จากตอนที่แล้ว ชวนเดินเที่ยว งานเกษตรแฟร์ 2553 ม.เกษตรศาสตร์ ไปเดินตั้งแต่งานยังไม่เริ่ม จนวันนี้เป็นวันที่ 6 ของงาน จริงๆ ก็ไปทุกวันแหละนะ เพราะต้องผ่านทุกวันอยู่แล้ว 
เก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกันค่ะ เผื่อว่าใครที่ยังไม่ได้มาเดินจะสนใจมาเิดินเที่ยวกัน งานจะมีจนถึงวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์นี้นะคะ ภาพใน Post นี้เป็นภาพที่ไม่ได้ถ่ายวันเดียวเป็นการนำภาพ ที่ถ่ายไว้ในแต่ละวันมารวมกันค่ะ
งานเกษตรแฟร์ปีนี้ใช้ชื่อว่า นวัตกรรมงานวิจัย นำเกษตรไทยให้รุ่งเรือง ซึ่งถ้าบอกว่ามาเดินงานเกษตรแฟร์ หลายๆ คนก็คงคิดว่า "ก็เหมือนๆ กับเดินตลาดนัดนั่นแหละ ไม่ค่อยมีอะไร" แต่เกษตรแฟร์ไม่ใช่แค่เพียง งานตลาดนัดขายต้นไม้ ขายสัตว์เลี้ยง หรืองานเทศกาลมะขามหวาน =.= ในงานยังมีส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ตามที่ได้โพสไว้ตอนที่แล้ว มีความรู้ นวัตกรรมใหม่ๆ จากการชมนิทรรศการงานวิจัย หรือถ้าจะมาแค่เดินเที่ยวในส่วนของตลาดนัด ต้นไม้ที่เราคุ้นเคยแต่เป็นพันธุ์แปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็น ก็คุ้มสำหรับการมาเดินเที่ยวงานแล้ว
ตอนนี้จะพาเดินตลาดนัด ตอนหน้าเราไปดูในส่วนของนิทรรศการกัน ^_^ ไปชมภาพบรรยากาศกันค่ะ ด้านล่างนี้คือสูจิบัตรของงาน จะมีแผนที่โซนต่างๆ ของร้านค้าและรายละเอียดอื่นๆ ในงาน จะตั้งไว้ตามจุดเริ่มต้นของโซนต่างๆ และทางเข้างาน
หรือถ้าไม่เจาะจงจะไปจุดใดจะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ แนะนำให้เริ่มเดินตั้งแต่ประตู 1 จะอยู่ทางด้านถนนงามวงศ์วาน เข้ามาก็จะเจอร้านสตอเบอรรี่ก่อนเลย 
ของโปรด เดินเข้ามาในงานก็จะเจอในส่วนของ KU Outlet เป็นส่วนของร้านต่างๆ ของหน่วยงานม.เกษตรศาสตร์ เช่น สถาบันอินทรีย์จันทรสถิตย์ ขายผลิตผลจากไร่สุวรรณ นมข้าวโพดข้าวโพดหวาน ผลิตภัณฑ์วนศาสตร์ เลือดจระเข้แห้ง ฯลฯ
จากนั้นก็จะเป็นในส่วนของตลาดนัดต้นไม้ ขายเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย อุปกรณ์ต่างๆ และไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล รถที่เห็นในภาพเป็นรถขนขยะของ มก. วันๆ นึงขยะเยอะมากๆ
บริเวณนี้จะเป็นส่วนของนิทรรศการ สาขาถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมอาชีพ จะมีอบรมเดี่ยวกับการทำขนม การเพ้นท์เล็บ ฯลฯ
