จากที่ได้พาเที่ยวสวนผึ้งมา 5 ตอน
ทางเข้า มองไปด้านในร่มรื่นมาก
ด้านข้างตกแต่งด้วยของเก่าๆ กับเก้าอี้ตัดผม
รถจักรยานและมอร์เตอร์ไซค์ที่มีที่นั่งพ่วงด้านข้าง ขึ้นไปนั่งถ่ายรูปได้
รถเข็นขายของแบบโบราณ บริเวณนี้จะเป็นเหมือนทางเดินที่สร้างอยู่บนน้ำ
ตามต้นไม้ก็มีตกแต่งด้วยรถเก่าๆ ของเด็ก ที่นี่มีการตกแต่งแทบจะทุกที่
กล่องลูกอมเก่าๆ
ชาวกระเหรี่ยง-ยวน สวนผึ้งยินดีต้อนรับ
เดินเข้ามาด้านใน ด้านซ้ายจะเป็นร้านอาหาร ด้านขวาจะเป็นส่วนที่จำหน่ายเทียน เราจะเข้าไปดูในส่วนจำหน่ายเทียนกันก่อนค่ะ
ด้านหน้าก็จะมีบ่อปลาคราฟ และถังน้ำบัวรดน้ำแขวนๆ แบบในภาพ ชอบตรงนี้เท่ดี
เค้าท์เตอร์ชำระเงินด้านหน้า เดินเข้าไปด้านในก็ได้กลิ่นเทียนหอมๆ ^_^
เจ้าตัวนี้มันนอนหลับแบบไม่สนใจใคร
บริเวณนี้ก็จะเป็นส่วนที่มีอุปกรณ์การทำเทียนมาแสดงไว้ให้ดู วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการทำเทียนของที่นี่ คัดจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้เทียนที่คุณภาพดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น น้ำหอมจากฝรั่งเศส อังกฤษ สีจากเยอรมัน ไส้เทียนจากใต้หวัน และพาราฟินคุณภาพดีจากจีน
เตาแก๊สและกาต้มเทียน วิธีการทำเทียนของที่นี่เป็นความลับ
บริเวณนี้ก็มีวางของที่ทำแล้ว และมีของจำหน่าย ทั้งเทียน เสื้อและของที่ระลึกอื่นๆ
หมวกแบบนี้ก็มีขายนะ
เทียนสีต่างๆ
เทียนที่ทำเสร็จแล้ว
ความสุข+เทียนหอม=บ้านหอมเทียน ข้อมูลก็อ่านมาจากป้ายนี้แหละ ที่ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
มาดูด้านในกันบ้าง มีเทียนให้เลือกซื้อมากมาย
นอกจากเทียนก็ยังมีของที่ระลึกอื่นๆ ด้วย
เทียนก็จะมีหลายขนาดให้เลือกซื้อ ราคาก็ต่างกัน และมีหลายลายให้เลือก น่ารักๆ ทั้งนั้น เลือกไม่ถูกเลย
มีเก้าอี้ให้นั่งพักด้วย เข้าไปด้านในได้กลิ่นหอมๆ ของเทียน สดชื่นดี
มีเทียนจุดอยู่ตามชั้นวางสินค้า เพิ่มความน่าสนใจ
ลายที่อยู่ในเทียนแต่ละอัน ก็เป็นเทียนทั้งหมด
เทียน Happy Birth Day เป็นแท่งยาว ด้านบนจุดได้หลายที่
เทียนอมยิ้ม น่ารักดี
เทียนหลักกิโลเมตร ซึ่งตรงกับหลักกิโลเมตรที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งร้านตั้งอยู่ กม.33
นอกจากเทียนแล้ว ก็ยังมีแก้วใส่เทียนขายด้วย ที่สวนผึ้งในช่วงหน้าหนาว จำไม่ได้ว่าช่วงเดือนอะไร จะมีการจัดงาน Candle in the Winter ซึ่งบ้านหอมเทียนเป็นผู้จัดเทียนในงานนี้
เทียนจะมีหลายไซส์ แต่ละไซส์ก็จะราคาต่างกันไป
แต่ละอันก็ยังมีกลิ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีป้ายบอกไว้ว่าแต่ละอันเป็นกลิ่นอะไร
หมวก
ด้านในก็จะมีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ เป็นครอบครัวแกะ รอบๆ ก็ตกแต่งด้วยเชิงเทียนเก๋ๆ
สังเกตดีดีจะมีหมาป่าแฝงมา 1 ตัว ตัวแกะและหมาป่า ทำมาจากเทียน สวยดี
อันนี้น่าจะเคยลงในหนังสืออะไรสักฉบับ เป็นภาษาอังกฤษ
มาเดินดูด้านนอกกันบ้าง ป้ายหลักกิโลเมตรทำมาจากเทียนนะ
อีกมุมที่น่ารักๆ
บริเวณนี้จะเป็นเหมือนแกลอรี่ภาพ
เข้ามาด้านในก็จะเป็นภาพวาดต่างๆ
เราข้ามมาในส่วนของร้านอาหารกันบ้าง ที่นี่ก็จะมีของตกแต่งมากมาย ทีวีเก่าๆ ตุ๊กตาไม้
ของใช้และของเล่นเก่าๆ
วางแรียงรายกันอยู่ กลมกลืนกับตู้น้ำที่ใช้แช่น้ำเพื่อจำหน่าย
ที่นั่งตัดผม
นาฬิกาแบบลูกตุ้ม
เข้ามาหาโต๊ะนั่ง บนโต๊ะก็จะมีเทียนหอมจุด สมกับเป็นบ้านหอมเทียน
ข้าวที่นี่ถ้ามาหลายคน จะเสริฟเป็นปิ่นโต เถาหนึ่งจะมี 5 ใบ ข้าวจะออกสีน้ำเงินม่วงๆ เป็นข้าวที่หุงน้ำดอกอัญชัญ แปลกดี
มาดูกับข้าวกันบ้าง เมนูแรกยำเห็ดโคน
โต๊ะก็จะเป็นไม้สีๆ ต่อๆ กัน จากก็จะเป็นจานสังกะสีเก่าๆ ที่เคยใช้กันเมื่อสมัยก่อน แต่ตอนนี้คงไม่ค่อยได้เห็นแล้ว
ดูข้าวกันชัดๆ ถ้ามากันแค่ไม่กี่คน ข้าวจะเสริฟเป็นจาน
เมนูต่อมาเป็นแกงเลียง น้ำเข้มข้นมาก
อันนี้เป็นเมนู เป็ดอี้เหลียงผัดพริกไทยดำ ว่ากันว่าเป็นเป็นพันธุ์เป็ดจากมลฑลยูนาน ประเทศจีนโน่น เมนูนี้ไม่ได้ลองทาน
เมนูนี้จริงๆ สั่งผักอะไรสักอย่างผัดแต่วันนั้นไม่มี เลยได้เมนูนี้มาแทน กวางตุ้งฮ่องเต้ผัดน้ำมันงา
หมูจินหัวแดดเดียว เป็นพันธุ์จากประเทศจีนอีกเช่นกัน อร่อยดี แต่บางชิ้นมันรสชาติแปลกๆ บอกไม่ถูกเหมือนมันเก่าๆ หืนๆ
ไข่เจียวดอกขจร หรือไข่เจียวดอกสลิด อร่อยมาก ไข่เจียวฟูและกรอบดี ยกให้ไข่เจียวที่นี่อร่อยเป็นอันดับ 2 รองจากสหโภชน์ มก.เลย อิอิ
ได้มาแล้วเมนูทั้งหมด ก็ลงมือหม่ำๆ กันเลย
จานและช้อนสังกะสี แนวย้อนยุค
นอกจากนี้ถ้าสั่งน้ำใส่กระบอกไม้ไผ่แบบนี้ก็ 50 บาท มีน้ำให้เลือกหลายอย่าง วันนั้นเราทานชาเย็น
เจ้าตัวนี้โผล่มาตอนทานข้าว หน้าตามันตลกดี
ของตกแต่งบริเวณนั้น
รอบๆ ที่ทานข้าวก็ตกแต่งด้วยของต่างๆ
ของใช้เก่าๆ บ้านๆ เมื่อสมัยก่อน พัดลมเก่าๆ แต่ยังใช้การได้นะ เวลาทานก็เปิดพัดลมพวกนี้แหละ
ทานเสร็จก็เข้าห้องน้ำก่อนกลับ ในห้องน้ำก็มีการตกแต่งด้วยถาพดารานักร้องเก่าๆ แถมในบ้างห้องอาจจะมีดาราแอบมองตอนเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ เพราะในห้องก็มีรูปดาราเก่าๆ แปะอยู่
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