พาเที่ยวญี่ปุ่น2 : วนอุทยานแห่งชาติอาโกเน่ ล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ

จากตอนที่แล้ว พาเที่ยวญี่ปุ่น : วัดอาซากุสะ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว

หลังจากที่ไหว้พระที่วัดอาซากุสะและเดินช้อปปิ้งที่ถนนนาคามิเซะแล้ว เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปวนอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านแถวๆ ริมทะเลสาปอาชิ จากนั้นจะซื้อตั๋วลงเรือโจรสลัด ล่องเรือชมความงามของทะเลสาปอาชิ และ ทิวเขาของวนอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ กันค่ะ

ทะเลสาบอาชิ หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า อาชิโนโกะ ก่อตัวขึ้นจากลาวาของภูเขาฮาโกเน่ หลังจากที่มีการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว จากทะเลสาบอาชิสามารถที่จะมองเห็นวิวของภูเขาไฟฟูจิได้ แต่ต้องเป็นวันที่มีสภาพอากาศดี ไม่มีเมฆหมอก เราสามารถล่องเรือชมความงามของทะเลสาบได้ ซึ่งที่นี่มีเรือที่ให้บริการอยู่ 2 บริษัท ตามมาเที่ยวกันเลยค่ะ ^_^

จากตัวเมืองโตเกียวก็ออกมานอกเมือง ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวถึงอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ประมาณ 2.30 ชั่วโมง ออกมานอกเมืองก็เริ่มเห็นที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้าน ในโตเกียวจะมีแต่ตึกสูงๆ ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด หรือ อพาร์ทเม้นต์ ระหว่างทางมีลอดอุโมงค์เป็นช่วงช่วง ซึ่งไกด์บอกว่าเป็นอุโมงค์ที่มาจากการเจาะภูเขา วันนั้นรถติดพอสมควร คงเนื่องจากเพราะเป็นวันหยุดของญี่ปุ่น

ระหว่างทางสองข้างจะเป็นทิวเขาเป็นแนวตลอด จะมีบางช่วงที่เป็นที่ราบและที่อยู่อาศัย ภูเขาที่ญี่ปุ่นเขียวมาก ถ้ามาช่วง Peak ของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แถบนี้คงสวยมากๆ

 วันนี้อากาศแจ่มใส เป็นโชคดีมากที่ไปครั้งนี้ไม่เจอฝนระหว่างไปเที่ยวเลย ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงที่มีฝนตก ซึ่งเป็นรอยต่อที่จะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว

ก่อนถึงรถติดอยู่นานพอสมควร เราไปทานอาหารกลางวันก่อนแล้วจะกลับมาขึ้นเรือที่นี่

ที่จอดรถบัส

แถวๆ ริมทะเลสาปก็จะมีร้านอาหารตั้งอยู่มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเมนูปลา ซึ่งเป็นปลาที่มาจากทะเลสาป ว่ากันว่าปลาที่ได้มาจากทะเลสาบนี้อร่อยมาก เพราะเติบโตมาในน้ำที่ดี ใส สะอาด ใครที่มาแถวนี้ต้องไม่พลาดที่จะรับประทานเมนูปลา

เท่าที่สังเกตนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่มาเที่ยว มักจะจูงสุนัขมาเดินเล่นด้วย เห็นเยอะมาก น่ารักดี ^_^

บริเวณนี้สวยดี

ต้นไม้ที่ขึ้นบนผนังตึก ถ้าขึ้นเยอะๆ คงดูคลาสสิคดี

เรามุ่งหน้าไปที่ร้านอาหาร ด้านซ้ายมือของเราก็จะเป็นทะเลสาปอาชิ จะเห็นว่ามีคนมาพายเรือเล่นและตกปลากัน เสาแดงๆ ที่เห็นคือเสาโทริอิ เป็นประตูเข้าสู่ศาลเจ้า เสาตั้งอยู่ในน้ำ

เสาโทริอิ ขนาดใหญ่อีกที่หนึ่ง อยู่ใกล้ๆ กับร้านที่เรารับประทานอาหารกลางวัน ก่อนเข้าศาลเจ้าจะมีเสาแบบนี้ตั้งอยู่ เหมือนเป็นประตูให้เราเดินผ่านเข้าไป ตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น เชื่อว่าเป็นประตูไปสู่สรวงสวรรค์ ลักษณะเสาเท่าที่เห็นก็จะเป็นเสาสองข้าง และมีไม้พาดไว้ด้านบน ซึ่งโทริอิ แปลเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า ที่สำหรับนก ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่านกคือผู้สื่อสารกับเหล่าเทพเจ้า

เมนูกลางวันวันนี้คือ เทมปุระ ที่ให้เราได้ทอดเทมปุระเองด้วย ^_^ ถ้าพูดถึงเทมปุระ เราก็คิดว่าเป็นอาหารญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วเป็นลักษณะการกินที่เอามาจากชาติโปรตุเกส มาจากการทอดปลาชุบเกล็ดขนมปัง ซึ่งเข้ามาในประเทศญี่ผุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะ โน่น.. แต่ก็มีการมาเปลี่ยนวิธีการ จนเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น

เทมปุระวันนี้ก็มี ปลาเทมปุระ เห็ดหอมเทมปุระ ฟักทองเท็มปุระ มะเขือยาวม่วงเทมปุระ

เรามาดูอุปกรณ์บนโต๊ะกัน บนโต๊ะก็จะมีอุปกรณ์และของกินอย่างที่เห็นในภาพ มีข้าวญี่ปุ่น แก้ว 2 ใบเอาไว้ใส่น้ำเปล่ากับชาเขียวร้อน ผักดอง สลัดผักกะหล่ำปลี มิโซะซุป น้ำองุ่น ถ้ายงาพร้อมที่บด กระจากที่ใส่กระดาษซับมันเอาไว้ และเครื่องปรุงสี่อย่าง