ไม้ผล ร้านที่ขายไม้ผลก็จะโชว์ความใหญ่ ความดก ของผลไม้ ที่ได้จากต้นพันธ์ที่นำมาขาย หรือไม่ก็เป็นพันธุ์แปลก เช่นที่เห็นในภาพก็จะเป็นกล้วยด่างฟอริด้า ด่างทั้งใบทั้งผล
เสื้อ Long Live Our King ตัวละ 350 บาท ลายบนเสื้อจะเป็นผลงานของผู้มีชื่อเสียงเป็นคนออกแบบ เช่นลายบนสุดซ้ายที่เป็นรูปหัวใจ คุณเคน ธีรเดชเป็นคนออกแบบ
ไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ เวลาเขาเอามาขายมันดูสวยดี แต่เวลาเราซื้อมาปลูกทำไมมันไม่สวยแบบนั้นแล้วก็ไม่รู้ -_-a ด้านล่างซ้ายสุดเป็นต้นแก้วแคระ แปลกดี
แคคตัส
มะเขือ ข้าวโพด พริก พันธุ์แปลกที่ไม่ได้เห็นได้ทั่วไป
จากนั้นก็จะเข้ามาในส่วนของร้านค้านิสิต มีการออกร้านขายของและทำกิจกรรมเพื่อหารายได้ มาแล้วอย่าลืมชิมไอติมเห็ด ปีนึงจะได้ชิมสักครั้ง
เดินมาจนถึงสหกรณ์จะเป็นทางแยกด้านขวา เป็นร้านค้าของนิสิตไปจนสุด และมีเวทีกลางอยู่บริเวณนี้ ด้านขวามือหน้าอาคารเทพสถิตย์จะเป็นร้านประมงซีฟู๊ดร้านอาหารของนิสิตคณะประมง ด้านตรงข้าม IT Square บริเวณสนามบาสก็เป็นร้านอาหารครัวค่าย
วันที่ไปเดินกะไปหาอะไรทานมื้อกลางวันกัน เดินไปเดินมาชมนิทรรศการสัตว์พิเศษออกมาก็สี่โมง รอร้านประมงซีฟู๊ดเปิดประมาณ 16.30 น.(จริงๆ ป้ายหน้าร้านเขียนไว้ 16.00 น.) นั่งรอสักพัก ก็เข้าไปในร้าน เข้าไปเป็นโต๊ะแรกๆ เลย ดูจากภาพจะรู้ว่าบริเวณโซนหน้าเรายังไม่มีใครนั่ง ปีที่แล้วก็มาทาน รีวิวไว้ที่ พากิน ประมงซีฟู๊ด งานเกษตรแฟร์ ครั้งนี้สั่งอาหารมา 5 อย่าง ปลาหมึกย่าง หอยแครงเผา ต้มยำกุ้ง กุ้งระเบิด ข้าวผัดปู จริงๆ แล้วปริมาณมากกว่าที่เห็นในภาพนะ ตอนที่ถ่ายทานไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะหอยแครงเผาให้เยอะมากๆ ทานคนเดียว 
เพราะคนที่ไปด้วยไม่ทานหอย ปรากฏว่ามื้อนี้เลยกลายเป็นทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็น เพราะอิ่มมากๆ ทีแรกกะว่าราคาสักประมาณ 500 แต่พอเช็คบิลก็แค่ 300 กว่าบาท คงเป็นเพราะไม่ได้กินพวกกุ้งเผา
มาเดินต่อกัน ย้อนออกมาทางเดิมผ่านประตู 2 ด้านซ้านมีต้นไม้ขาย ด้านขวาก็จะเป็นพวกสัตว์เลี้ยง วันเสาร์คนเยอะ
ส่วนขายสัตว์เลี้ยง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสุนัข แมว มีสัตว์อื่นๆ บ้างประปราย เช่น กระต่าย หนู
ทางเข้าสนามอินทรีย์ เป็นร้านสบายปาก ของนิสิตเทคนิคการสัตวแพทย์
ด้านนี้ก็ยังเป็นร้านขายต้นไม้อยู่ นอกจากไม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ ก็ยังมีไม้น้ำด้วย
ด้านหน้าสนามอินทรีย์มีขายต้นไม้ทั้งหมด
เลี้ยวขวามาด้านข้าง ทางไปบาร์ใหม่ก็เป็นร้านต้นไม้เหมือนกัน
ข้ามสี่แยกมาก็จะเข้าในส่วนของผลผลิตทางการเกษตร รวมพวกแคปหมู ไส้อั่ว หมูย่างเมืองตรังมาเลิศมีหลายร้านมากๆ ข้ามหลาม ฯลฯ หน้ายิมใหม่เลี้ยวมาทางสนามฮอกกี้เป็นมะขามหวาน ส่วนอีกเส้นใกล้ๆ กันก็จะเป็นกระเทียม ใกล้วาเลนไทน์แล้วคนขายกระเทียมก็อินเทรนด์ จัดกระเทียมเป็นรูปหัวใจ
ถัดจากนั้นบริเวณแยกสนามฮอกกี้ ทางไปบาร์ใหม่บริเวณสวนสุขภาพ จะเป็นร้านของนิสิตสัตวแพทย์ จะเห็นลูกวัวหันหรือที่เรียกในเมนูว่าโรบินฮู้ด ย่างกันให้เห็นจะจะ
มีเมนูแปลกๆ หลายอย่าง เนื้อกระต่ายก็มี แต่ไม่เคยไปลองทานร้านนี้สักทีไม่ค่อยแนวเท่าไหร่
จากนั้นก็เป็นส่วนของตลาดติดแอร์ บริเวณหน้าโรงเรียนสาธิตและก็มีห้างร้านต่างๆ มาเปิดบูธเช่น Toyotabuzz เครือสหพัฒน์ Mc ยีนส์ อยู่ตรงสีแยกคณะศึกษาศาสตร์
ที่คณะศึกษาศาสตร์ก็มีบริการนวดด้วย
จากนั้นก็จะเข้าสู่ส่วนของสินค้าอุตสาหกรรมพวกเครื่องจักรทางการเกษตรต่างๆ อยู่บริเวณหน้า ศร4 หรือหน้าคณะศึกษาศาสตร์
สินค้าอุปโภคบริโภค อยู่ตรงแยกคณะสังคมเรื่อยไปข้างคณะศึกษาศาสตร์ ตรงไปหน้าคณะอก ก็เป็นอาหารสุนัข แมว ร้านหนังสือต่างๆ เครื่องเขียน ชุดชั้นใน และมีของกินประปราย ร้านตรงมุมเด็ดสุด มีปลาเค็มเป็นตัวๆ วางขายด้วย
เดินๆ ไปไม่ต้องกลัวหิวเพราะมีศูนย์อาหารกระจายตามจุดต่างๆ ตรงนี้เป็นจุดที่ 6 จุดสุดท้าย
มาเดินตรงด้านข้างคณะศึกษาศาสตร์กันบ้าง ตรงนี้ก็จะเป็นพวกเสื้อผ้า ของกิน หมูย่าง สตอเบอรี่ ร้านตรงนี้ที่ซื้อบ่อยคือร้าน เจ๊อ้วนอ่างทองขายพวกหมู+ไก่ อบน้ำผึ้ง ด้านขวามือจะเป็นร้านของนิสิตคณะอุตสาหกรรมเกษตร(อก) ชื่อร้านแฮพอะซีท
เดินมาจนสุดข้างศึกษาศาสตร์ก็เลี้ยวขวามาที่บริเวณลานจอดรถของโรงอาหารกลาง 2 หรือโรงอาหารคณะอก จะเป็นผลิตภัณฑ์ของเกษตรกร สินค้า OTOP ระดับ 5 ดาวจากกลุ่มสมาชิกของ ธ.ก.ส. จะมีพวกของกินของใช้ต่างๆ ไก่กะทิ โรตี ขนมต่างๆ ร้านส้มตำ ฯลฯ ตรงนี้ก็เป็นจุดสิ้นสุดของตลาดนัด ถ้าเดินดูของจริงๆ ก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถึงจะครบรอบ
ของที่ซื้อเกือบทุกครั้งก็นี่เลย..ข้าวโพดหวานจากไร่สุวรรณ ปากช่อง ชอบมาก ขายอยู่บริเวณประตู 1 แต่ขายหมดเร็วมากนะ ต้องมาซื้อแต่เช้า บางวันประมาณบ่ายสองกว่าๆ หมดแล้ว
ตอนหน้าจะพาไปเดินชมนิทรรศการกันนะคะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ
