี้ก็จะมีสติ๊กเกอร์ติดหน้าอกเป็นสีระบุคันรถและระบุเลขที่นั่งบนรถ
มื้อเย็นวันนี้ฝากท้องกับ 7-Eleven จากนั้นก็มานั่งรอกันที่บริเวณเกาะกลางถนน เนื่องจากรถยังไม่มา โดยปกติรถจะออก 3 ทุ่ม
วันนั้นมีรถออกประมาณ 5 คัน รถที่เราจะขึ้นมาหลังสุด กว่าจะได้ออกเดินทางก็ประมาณสี่ทุ่ม รถที่ขึ้นเป็นรถวิ่งวน เพิ่งกลับมาจากชุมพรจอดส่งนักท่องเที่ยว พวกเราก็ขึ้นแล้วออกเดินทางไปชุมพรต่อเลย
รถแวะพักครั้งเดียวตอนประมาณตีสอง จอด 30 นาที ให้เข้าห้องน้ำหรือใครหิวก็ทานข้าวได้ มาถึงท่าเรือทุ่งมะขามน้อยประมาณเกือบหกโมง เอาตั๋วไปเช็คอิน เพื่อรับสติ๊กเกอร์ติดหน้าอกระบุเกาะที่จะไป เกาะนางยวนจะเป็นสติ๊กเกอร์วงกลมสีเขียว
จากนั้นก็รอเรียกขึ้นเรือ ประมาณ 7.00 น. ต้องถือตั๋วคนละใบเพราะจะมีคนยืนเก็บตั๋วก่อนลงสะพาน
สะพานท่าเรือ ยาวพอสมควร
พอขึ้นเรือเข้าไปจับจองที่นั่งได้ตามใจชอบเพราะไม่มีระบุที่นั่งบนเรือ ด้านในจะเป็นห้องแอร์ ถ้าเป็นด้านบนก็จะเปิดโล่ง ที่นั่งไม่สบายเท่าด้านล่าง ส่วนถ้าอยากนั่งแบบ VIP ที่อยู่ด้านบน ก็จ่ายเงินเพิ่มอีก 50 บาท สะพานท่าเรือมุมสูง
พอเรือใกล้ออก ก็ลงมาด้านล่าง
ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ เข้าเว็บกรมอุตุนิยมวิทยาทุกวันวันละหลายรอบ ภาวนาให้ไม่มีฝนตกคลื่นลมแรง เพราะก่อนหน้า 1 อาทิตย์ที่จะมามีฝนฟ้าคะนองกระจายคลื่นสูง 2-3 เมตร แต่ก็เบาใจเพราะจากการพยากรณ์ที่ช่วงที่มาไม่มีฝนแล้ว แต่วันเดินทางยังมีคลื่น 1-2 เมตร พอเรือออกไปได้นิดเริ่มรู้สึกถึงแรงคลื่น เหมือนนั่งเรือเหาะอยู่ในดรีมเวิลด์ =.= พนักงานเริ่มแจกถุงพลาสติก และเดินถือม้วนกระดาษทิชชู่ตลอดเวลา เรือออกได้ไม่นานเกือบ 50% ในเรืออาเจียนเพราะเมาคลื่น โชคดีที่เราไม่เมาเรือ กัปตันจอดเรือประมาณ 2 ครั้งเนื่องจากหลบคลื่น ในเรือจะมีหนังเปิดให้ดูถึงเกาะนางยวนก็จบเรื่องพอดี
ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งในการเดินทาง บางคนถึงเกาะหมดแรง คนที่ต่อไปพงันกับสมุยแล้วเมาเรือคงหมดแรงแน่ๆ ถ้าขึ้นเรือแนะนำให้นั่งค่อนไปทางหลังๆ จะดีกว่า เพราะจะนิ่งและไม่โยนเท่าด้านหน้า นั่งไปก็ลุ้นไปว่าสภาพอากาศจะเป็นยังไง เพราะมองจากในเรือออกมาด้านนอก มันดูครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก
ถึงเกาะนางยวน 8.30 น. พอออกมาแดดเปรี้ยงเลย เพราะในเรือติดฟิมล์กรองแสงทำให้เห็นว่าข้างนอกครึ้มๆ ลงจากเรือ พี่น้อยผู้จัดการใหญ่ของเกาะนางยวนมารับที่ท่าเรือ พี่น้อยนี่สุดยอดจริงๆ เพียงครั้งเดียวก็จำชื่อแขกที่มาพักได้อย่างแม่นยำ และเรียกชื่อถูกตลอด Trip เลยทีเดียว
