ต่อจากตอนที่แล้วค่ะ ไปเลี้ยงแกะที่ Swiss Valley Hip Resort สวนผึ้ง ราชบุรี(3) เช้าของอีกวันเราต้องเดินทางกลับแล้วค่ะ Post นี้จะำพาไปชมบรรยากาศยามเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น เก็บตกกิจกรรมที่เรายังไม่ได้ทำเมื่อวาน และพาไปชมบ้านพักหลังอื่นๆ บ้างค่ะ สวยทุกห้องจริงๆ ใน Post รูปเยอะ โหลดช้าก็ต้องขออภัยนะคะ
เช้านี้ตื่นมาตั้งแต่ตีห้าครึ่ง คิดไว้ว่าตื่นมาเช้าๆ อาจจะโชคดีได้เห็นหมอกยามเช้า ทั้งๆ ที่รู้ว่าหน้านี้คงยากที่จะมีหมอกให้เห็น แต่พนักงานบอกว่าบางวันที่มีฝนตก อีกวันอาจจะมีหมอก เลยต้องลองตื่นมาดู ที่นี่จะมองไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเพราะมีภูเขาบัง แต่จะเห็นแสงสวยๆ ตอนพระอาทิตย์ขึ้น
ตื่นมาก็เปิดระเบียงบ้านออกมาก่อนเลย ดูว่ามีหมอกไหม มีแต่หมอกที่อยู่บนยอดเขาไกลมาก
เห็นเป็นก้อนขาวๆ บนยอดเขาเหมือนเมฆเลย แต่พอแดดออกก็จางหายไป
ออกมาชมบรรยากาศรอบๆ บ้าน
เริ่มเห็นแสงของพระอาทิตย์ บ้านหลังซ้ายมือคือบ้าน S.1 ขวามือคือ บ้าน S.2
บ้านที่เห็นในภาพด้านล่างคือบ้าน S.3 ท้ายๆ Post จะพาไปชมด้านในบ้านนี้กันค่ะ
เริ่มสว่างมากขึ้นแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นเร็วมาก
เห็นแสงสะท้อนของพระอาทิตย์และหมอกที่อยู่บนยอดเขา บ้านหลังซ้ายมือคือบ้าน S.7 บ้านหลังขวามือคือบ้าน S.6
หลังจากออกมาดู(แสง)พระอาทิตย์ขึ้นและหมอก จากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัว เก็บของ และออกไปเดินเล่น ก่อนที่จะไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ที่เห็นเป็นหน้าต่างกระจกอยู่ด้านบน อากาศตอนเช้าสดชื่นมากๆ เหมาะที่จะไปเดิน-วิ่งออกกำลังกาย หรือ ว่ายน้ำ
บ้านกระต่าย ที่นี่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ พนักงานบอกว่าบางทีมันก็ออกแอบไปเดินเล่นด้านนอก มีทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ที่ออกไปจะเป็นตัวใหญ่ ที่นี่ก็มีป้ายห้ามยิงกระต่าย กับยิงไก่ด้วย
กระต่ายขนฟูน่ารัก ^_^
ดูมุมกว้างบ้าง ด้านข้างก็มีทางขึ้นห้องอาหาร
เราจะเดินไปให้อาหารหงส์ดำและปลากันค่ะ เดินผ่านตรงนี้ซึ่งเป็นส่วนของซาวน่าและฟิตเนส
มาถึงแล้วจุดชมหงส์ดำ เขากำลังก่อสร้างซุ้มทางเข้าอยู่
บริเวณนี้จะเป็นลานกว้าง มีที่นั่งและมีอาหารเอาไว้ให้หงส์และปลา พอโยนไปทั้งหงส์และปลาก็พากันมากิน
ตัวดำปากแดง
