ต่อจากตอนที่แล้ว พาเที่ยว สัมมนาฮาเฮริมทะเลหัวหิน เยือนถิ่นเพลินวาน(1)
วันที่สองในหัวหินแพลนเดิมของเราคือ ไปจุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ สถานีรถไฟหัวหิน ร้านบ้านใกล้วัง(ประชุมสัมมนา) ช่วงบ่ายขากลับกรุงเทพฯ แวะเพลินวาน พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน และ ซื้อของฝากที่บ้านขนมนันทวัน ที่เพชรบุรี แต่แพลนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่ได้ไปจุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ ไม่ได้ไปร้านบ้านใกล้วังเพราะร้านปิด >_< ก็เลยไปหาร้านอื่นนั่งประชุมกันแทน
เช้าวันที่สองทานอาหารเช้าที่รีสอร์ทก่อนออกเดินทาง อาหารเช้าจะเป็นแบบสั่ง มีเมนูมาให้ว่าจะทานอะไร มื้อนี้ของเราเป็นข้าวต้มหมู อีกเมนูนึงก็เป็นอาหารเช้าแบบอเมริกัน
มีขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ ผลไม้ น้ำผลไม้ บริการตัวเอง เสร็จแล้วก็ Check Out ออกจากรีสอร์ท ถ่ายรูปรวมเป็นที่ระลึก แล้วก็ออกเดินทางไปสถานีรถไฟหัวหิน
ถึงแล้วสถานีรถไฟหัวหิน เป็นสถานีรถไฟที่คลาสสิคมาก ยังคงสิ่งก่อสร้างแบบสถานีรถไฟแบบเก่าที่สร้างด้วยไม้ ถือว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว
บริเวณนี้คือ "พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ" ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นของสถานีรถไฟหัวหิน สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 6) เดิมพลับพลานี้ตั้งอยู่ที่พระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม ชื่อว่า "พลับพลาสนามจันทน์" มีไว้เป็นที่พักเมื่อรัชกาลที่ 6 เสด็จประทับทอดพระเนตรกองเสือป่าและกองลูกเสือที่มีการฝึกซ้อมยุทธวิธีเป็นประจำทุกปี หลังจากสิ้นรัชสมัยของรัชกาลที่ 6 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รื้อถอนอาคารมาเก็บไว้ และต่อมาเมื่อพันเอกแสง จุลจาริตต์ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ใน พ.ศ. 2511 จึงได้มีการเครื่องอุปกรณ์ก่อสร้างของพลับพลาสนามจันทร์ที่เก็บไว้ มาปลูกสร้างใหม่ที่สถานีรถไฟหัวหิน เพื่อเป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตั้งชื่อใหม่ว่า “พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ”
ตัวอาคารของสถานีรถไฟเป็นตัวอาคารแบบเก่า ที่อนุรักษ์ไว้ มีการดูแลและรักษาอย่างดี ซึ่งจะเห็นว่ายังดูใหม่และสวยงาม แต่ยังคงความคลาสสิคของสถาปัตยกรรมแบบเก่า
ด้านตรงข้ามจัดแสดงหัวจักรรถไฟ
วันที่ไปโชคดีมาก มีรถไฟมาพอดี เป็นรถไฟขบวนที่จะเดินทางไปสุไหงโกลก
มีนายสถานีแต่งตัวเต็มยศ คอยให้สัญญาณ ดูได้บรรยากาศดี