เรือเทียบที่ท่าเรือใหม่ ที่อยู่ด้านหลังเกาะเล็ก แทนท่าเรือเดิมด้านหน้าที่พัง
เรือคาทามารันที่เราโดยสารมา ชื่อ เกาะปราบ ซึ่งวันกลับก็ขึ้นลำนี้กลับเหมือนกัน
หลังจากขึ้นจากท่าเรือ ก็เดินมาตามสะพานไม้บนเกาะ แยกซ้ายมือที่เห็นเป็นทางขึ้นจุดชมวิวที่เป็นทางขึ้นที่ทำใหม่
เดินลัดเลาะเกาะมายังด้านหน้าเกาะ ระยะทางไกลพอดู
น้ำใสๆ กระทบฝั่ง เศษซากปะการังเต็มไปหมด
โชคดีมากๆ ที่วันนั้นแดดดี เลยทำให้ทะเลสวยอย่างที่เห็น
เนื่องจากเดือนที่มีมรสุมน้ำจะมาก ตอนที่ไปน้ำ่ท่วมสันทรายทั้งสองเกาะ พนักงานเลยมารอเช็คอินที่เขาเล็ก ส่วนใครที่อยู่ฝั่งเขาใหญ่ก็รอเรือยางมารับไปเช็คอินที่ Reception บ้านพักหลังที่เห็นคือห้อง D6 เป็นห้องที่น่าพักอีกห้องนึง
มองไปเห็นสะพานท่าเรือเดิมที่พัง ครั้งที่แล้วที่มา เรือจะเทียบท่าที่ท่าเรือนั้น
หลังจาก Check in ทำให้ทราบว่าทางรีสอร์ทได้ Up Grade ห้องให้พักโซน L ซึ่งถ้าดูราคาในแพคเก็จแล้วโซน L จะราคาสูงกว่าโซน K ที่เราจองมาประมาณ 3,000 บาท
เห็นน้ำทะเลแล้วอยากจะกระโดดลงไปดำผุดดำว่ายตั้งแต่ตอนนั้นเลย
หลังจากได้กุญแจห้องพัก ก็จะมีพนักงานหิ้วกระเป๋าขึ้นมาส่ง ขึ้นมาถึงที่พักเล่นเอาหอบ เหมือนเดินขึ้นตึกประมาณ 5-6 ชั้นได้ แต่ก็อยู่ระดับเดียวกับโซน K
ทางเข้าห้องพักจะมีรั้วแบบนี้กั้นไว้ เราได้พักห้อง L1 และ L2 ซึ่งอยู่ติดกัน ในภาพจะเป็นห้อง L1
ห้องซ้ายมือคือห้อง L1 ห้องขวามือคือ L2
ห้อง L2 ของเรา
ระเบียงห้อง ที่เห็นหลังคาถัดลงไปคือห้อง L3
วิวจากหน้าบ้านพัก สวยใช้ได้เลย
มาดูในห้องกันบ้าง เปิดประตูมาก็จะเจอกับภายในห้องแบบนี้ จะมีมุมที่เป็นห้องนอน กับมุมที่เป็นห้องนั่งเล่น แยกกันโดยเป็นพื้นต่างระดับ มีแอร์ 2 ตัวที่หัวนอนกับตรงห้องนั่งเล่นมีพักลมด้วย ด้านขวาเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่ง
ห้อง L1 ลักษณะห้องก็จะคล้ายกัน มีต่างกันที่ระหว่างที่นอนกับมุมนั่งเล่น L1 จะมีผนังกั้นนิดหน่อย ที่มุมนั่งเล่นไม่มีโต๊ะ พื้นห้อง L2 ปูเสื่อพื้นห้อง L1 ปูพรหม และ L1 มีแอร์ตัวเดียว
โซน L ส่วนใหญ่เตียงนอนจะเป็นแบบ Twin ยกเว้น L4 L8 L9 จะเป็นแบบ Double จะมีผ้าเช็ดตัวให้คนละ 2 ผืนและผ้าเช็ดหน้าเล็กๆ อีก 1 ผืน
ถ้ามา 3 คนก็นอนเตียงที่ห้องนั่งเล่นได้สบายๆ
ด้านข้างก็จะมีตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง โทรทัศน์และเครื่องเล่น DVD(อยู่ในตู้) TV ที่นี่ดูได้ทั้งช่องปกติและดู UBC ได้ด้วย
หน้าต่างด้านหน้าเป็นบานเกล็ด 3 บาน ยาวถึงพื้น