ประมาณ 7.00 น. ได้เวลาอาหารเช้า เดินขึ้นจากตรงนี้ไปยังห้องอาหาร ห้องอาหารจะขึ้นจากตรงนี้ หรือเดินลงมาจากลานที่เราทานข้าวกันเมื่อคืนก็ได้
ถ่ายวิวรอบๆ
ทางเข้า
ด้านหน้าจะเป็นต้นกุหลาบตลอดแนว
วิวด้านหน้า
ภายในห้องอาหาร อาหารเช้าเป็นบุฟเฟต์
ไม่ได้ถ่ายอาหารมา อาหารเป็น American Breakfast
วิวด้านนอก
มุมนึงในห้องน้ำที่ห้องอาหาร ขนาดห้องน้ำยังมีการตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ
ด้านข้างของห้องอาหารก็จะมีห้องบ่มไวน์ พนักงานเป็นคนแนะนำและพามาชม
ภายในห้องบ่มไวน์ รู้สึกภายในห้องจะไม่เย็นเหมือนเป็นอุณหภูมิปกติ เคยไปที่เขาใหญ่ ในห้องบ่มไวน์จะรักษาอุณหภูมิไว้ให้เย็นๆ
ทางขึ้นด้านบน หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็นั่งรถกอล์ฟ ไปชมวิวที่ต่างๆ กันในรีสอร์ทอีกรอบและเตรียมตัวเดินทางกลับ เดี๋ยวไว้ต่อตอนหน้านะคะ
ในโพสนี้ก่อนกลับจะพามาชมห้องต่างๆ ค่ะ แต่ละห้องสวยไปคนละแบบ น่าอยู่ น่าพักทุกห้องเลย ^_^ อย่างที่บอกว่าทั้งรีสอร์ทเกือบจะมีแต่พวกเรา แต่ละคนก็พักในแต่ละบ้าน ก็เลยมีโอกาสที่จะเดินไปเที่ยวชมบ้านอื่นๆ กัน จริงๆ ไปเที่ยวชมกันมาตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่เอามาไว้ในโพสนี้ และแต่ละหลังจะไม่ได้เรียงตามเวลานะคะ เริ่มกันที่บ้านแรกเลย บ้าน S.6 ชื่อบ้าน Riesling Villa เป็น English Country Style
ในห้องน่ารักหวานแหววมากๆ จุดเด่นบ้านนี้่น่าจะเป็นตรงเตียงและสีที่ใช้ หวานมาก
มุมโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้า
ภายในห้องน้ำ ห้องน้ำแต่ละบ้านกว้างและสวยทุกห้อง
มีอ่างอาบน้ำสไตล์เดียวกันกับที่บ้าน S.4 ที่เราพัก
อันนี้บ้าน S.8 ชื่อ Barberra Villa เป็น French Country Style ไปมาตอนกลางคืน บ้านนี้ก็น่ารัก บ้านเป็นเหมือนโดมกลมๆ มีปล่องไฟด้วย ตรงกับพระจันทร์พอดี
บ้านนี้พอเข้ามาด้านในจะเป็นวงกลม 360 องศา ครึ่ง ด้านหนึ่งจะเป็นที่นั่งเล่น และมีม่านที่ยาว 90 องศา ไว้เปิดชมวิว
อีก 90 องศาก็จะเป็นส่วนของที่นั่งเล่นและประตูที่เข้าไปในส่วนของห้องน้ำ
อีกด้านประมาณ 90 องศาก็จะเป็นเตียงนอนปลายเตียงมีตู้ทีวี
อีก 90 องศาที่เหลือก็จะเป็นส่วนของมินิบาร์ ที่นั่งเล่นดูทีวี ในห้องมีทีวี 2 เครื่อง
มุมนั่งเล่นดูทีวี ทุกห้องจะมีซีดีหนังอยู่ในห้องประมาณ 3 แผ่น
ภายในห้องน้ำ ก็เก๋ดี บนเพดานมีการเพ้นท์ลายสวนดอกไม้ด้วย คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นดอก Lavender ห้องน้ำก็กว้างขวาง มีอ่างอาบน้ำ
ต่อมาเป็นบ้าน S.2 ชื่อGrenache Villa เป็น Spanich Country Stryle ห้องนี้ถ่ายมาภาพเดียวบริเวณเตียงนอน
บ้านต่อมาเป็นบ้าน S.3 ที่อยู่ใกล้กับบ้านเราที่สุด ชื่อ Zinfandel Villa เป็น Greece Country Style เตียงนอนก็เป็นเตียงกลมๆ เหมือนกัน บ้านนี้ก็สไตล์น่ารัก โทนเขียวม่วง
มุมนั่งเล่น
บ้านนี้เด่นตรงนี้แหละ ที่นั่งน่ารักดี อยากให้เห็นแต่ไม่มีรูปถ่ายที่ไม่มีคน =.= เลยต้องเอาภาพนี้ ถ่ายตอนหลังจากที่ไปทำกิจกรรมเสร็จ แฮ่ก..กลับมา นางแบบเลยหน้ามันจนจะทอดไข่เจียวฟูๆ ได้ เลยต้องเอาหน้ากากมาใส่ปิดบังความมันไว้หน่อย
แค่เดินไปดูบ้านคนอื่นก็มีความสุขแล้ว ^_^ บ้านสวยๆ ทั้งนั้นเลย บ้านหลังต่อมา S.5 ชื่อ Trempanillo Villa เป็น Tuscany Country Style บ้านแต่ละบ้านเป็นสไตล์ไหนก็จะมีธงประเทศนั้นปักอยู่ หน้าบ้านนี้มีที่นั่งน่ารักดี
มาที่ห้องน้ำกันก่อนเลย อ่างอาบน้ำ
มุมนั่งเล่น ห้องนี้จะเป็นโทนสีแดง ส้ม น้ำตาล
ตรงนี้เป็นเตียงเสริม บ้านนี้อยู่ 3 คนเหมือนกัน
เตียงนอน ฉากด้านหลังสดใสมาก ภาพนี้เบลออย่างแรง >_<
มุมนั่งเล่นดูทีวี
บ้านหลังต่อมา S.7 ชื่อ Chardonnay Villa เป็น English Country Style บ้านนี้สวยเรียบๆ แบบผู้ดีอังกฤษ ตอนเข้ามารู้สึกบ้านหลังนี้กว้างและมีหลายส่วนดี จริงๆ ขนาดก็พอๆ กันกับบ้านอื่น
มุมนั่งดูทีวี
ห้องนี้เด่นตรงนี้ ด้านข้างห้องนอน จะมีกระจกบานใหญ่อยู่ด้านข้าง มองออกไปเห็นวิวสวยๆ
มินิบาร์อยู่ข้างประตู
มองจากด้านนอก เข้าไปในห้อง
บ้าน S.1-S.8 จะอยู่โซนเดียวกันใกล้ๆ กัน ได้เข้าไปดูเกือบจะทุกหลังยกเว้น S.1 ส่วนบ้านที่เป็น Pavilion จะอยู่อีกฝั่งใกล้ๆ กับร้านอาหาร ซึ่งจะเป็นวิวมุมสูงกว่า บ้านทุกหลังตกแต่งได้สวยทุกหลัง มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกือบทุกจุด น่าพักทุกหลังเลย ^_^ แต่แอบเข้าข้างตัวเองนิดว่าบ้านที่เราพักสวยสุด อิอิ
เขียนมายาว 4 ตอนแล้ว เริ่มเหนื่อย ตอนหน้าจะเป็นตอนจบแล้วค่ะ เรา Check Out แล้วไปแวะที่ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ลันดาออร์คิด และไปแวะทานข้าวที่บ้านหอมเทียน ทานข้าวในปิ่นโต กันในบรรยากาศแบบเก่าๆ
ตามไปเที่ยวต่อตอนจบกันเลยค่ะ >> ไป เลี้ยงแกะที่ Swiss Valley Hip Resort สวนผึ้ง ราชบุรี(จบ)
ตอนที่ผ่านมา
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