บริเวณตัวอาคารด้านในสวยงาม สมกับเป็นสถานีรถไฟที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และสถานีรถไฟหัวหินนี้ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน โครงการ Smart Station จากการรถไฟแห่งประเทศไทยด้วย
มองย้อนกลับไปทางด้านพลับพลาพระมงกุฎเกล้า
บริเวณนี้จะมีห้องต่างๆ มีห้องประชุม ห้องรับรอง VIP ห้องผู้ช่วยนายสถานี ห้องปฏิบัติการเดินรถ ที่ฝากสัมภาระ และร้านกาแฟ
ป้ายสถานีรถไฟหัวหิน ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว ของที่ระลึกก็มีจำหน่ายป้ายแบบนี้ ใครมาถึงที่นี่เชื่อว่าต้องถ่ายกับป้ายอย่างแน่นอน
ป้ายอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ปี 2525 จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
ป้ายหัวหินอีกด้าน
ด้านกลังสถานี มีขบวนโบกี้รถไฟจัดแสดงไว้
เราเดินทางต่อไปที่ร้านใกล้วัง เพื่อหาที่นั่งสบายๆ ประชุมกัน จุดหมายคือบ้านใกล้วัง พอมาถึงร้านปิด >_< ก็เลยต้องหาร้านอื่น
นึกถึงร้านบ้านถั่วเย็น ที่ถือว่าเป็นร้านแนะนำอีกร้านของที่นี่ เสนอไปแต่ไม่ได้รับความสนใจ 555 เพราะว่ามีพี่ที่อยู่หัวหินแนะนำอีกร้าน เลยไปร้านนั้นกัน แล้วรถก็ขับผ่านร้านบ้านถั่วเย็นไปอย่างน่าเสียดาย
มาถึงร้านที่พี่เขาแนะนำ เป็นร้านกาแฟร้านหนึ่ง เราประชุมสัมมนากันที่นี่จนถึงเวลาอาหารมื้อเที่ยง
ถึงเวลามื้อเที่ยงแล้ว ก็คิดว่าจะไปร้านไหนกันดี พี่เขาก็แนะนำร้านน้องเปิ้ล เคยได้ยินชื่ออยู่ก็น่าสน จริงๆ ร้านในหัวหินก็มีให้เลือกเยอะ ตัวอย่างเช่น สังเวียนซ๊ฟู้ดที่เราพลาดไปเมื่อวาน ร้านอยู่เย็นที่อยู่ถนนเดียวกับร้านบ้านอิสระ แสงไทยซีฟู้ด ยกซด เจ๊เขียวซีฟู้ด บ้านชุบชีวา และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายเราก็ไปร้านที่เราไม่ได้ทานมื้อเย็นเมื่อวาน คือร้านบ้านอิสระ รีวิวร้านนี้ไว้แล้วที่ >> พากิน ร้านบ้านอิสระ ร้านอาหารบรรยากาศดี ริมทะเลหัวหิน ร้านบรรยากาศดีริมทะเล อาหารรสชาติ OK
จากมื้อกลางวันก็มาแวะเดินเล่นกันที่เพลินวาน
บริเวณด้านหน้า
เดินเข้าไปด้านในกันดีกว่า
เพลินวานเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาใหม่ บรรยากาศเก่าๆ แบบวันวานในอดีต
ด้านในจะเป็นอาคารไม้เปลือย ไม่ทาสี มีอาคารหันหน้าเข้าหากัน 2 ด้าน โดยมีสะพานเชื่อต่อกัน
ด้านล่างของอาคารเป็นที่จอดรถ
ด้านในก็จะเป็นร้านค้าต่างๆ ที่ขายของและตกแต่งร้านให้เข้ากับบรรยากาศเก่าๆ ในสมัยก่อน
มีระเบียงนั่งยาวอยู่บริเวณด้านหน้า เราไปวันธรรมดาคนเลยน้อย เดินกันสบายๆ แต่อากาศร้อนมาก
มีหนังกลางแปลง ชิงช้าสวรรค์ และร้านถ่ายรูปแบบเก่าๆ ถ่ายรูปในบรรยากาศเก่าๆ ในสตูดิโอ ถ่ายแล้วรอรับได้เลย ถ้าจำไม่ผิดราคา 70 บาท
ที่นี่มีที่พักด้วย ชื่อ พิมานเพลินวาน สำหรับคนที่ต้องการดื่มด่ำบรรยากาศย้อนยุคแบบข้ามคืน
ห้องน้ำ เขียนป้ายเท่ดี จิ๊กโก๋ จิ๊กกี๋ และร้านค้าต่างๆ มีร้านทองด้วยนะ เดินเล่นซื้อแต่ของกินเล็กๆ น้อยๆ ส่วนสินค้าอื่นๆ ไม่ได้ซื้อเลยเพราะรู้สึกว่าราคาสูงไปหน่อย
บรรยากาศรอบๆ
จากเพลินวาน มาที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อยู่ใน ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นพระราชวังที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยเป็นพระตำหนักประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
พอเข้าถึงพระราชวังสมาชิกหลายคนท้อแท้เดินต่อไม่ไหว ก็เลยมีแค่บางส่วนที่เข้าชม เสียค่าธรรมเนียมการเช้าชมคนละ 30 บาท ชมได้แค่ด้านล่าง ห้ามใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น หากใครใส่มาต้องไปยืมผ้าด้านข้าง เพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเข้าชม
เดินเข้ามาด้านข้างเหมือนเป็นส่วนของนิทรรศการ ที่จัดแสดงรูปเก่าๆ
พอเข้ามาด้านใน ร่มรื่นมาก มีต้นไม้เยอะ เห็นตัวอาคารพระราชวังสวยงาม
อาคารจะวางตัวทอดยาวขนานไปกับชายหาด มีพระที่นั่งทั้งหมด 3 หมู่ พระที่นั่งสมุทรพิมาน เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระที่นั่งพิศาลสาคร เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรราชชายา และพระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นท้องพระโรงและโรงละคร(จาก Wikipedia)
พระที่นั่งที่ประทับแต่ละหมู่เป็นอาคารชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องสี่เหลี่ยม เทพื้นคอนกรีต
แต่ละส่วนจะส่วนจะเชื่อมต่อกัน มีหลังคาคลุมตลอด
เราสามารถที่จะขึ้นไปชมด้านบนได้ แต่เนื่องด้วยเวลาที่มีอยู่น้อย เราเลยซื้อบัตรเข้าชมแบบที่ชมอยู่แค่ด้านล่าง ถ้าขึ้นชมด้านบนด้วยจะต้องเสียค่าเข้าชมเพิ่ม
จะเห็นว่าด้านหน้าของอาคารที่ทอดยาวจะเป็นชายทะเล ซึ่งเป็นทะเลชายหาดชะอำ
ทางเดินด้านล่าง
ทางเดินที่เชื่อมตัวจากอาคารลงไปที่ชายหาด
บริเวณสนามด้านหน้าห้ามเดินเข้าไปและเดินผ่าน มองเข้าไปเห็นอาคารที่เรียงตัวเป็นแนวยาว
มองย้อนกลับมายังตัวอาคารที่เชื่อมกับทางเดินลงชายหาด
มุมมหาชน ^_^
บ่อน้ำเก่าแก่
ส่วนด้านหน้าบนชายหาด
ทางที่เราเดินออกจะอยู่ข้างๆ กับทางเข้า แต่จะออกอีกด้าน ออกจากพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ก็มุ่งหน้าต่อไปยังจ.เพชรบุรี
เราแวะซื้อของฝากกันที่ร้านขนมบ้านนันทวัน
เค้กหม้อแกง และวุ้น ชอบขนมในตู้นี้อร่อยดี
บริเวณอื่นๆ นอกจากส่วนที่เป็นร้านขายของฝาก ก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของต่างๆ เป็นร้านขายของฝากที่ดูทันสมัย น่าเดินดี ^_^
จบการสัมมนาในครั้งนี้ ได้งาน ได้ความรู้จากการเข้าชมสถานที่ต่างๆ ได้เชื่อความสัมพันธ์อันดีต่อกัน บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหน่วยงานทุกประการ
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^