เมื่อเปิดม่านจะมองเห็นวิวสันทรายด้านล่าง
ห้อง L1 จะดีกว่าตรงที่ไม่ได้เป็นบานเกล็ดแต่จะเป็นกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ ดูได้จา่กรูปด้านบน
หน้าห้องน้ำจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำจะมีความยาวเท่ากับตัวห้อง
อ่างล้างหน้าและกระจกในห้องน้ำ
สุขภัณฑ์และเครื่องทำน้ำอุ่น ผ้าเช็ดตัวจะอยู่ในห้องน้ำ 2 ผืน ส่วนที่ปลดทุกข์จะแยกกับส่วนที่อาบน้ำโดยจะเป็นพื้นต่างระดับกัน เวลาไปปลดทุกข์เหมือนขึ้นนั่งบนแท่น
จุดชมวิวที่อยู่หน้าบ้าน L3 นั่งสบายๆ ลมเย็นๆ
วิวบริเวณนั้น ด้านล่างที่เห็นหลังคา จะเป็นบ้านแบบใหม่ที่สร้าง
ดูวิวมุมกว้างกันบ้าง แดดกำลังแรง โชคดีมากที่มาหน้ามรสุมแต่ไม่เจอฝนเลย
นั่งพักทานขนม(เพราะมื้อเช้าไม่อยู่ในแพคเก็จ) ได้สักพัก ก็ลงไปเดินเล่นรอบๆ เกาะ บันไดทางขึ้นบ้านพักของเรา
บ้านพักที่กำลังทำใหม่ ซึ่งสร้างบริเวณเดิมแต่เปลี่ยนโครงสร้างให้ใหญ่ขึ้น ช่วงนี้เป็นหน้า Low ของเกาะนางยวน ทางรีสอร์ทเลยทำการสร้างและปรับปรุงที่พัก
ช่วงนี้น้ำมาก ตอนกลางวันน้ำจะท่วมสันทรายทั้งสองเกาะ ต้องเดินลุยน้ำ
ที่พักโซน D ติดหาด ฝั่งเขาลูกเล็ก ยังใหม่ๆ อยู่เลย ครั้งที่แล้วเราพักโซน F เนื่องจากที่พักโซนอื่นๆ เต็ม ก็คิดไว้ว่าถ้ามาอีกจะต้องมาพักโซน D ให้ไ้ด้ เพราะตอนนั้นราคาแพคเก็จโซน F ที่ซื้อจากเอเจนซี่ 4,800 บาท ราคาโซน D 5,600 บาท แต่หลังจากมีการปรับปรุงห้องราคาแพคเก็จปกติของโซน D อยู่ที่ 10,000 - 11,600 บาท เลยจำต้องขอบายโซน D ไปพักโซน K แทน
ื้ริมหาดด้านนี้จะมีเศษไม้ประปรายเพราะฝั่งนี้กำลังมีการก่อสร้าง
น้ำใสมากๆ
กลางวันมีเมฆพอสมควร มีแดดร่มสลับกับแดดออกเป็นพักๆ
เดินเล่นรอบๆ เกาะก่อน กะว่ารอทานข้าวกลางวันและเล่นน้ำก่อนบ่ายๆ ค่อยขึ้นไปจุดชมวิว
ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวย ใส ไปหมด
เดินเล่นมาตามทางที่ขึ้นจากท่าเรือ เป็นทางเดียวกับที่จะไปขึ้นจุดชมวิว
ครั้งที่แล้วที่มา สะพานรอบเกาะนี้สั้นกว่านี้มาก แต่คราวนี้เดินได้เกือบรอบเกาะ
ด้านนี้มองเห็นเกาะเต่าอยู่ไม่ไกล
เดินเล่นสักพัก ก็ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวัน ขึ้นที่พักเพื่อเปลี่ยนชุดเตรียมพร้อมไปดำน้ำหน้าหาด และเตรียมพร้อมเดินลุยน้ำไปทานข้าวกลางวัน
ตอนที่ 2 พาเที่ยว เกาะนางยวน สวรรค์กลางอ่าวไทย(2) พาไปดำน้ำหน้าหาดและพาขึ้นไปชมวิวบนจุดชมวิวกันค่ะ ^_^
อยากพาเที่ยวแบบละเอียด รูปเลยเยอะอาจทำให้โหลดช้า ต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