รีวิวสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ไปญี่ปุ่น กรุงเทพฯ- โตเกียว โอซาก้า - กรุงเทพฯ

ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาเมื่อ 8 - 18 เมษายน 2560 เดินทางโดยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ต่อเครื่อง 1 ครั้ง ที่เวียดนาม เลยจะขอรีวิวสายการบินไว้ เผื่อเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลค่ะ ทริปนี้เราแพลนกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว(2559) จะเที่ยวโตเกียว เกียวโต โอซาก้า โกเบ นารา ฮิเมจิ เมื่อได้เมืองที่จะไปก็เริ่มมองหาตั๋วเครื่องบินซึ่งตั้งงบไว้ว่าราคาไป-กลับ ไม่เกินคนละ 15,000 บาท จะบินตรงหรือต่อเครื่องก็ได้(แต่ต้องไม่บินย้อน) ดูตั๋วผ่านเว็บเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน ช่วงนั้นมีตั๋วเครื่องบิน Low Cost ราคาประมาณ 10,000 บินตรง และมีตั๋วเครื่องบิน Full Service ต่อเครื่อง 1 ครั้ง ราคาประมาณ 12,000 - 13,000 บาท อยู่ 2 - 3 สายการบิน ปรึกษาเพื่อนที่เคยเดินทางกับสายการบินนี้ ยืนยันว่าโอเค เลยตัดสินใจจอง ได้ราคาประมาณ 13,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่ได้ถูกมาก เพราะช่วงที่มีโปรโมรชั่นราคาประมาณ 8,000 - 9,000 บาทก็มี แต่เราไปช่วง Peak ราคานี้ก็โอเคไม่เกินงบ จองแล้วจะได้แพลนอย่างอื่นต่อไปได้

การเดินทาง
ขาไป กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - โตเกียว(นาริตะ) แวะพัก 8 ชั่วโมง 40 นาที ที่โฮจิมินห์ซิตี้

ขากลับ โอซาก้า - กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) แวะพัก 1 ชั่วโมง 45 นาที ที่ฮานอย

สรุปราคารวมค่าธรรมเนียมการจอง Expedia

น้ำหนักสัมภาระในการโหลดลงใต้ท้องเครื่องของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ จะแตกต่างกันตามชั้นของตั๋วที่นั่งบนเครื่องบิน(Economy/Business) เมืองต้นทางและเมืองปลายทางที่เดินทาง และพวก Member ต่างๆ ในกรณีของเราบิน Economy และไม่มี Member ใดๆ ได้กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 1 ใบน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โหลดใต้ท้องเครื่อง 1 ใบ
ขาไป เดินทางจากไทยไปญี่ปุ่น น้ำหนักกระเป๋าคนละไม่เกิน 30 กิโลกรัม
ขากลับ เดินทางจากญี่ปุ่นมาไทย น้ำหนักกระเป๋าคนละไม่เกิน 40 กิโลกรัม (แต่ละใบไม่เกิน 32 กิโลกรัม)
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสัมภาระและน้ำหนักสัมภาระของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์
ตารางแสดงน้ำหนักกระเป๋าเมืองต้นทางเมืองปลายทาง

ภาพจากเว็บไซต์สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์

โหลดกระเป๋าได้คนละใบ แต่เพื่อความคล่องตัว 2 คนกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องใบเดียว

เดินทางไปขึ้นเครื่องทีสุวรรณภูมิ นอกจากกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องแล้ว เราก็มีเป้ที่นำขึ้นบนเครื่องอีก 1 ใบ

เราเช็คอินผ่านเว็บไซต์ล่วงหน้า ไปถึงสุวรรณภูมิก็ไปโหลดกระเป๋าที่เค้าท์เตอร์ แต่ปรากฏว่าต้องไปรอต่อคิวยาวอยู่ดีเพราะต้องไปต่อช่องเดียวกับคนที่มาเช็คอิน >_< รอไปได้สักพักใหญ่ๆ สายการบินจึงเปิดเค้าท์เตอร์ใหม่สำหรับคนที่เช็คอินผ่านเว็บมาแล้ว เลยทำให้เร็วขึ้น น้ำหนักกระเป๋าประมาณ 18 กิโลกรัม พนักงานถามว่าโหลดกระเป๋าใบเดียวหรอ

เมื่อเช็คอินแล้วจะได้ Boarding Pass ของเที่ยวบินทั้งสองเที่ยว กรุงเทพฯ - โฮจิมินห์ - โตเกียว

Gate ขึ้นเครื่องอยู่สุดทางเลย

กรุงเทพฯ - โฮจิมินห์ ที่นั่ง 3 - 3 เบาะสีนี้ทำให้ดูเก่านะ ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้เก่า

ความกว้างของระยะห่างระหว่างที่นั่งไม่ได้กว้างมากแต่ก็ไม่ได้อืดอัดสำหรับคนสูง 170 กว่า

มีจอภาพอยู่ด้านบนเป็นระยะ

ทางเดินตรงกลาง

ออกเดินทาง 19.35 น. ถึงโฮจิมินห์ 21.10 น. รอต่อเครื่องอีก 8 ชั่วโมง 40 นาที คือถ้าไม่ออกไปนอนในโฮจิมินห์ ก็ต้องนอนรอต่อเครื่องในสนามบิน
เครื่องออกตรงเวลา

เครื่องไต่ขึ้นไปได้ระดับ พนักงานก็เสิร์ฟอาหาร

ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงโฮจิมินห์

เนื่องจากไม่อยากนอนในสนามบิน เราเลยจองที่พักใกล้ๆ สนามบินไว้ เพราะอยากพักผ่อนสบายๆ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและออกมาด้านนอกสนามบิน

ที่พัก Saigon Airport Bluesky Serviced Apartment อยู่ติดกับสนามบิน เดินประมาณ 5 นาที ห้องดีงาม

จากห้องพักมองไปที่สนามบิน

ตื่นกันตั้งแต่เช้ามืดเพราะต้องมารอขึ้นเครื่อง

ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง แล้วเข้ามารอขึ้นเครื่องที่ Gate

ที่รอขึ้นเครื่องที่ Gate ถ้าไม่ได้ออกไปนอนข้างนอกสนามบิน บริเวณนี้ก็มีเก้าอี้เยอะพอสมควรที่จะใช้นอนพักระหว่างรอต่อเครื่อง

เครื่องมาจอรออยู่แล้ว

โฮจิมินห์ - นาริตะ

เครื่องที่นั่งแบบ 3 - 3 เหมือนเดิม ไม่มีจอส่วนตัว

หกโมงเช้า แต่แดดแรงมาก

อาหารเช้าบนเครื่อง มีให้เลือก 2 แบบ คือ Japanese style และ Western & Asian style

เราเลือก Japanese style กุ้งผัดกับแครอทและถั่ว และ เครื่องเคียงอื่นๆ ผลไม้ และขนมปัง ชอบขนมปังแข็งๆ อุ่นๆ ป้ายเนย

ซูมๆ รสชาติโอเคเลย

เมนูนี้ของเจ้า Western & Asian style มีเมนูหลัก โยเกิร์ต ผลไม้ ขนมปัง

น่ากินมาก เป็นเนื้อคล้ายๆ เนื้ออบก้อนๆ ลองชิมอร่อยดี

อากาศแจ่มใส

ถึงไม่มีจอส่วนตัว ก็มีหูฟังแจกเพื่อดูหนังบนเจอที่เปิดให้ดู

หลังจากอาหารเช้าสักพักก็แจกของว่างเป็นถั่ว

กรอกใบเข้าเมือง จริงๆ มีเป็นภาษาอังกฤษนะ แต่หมด! เลยต้องกรอกในใบที่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ พนักงานเอาตัวอย่างมาให้ดูว่าต้องกรอกอะไรตรงไหน

ถึงโตเกียว เครื่องเริ่มลดระดับ ฟ้าขาวมาก ฝนตก

ชุ่มฉ่ำ ก่อนลงเครื่องสั่นๆ นะแต่ก็ไม่มาก ถึงจะเป็นเครื่องเล็ก

เครื่องที่เราเดินทางมา

สนามบินนาริตะ

จบการเดินทางของขามาโตเกียว

ขากลับโอซาก้า(คันไซ) - กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ)
เดินทางจากในเมืองโดยรถไฟมาสนามบิน

เราเผื่อเวลาเดินทาง โดยออกจากโรงแรมไม่เกิน 7.00 น. เพราะเครื่องขึ้น 10.30 น.

ขึ้นมาจากสถานีรถไฟ บริเวณนี้จะเป็นเค้าท์เตอร์รถไฟต่างๆ

เราต้องไป Terminal 1

ตามป้ายไปเรื่อยๆ

เวียดนามแอร์ไลน์อยู่โซน South แถว VN

ตามป้าย T1 ไป

ขึ้นไปที่ชั้น 4

ภายในสนามบิน

ภายในสนามบิน

น้ำหนักกระเป๋าขากลับ 23.3 กิโลกรัม พนักงานถามคำถามเดิม กระเป๋าใบเดียวหรอ เน้นเที่ยวไม่ค่อยได้ช้อปอะไรเท่าไหร่

วันที่เราเดินทางขนาดว่าเผื่อเวลาว่าจะมาเดินช้อปปิ้งในสนามบิน แต่ถึงเวลาแทบไม่มีเวลาเลย เนื่องจากคิวแสกนกระเป๋าและผ่าน ตม นานมาก ต่อแถวไป 1 ชั่วโมงกว่า เข้ามาแล้วก็คิดว่าจะเดินต่อไปGate ได้เลย ปรากฏว่าต้องขึ้นรถไฟในสนามบินที่เชื่อมอาคารต่อไปอีก

มาถึง Gate ได้นั่งรอแป๊บนึง ก็เรียกขึ้นเครื่อง

ในช่วงคนเยอะเผื่อเวลาที่จะมาขึ้นเครื่องมากหน่อยก็ดีนะ

เครื่องที่นั่ง 2 - 4 - 2 มีจอภาพส่วนตัว

Linux -_-"

เพิ่งรู้ว่าสนามบินคันไซอยู่กลางทะเล ตอนที่ขึ้นรถไฟมา มองไปทางด้านซ้าย ตรงนั้นคือสนามบิน

อากาศสดใส

เครื่องขึ้นได้ระดับ พนักงานเสิร์ฟอาหารว่าง

จอใช้ได้แล้ว เปิดการ์ตูนดู หนังทุกเรื่องมีซับเวียดนาม มีแค่บางเรื่องและน้อยมากที่มีซับไทย ใช้เปิดซับอังกฤษเอาก็โอเค

มื้อกลางวันเมนูนี้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น คัตสึด้ง ข้าวหน้าไข่หมูทอด

ซุูมๆ มีของหวานเป็นเค้ก เมนูนี้อร่อยดีนะ

อีกเมนู

ข้าวไก่อบ

เมนูนี้จานรองดูดีนะ

บนเครื่องทั้งขาไปและขากลับมีหมอนรองหลังและผ้าห่มให้

ถึงสนามบินฮานอย รอต่อเครื่อง 1 ชั่วโมง 45 นาที แป๊บเดียวก็เรียกขึ้นเครื่อง

เครื่องที่นั่งเป็นแบบ 3 - 3 เหมือนขามา

อาหารเย็น เมนูนี้ปลาผัดกระเจี๊ยบ

ปกติไม่ชอบกินกระเจี๊ยบเลย มันยืดๆ ลื่นๆ กินแต่เนื้อปลากับแครอท ก็โอเคอร่อยดี

อีกเมนูของเจ้า เส้นก๋วยเตี๋ยวกับเนื้อ เรียกอะไรไม่รู้ แต่อร่อยดี

อร่อยทุกเมนู

สรุปการเดินทางกับเวียดนามแอร์ไลน์
การเดินทางราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งขาไปและกลับไม่ดีเลย์ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสายการบินไปญี่ปุ่น ที่ต่อเครื่อง 1 ต่อ สายการบินเป็น Full Service โหลดกระเป๋าฟรี อาหารและอาหารว่างฟรี การบริการโอเคตามมาตรฐาน อาหารอร่อย ถึงแม้ต้องต่อเครื่องก็ไม่ได้ลำบากอะไร ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่นอีก ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือกหนึ่งของเรา

เว็บไซต์สายการบิน https://www.vietnamairlines.com

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS