เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา(พฤษภาคม 2454) ได้ไปสัมมนากับที่ทำงาน และแวะศึกษาดูงานที่โครงการช่างหัวมัน โครงการนี้มีพื้นที่อยู่ที่ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากถนนสายหลักเข้าไปประมาณ 47 กิโลเมตร เป้าหมายของโครงการคือ ต้องการให้เป็นศูนย์รวมพืชเศรษฐกิจของ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โดยมีการเลือกพันธุ์พืชในท้องถิ่น ที่เป็นพันธุ์ที่ดีที่สุดเข้ามาปลูกในโครงการ โดยให้ภาครัฐและชาวบ้านช่วยกันดูแล ซึ่งเป็นโครงการแบบบูรณาการ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่า ซึ่งเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจได้เข้าชม
คำว่า "ชั่งหัวมัน" มีที่มาจาก เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับที่วังไกลกังวล ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ ทรงมีพระประสงค์ให้นำมันเทศที่ชาวบ้านนำมาถวายไว้ วางไว้บนตาชั่งแบบโบราณ และเมื่อเสด็จพระราชดำเนินมาที่วังไกลกังวลอีกครั้ง จึงพบว่ามันเทศที่วางไว้บนตาชั่งมีใบงอกออกมาจึงมีพระราชดำรัสว่า "มัน" อยู่ที่ไหนก็งอกได้ โครงการตามพระราชดำริที่เขากระปุกนี้จึงเน้นการปลูกพืชท้องถิ่น เช่น ชมพู่เพชร มะนาว สัปปะรด ฯลฯ และทรงมีพระราชดำริให้ปลูกแปลงทดลองมันเทศในที่ดินส่วนหนึ่ง และมีการสร้างอ่างเก็บน้ำหนองเสือไว้ใช้ในโครงการ เมื่อมีการกราบบังคมทูลฯ ขอพระราชทานชื่อโครงการ พระองค์จึงตั้งชื่อโครงการในพระราชดำรินี้ว่า "ชั่งหัวมัน"
โครงการตั้งอยู่เดี่ยวๆ ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งพื้นที่นี้เป็นพื้นที่แห้งแล้ง ฝนไม่ค่อยตกเนื่องจากลมมักจะพัดพาฝนไปตกที่อื่น พื้นที่จึงค่อนข้างแห้งแล้ง แต่ได้รับการพัฒนาจนสามารถที่จะปลูกพืชพื้นเมืองต่างๆ พอใกล้ถึง สิ่งที่เด่นสะดุดตา ก็คือกังหันลมสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า
โครงการมีพื้นที่ทั้งหมด 250 ไร่
บริเวณนี้เป็นโครงการปลูกตินไม้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดทำระบบไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่นี้
ถึงแล้วโครงการช่างหัวมัน ซึ่งตอนนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม
มีวิทยากรมาบรรยาย ความเป็นมาของโครงการ การดำเนินงาน และการทรงงานของในหลวงที่โครงการชั่งหัวมัน วิทยากรเป็นบุคคลท้องถิ่น บรรยายได้สนุกสนานและน่าฟังทีเดียว
ประมวลภาพพระราชกรณ๊ยกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งเสด็จมาเปิดโครงการชั่งหัวมัน และพระราชดำรัสที่อยู่ด้านล่าง
ไม่ว่าที่ใดๆ ในแผ่นดินไทย ไม่มีที่ไหนที่พระองค์ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไป แม้ในถิ่นแห้งแล้ง ธุรกันดาร ขอพระองค์ทรงพระเจริญ -/I\-
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาประทับที่พลับพลาเก้าเหลี่ยม ในโครงการชั่งหัวมัน
ประวัติความเป็นมาของโครงการ
ภาพกิจกรรมของโครงการ
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
...คนที่ไปดูก็เห็นได้ว่า เริ่มต้นด้วยไม่มีอะไรเลย แต่ว่าต่อมาภายในวันเดียว ทุกคนที่อยู่ในท้องที่นั้นก็เข้าใจว่าต้องช่วยกัน และยิ่งในสมัยนี้ ในระยะนี้เราต้องร่วมมือกันทำ เพราะว่าถ้าไม่มีการร่วมมือกัน ก็ไม่ก้าวหน้า ไม่มีความก้าวหน้า ฉะนั้น การที่ท่านได้ทำแล้วมีความก้าวหน้านี้เป็นสิ่งที่ดีมาก หลักการก็อยู่ที่ทุกคนต้องช่วยกันเสียสละ เพื่อให้กิจการในท้องที่ก้าวหน้าไปด้วยดี ก้าวหน้าได้อย่างไรก็ด้วยการช่วยเหลือกัน แต่ก่อนนั้นเคยเห็นว่ากิจการที่ทำมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งทำ แล้วก็ทำให้ก้าวหน้า แต่อันนี้มันไม่ใช่กลุ่มหนึ่ง มันทั้งหมดร่วมกันทำ และก็มีความก้าวหน้าแน่นอน อันนี้ก็เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ และเป็นสิ่งที่ทำให้มีความหวัง มีความหวังว่าประเทศชาติจะก้าวหน้า ประเทศชาติจะมีความสำเร็จ... ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๒
หลังจากฟังบรรยายแล้ว เราก็มาเดินดูรอบๆ โครงการ
มีพืชที่ปลูกอยู่หลากหลาย แยกแปลง
ทุ่งกังหันลมสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้นำพลังลมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งกังหันลมนี้ออกแบบและติดตั้งโดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ข้อมูลเกี่ยวกับกังหันลม
นอกจากจะมีประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังสวยอีกด้วย ^_^
มีที่นั่งแบบนี้เป็นช่วงๆ
บริเวณด้านนี้จะเป็นแปลงปลูกพืชต่างๆ
บวบ ฟัก แฟง ใหญ่มาก
ถ้าลมเย็นๆ ก็นั่งชมวิวชิวๆ แต่ตอนที่ไปร้อนมากๆ >_< แถมฝนใกล้ตกด้วย
แปลงต้นทานตะวันมีไม่มาก
แปลงหน่อไม้ฝรั่ง
กังหันในมุมกว้าง
พื้นที่กว้างมาก มีบริการรถเที่ยวชม หรือจะขี่จักรยานชมโครงการก็ได้ สำหรับคนที่อยากจะสัมผัสกับแปลงพืชต่างๆ อย่างใกล้ชิด
พื้นที่อีกด้าน
ด้านบนคือพลับพลา 9 เหลี่ยม
อ่างเก็บน้ำหนองเสือ
เป็นอีกหนึ่งโครงการในพระราชดำริที่น่าสนใจ เปลี่ยนแปลงพื้นที่ที่แห้งแล้ง มาปลูกพืชเศรษฐกิจที่เป็นพืชพื้นเมือง ที่นี่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม นอกจากจะได้ชมโครงการแล้ว ที่นี่ก็ถือว่าเป็นที่ที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามใช้ได้ พื้นที่ห่างไกล แห้งแล้งและไม่มีอะไรแบบนี้ ในหลวงท่านยังเสด็จมาถึงและมาพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ การที่ได้มาชมโครงการตามพระราชดำริชั่งหัวมันนี้ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่มีค่าและมีประโยชน์สำหรับเรา
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^