มาดูเครื่องปรุง 4 อย่างกัน ในกาคือซอสที่เอาไปผสมกับงาบดเพื่อเป็นน้ำจิ้มเทมปุระ ขวดๆ คือน้ำสลัดวาซาบิที่เอาไว้ราดกะหล่ำปลี ส่วนอีกสองขวดที่เหลือคือผงโรยข้าว มีรสวาซาบิกับอีกรสไม่รู้รสอะไร แต่อร่อยทั้งสองรสเลย

เอาผงโรยข้าวมาโรยเพื่อเพิ่มรสชาติ เราชอบรสวาซาบิ อร่อยดี

จากนั้นก็บดงาให้ละเอียด เสร็จแล้วก็เอาซอสในกาใส่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน สีเหลืองๆ ที่เห็นคือผักดอง รู้สึกจะเป็นหัวไชเท้า อร่อยดี ส่วนด้านล่างก็เป็นสลัด

หม้อที่เอาไว้ทอด ไส่น้ำมันไว้เยอะทีเดียว

หน้าตาก่อนทอด ปลาเป็นปลาตัวเล็กๆ อร่อยมากทานได้ทั้งตัว คล้ายๆ กับปลาไข่ เทมปุระที่เป็นผัก เราว่าฟักทองอร่อยที่สุด ฟักทองญี่ปุ่นอร่อยกว่าฟักทองบ้านเรา

ทอดให้พอเหลืองๆ ก็คีบขึ้นมา

วางไว้บนกระดาษซับมัน

ทิ้งไว้สักพัก ให้หายร้อน ก็คีบมาจิ้มน้ำจิ้ม อึ้ม..

ทานข้าวเสร็จก็เดินเลียบริมทะเลสาป เพื่อไปขึ้นเรือ ลมพัดเย็นๆ แต่แดดร้อน >_<

มีคนเข้าคิวซื้อตั๋วกันเยอะพอสมควร

ซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋ว

แถวนั้นก็มีโอศครีม และขนมของญี่ปุ่นขาย

เรือมาแล้ว เป็นเรือที่มีลักษณะคล้ายเรือโจรสลัด

บนสะพานจะแบ่งออกเป็นสองด้าน เพื่อนักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับเรือลง และอีกฝั่งสำหรับเราที่กำลังจะขึ้นเรือ คนเยอะพอสมควร

โทริอิกลางน้ำ

เมื่อขึ้นเรือ ผู้คนก็จะจับจองพื้นที่ด้านข้างของเรือเพื่อยืนชมวิว เรือจะแล่นไปใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็จะถึงท่าเรืออีกฝั่ง รถที่เรามาด้วยจะไปรอรับเราอยู่ที่นั่น


คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่

ลมพัดเย็นสบาย ก็ยืนชมวิวถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรมาก

วิวทะเลสาปที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขา

เราเลือกยืนด้านนี้เพราะแดดร้อน

สิ่งก่อสร้างที่อยู่บนเขา สวยดี

อยู่บนเรือก็ไม่มีกิจกรรมอะไรทำ นอกจากยืนชมวิวไปเรื่อยๆ

บนเรือก็จะมีคนที่แต่งตัวเป็นโจรสลัดเดินอยู่รอบๆ เรือ เผื่อว่าใครอยากถ่ายรูป ไม่รู้ว่าต้องจ่ายเงินหรือเปล่า แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา

ชมวิวไปเรื่อยๆ

เรือที่นำนักท่องเที่ยวอีกฝั่งหนึ่งโดยสารมา ลำโน้นสีแดงสวยดี

ชมวิวไปเรื่อยๆ

ที่เห็นด้านหน้าคือท่าเรือ

โทริอิกลางน้ำอันเล็กๆ

ใกล้ถึงท่าเรือแล้ว จุดหมายต่อไปของเราคือหุบเขาโอวาคุดานิ หรือ หุบเขานรก ซึ่งเมื่อขึ้นจากท่าเรือนี้แล้ว ที่นี่จะมีกระเช้าให้ขึ้นไปบนหุบเขาโอวาคุดานิ โดยเสียค่ากระเช้า 1300 เยนหรือ 1100 เยนจำไม่ได้ รถของเราจะมาจอดรออยู่ที่นี่แล้ว ถ้าใครไม่ขึ้นกระเช้าก็ขึ้นรถไปได้ แต่จะช้ากว่าขึ้นกระเช้า

บริเวณนี้มีคนมาตกปลาและพายเรือเล่นจำนวนมาก


คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่

ตอนหน้าจะพาขึ้นไปบนหุบเขาโอวาคุดานิ หรือ หุบเขานรก เพื่อไปชิมไข่ดำและถ่ายรูปกับคิดตี้ไข่ดำกันค่ะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^

3 comments on "พาเที่ยวญี่ปุ่น2 : วนอุทยานแห่งชาติอาโกเน่ ล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ"

kong's picture
kong (visitor) said on Sun, 12/05/2010 - 14:43:

ฟ้าใสมาก >_<

อยากกินเทมปุระ~

karn's picture
karn (visitor) said on Mon, 12/06/2010 - 13:27:

สีสวยดีจริง... ใช้กล้องรุ่นไหนเนี่ย

bombik's picture
bombik said on Mon, 12/06/2010 - 13:43:

โพสนี้ใช้สองกล้อง ภาพบนๆ เป็น กล้องเรา Sony CyberShot TX5 ภาพล่างๆ แถวทะเลสาปจะเป็นกล้องก้อง Canon PowerShot A710 IS ^_^

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS