จากตอนที่แล้ว พาเที่ยวญี่ปุ่น2 : วนอุทยานแห่งชาติอาโกเน่ ล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ
หลังจากล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาปอาชิแล้ว เราจะขึ้นไปชิมไข่ดำบนหุบเขาโอวาคุดานิกันค่ะ ซึ่งการขึ้นไปจากจุดที่เราขึ้นเรือ จะมีกระเช้าให้บริการ โดยเสียค่าบริการประมาณพันกว่าเยน(จำไม่ได้ว่า 1100 เยนหรือ 1300 เยน) คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 400 บาท
หุบเขาโอวาคุดานิ หรือ หุบเขานรก เป็นหุบเขาที่อยู่ในวนอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อน บ่อน้ำร้อน เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 พันปีก่อน ในปัจจุบันหุบเขานี้ ก็ยังเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ พร้อมที่จะระเบิดอีกทุกเมื่อ แต่ว่าในทุกๆ วันจะมีการสังเกตและวัดความสั่นสะเทือนของภูเขาไฟตลอดเวลา หากมีสิ่งผิดปกติ ในวันนั้นก็จะมีการประกาศให้ทราบและไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไป ด้านบนของหุบเขาโอวาคุดานิจะมีควันสีขาวๆ พวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา เป็นควันที่มาจากความร้อนใต้พื้นดินโดยมีแก๊สกำมะถันปนอยู่ ทำให้มีกลิ่นของกำมะถันอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งมีกลิ่นฉุน จึงเรียกว่าหุบเขานี้ว่าหุบเขานรก ด้านบนจะมีบ่อน้ำร้อนแร่กำมะถัน ที่มีความร้อนสูงถึง 80 องศาเซลเซียส สามารถต้มไข่ให้สุกได้ ซึ่งน้ำร้อนที่มีแร่กำมะถันเข้มข้นปะปนอยู่ ทำให้เมื่อต้มไข่ออกมา ทำให้ไข่กลายเป็นสีดำ จึงเป็นที่มาของชื่อไข่ดำ เชื่อกันว่าถ้าได้กินไข่ดำ 1 ฟองจะมีอายุยืนขึ้น 7 ปี และด้านบนยังสามารถมองเห็นวิวของฟูจิซังได้ชัดเจน ในวันที่สภาพอากาศดีดี นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย ยังสามารถที่จะมาปีนเขาที่นี่ได้ จากบริเวณสถานีรถกระเช้า จะมีทางซึ่งสามารถที่จะปีนต่อไปยังภูเขาคามิยามะ(Kamiyama) และปีนต่อไปยังภูเขาโคมางาทาเกะ(Komagatake) ตามไปเที่ยวที่หุบเขาโอวาคุดานิกันเลยค่ะ
เราแยกกันเป็นสองกลุ่มค่ะ กลุ่มนึงขึ้นกระเช้าอีกกลุ่มนึงขึ้นรถ ซึ่งเป็นรถของทัวร์เราเองที่มาจอดรออยู่ ซึ่งการขึ้นรถกับการนั่งกระเช้าไกด์บอกว่ารถจะช้ากว่านิดหน่อย เวลาไม่ต่างกันมาก แต่เนื่องจากวันนั้นรถติดมากๆ ช่วงขึ้นไปบนหุบเขา ทำให้ขึ้นไปช้าเป็นชั่วโมงๆ >_< เสียเวลามาก
รถจะขับขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ไม่น่ากลัวค่ะ
สองข้างทางก็จะมีแต่ต้นไม้ ส่วนใหญ่จะเป็นต้นสน
รถติดมากๆ กว่าจะถึงประมาณสองชั่วโมงได้ >_<
เห็นกระเช้าผ่านไปเรื่อยๆ นึกเสียดายที่ไม่ได้ขึ้นกระเช้า
ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงด้านบน บริเวณนี้เป็นสถานีรถกระเช้าทั้งสองสาย
รถกระเช้าจะเชื่อมต่อ และข้ามยอดเขามาเป็นช่วงๆ
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
น่าหวาดเสียวเหมือนกันนะเนี่ย แต่วิวสวยดี ดูวิวได้รอบทิศทาง
ซูมเข้าไปใกล้ๆ หน่อย
เดินลงมาจากรถ ก็ได้กลิ่นฉุนๆ ของกำมะถัน แต่ก็ไม่ฉุนมาก แป๊บเดียวก็ชิน
กว่าจะขึ้นมาถึงด้านบน ก็บ่ายคล้อยเกือบเย็น =.= อากาศข้างบนเย็นสบายดี ยิ่งสูงก็ยิ่งอากาศเย็น
ทีแรกก็สงสัยว่าคิดตี้ไข่ดำคืออะไร นึกว่าเอาไข่มาเพ้นท์เป็นรูปคิตตี้ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ น่ารักดี มีคนมาถ่ายรูปอยู่เรื่อยๆ ตรงนี้จะเป็นร้านค้าผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากกำมะถัน
ด้านบนนี้จะมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิด้วย
เราจะเดินขึ้นไปด้านบนโน้น เพื่อขึ้นไปชมบ่อน้ำแร่กำมะถันและชิมไข่ดำร้อนๆ ควันที่พวยพุ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นควันจากความร้อนใต้ดินและมีก๊าชกำมะถันปนอยู่
ที่ท่องเที่ยวทุกที่มีร้านไอศครีม
ด้านบนก็สามารถขึ้นไปชมวิวและถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟฟูจิได้
ร้านค้าบริเวณทางเข้า
ฟูจิอีกสักภาพ โชคดีที่ยังมองเห็นจากตรงนี้ บางวันจะมองไม่เห็น ถ้ามาช่วงที่สภาพอากาศดีดี และฟ้าใสๆ ฟูจิมีหิมะปกคลุม คงสวยมาก
คิดตี้อีกตัวหนึ่ง
ทางเข้า เราต้องเดินเข้าไปด้านนี้และขึ้นเขาอีกนิดหน่อย เดินเรื่อยๆ ไม่ชัน แต่ไกลเหมือนกัน
มีน้ำร้อนเหมือนลำธารเล็กๆ
เดินเหนื่อยเหมือนกันนะ โชคดีที่อากาศเย็น
เจอคนไทยที่มาเที่ยวเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมีแต่คนเอเชีย มีฝรั่งน้อยมาก
มองย้อนกลับไปที่สถานีรถกระเช้า เดินมาไกลพอสมควร
หุบเขาด้านหน้ามีหมอกจางๆ ด้านซ้ายมือจะเห็นกระเช้าที่ขึ้นมาอีกด้านหนึ่ง
บ่อน้ำร้อนแร่กำมะถัน เขาเอาไข่ลงไปต้มบริเวณนี้ ไม่อนุญาตให้เราเข้าไปต้มเอง ต้มเสร็จเขาจะเอาออกมาขาย และส่งไปขายด้านล่างด้วย วิธีการส่งไข่ไปขายด้านล่างก็เท่มาก เป็นเหมือนกระเช้าเล็กๆ และชักรอกลงไป เหมือนรถกระเช้า 
บ่อน้ำแร่กำมะถัน น้ำจะออกเป็นสีขาวๆ
มีไอร้อนและก๊าชกำมะถันพุ่งขึ้นมาตลอดเวลา
นักท่องเที่ยวก็มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก บริเวณด้านข้างก็จะเป็นร้านที่ขายไข่ดำ
นักท่องเที่ยวที่ซื้อไข่ดำ ก็มายืนทานกันบริเวณนี้ ส่วนใครที่เดินขึ้นมาไม่ไหว ก็ซื้อไข่ดำทานกัน ที่ร้านก่อนทางเข้าที่อยู่ด้านล่างได้
ไข่ดำจะขายเป็นแพค ถุงละ 500 เยน มี 5 ฟอง >_< โอ้ว..เป็นไข่ต้มที่แพงมาก คิดเป็นเงินไทยก็ฟองละประมาณ 30 บาท มีความเชื่อว่าถ้าทานไข่ดำ 1 ฟอง จะอายุยืนไปอีก 7 ปี โอเค 30 บาทก็คุ้ม เราทานไปสองลูกครึ่ง ถ้าใครที่ซื้อมากกว่า 1 ถุง เขาก็จะใส่ถุงกระดาษให้ เปลือกไข่ต้มเป็นสีดำสนิท เนื่องจากต้มในน้ำร้อนที่มีแร่กำมะถัน กำมะถันจะทำปฏิกิริยากับหินปูนที่เปลือกไข่ ทำให้เปลือกไข่กลายเป็นสีดำ แต่ด้านในก็ยังขาวเหมือนไข่ต้มปกติ รสชาติก็เหมือนกับทานไข่ต้มนี่แหละ ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากเปลือกมันเป็นสีดำ ในถุงเขาจะมีเกลือแถมมาให้ 1 ซอง แต่ถ้ามีซอสแม็คกี้จะดีมาก 
ยอดเขา
วิวของรถกระเช้าอีกด้าน
ฟูจิซัง ถูกเมฆบัง
ตอนนั้นประมาณห้าโมงกว่าๆ แล้ว ต้องรีบเดินลงไป
ควันพุ่งตลอดเวลา ให้เรารู้ว่า ฉันยังไม่หลับนะ และพร้อมจะระเบิดอีก
วิวพาโนรามาสักรูป ชอบพื้นที่ด้านล่างหุบเขาบริเวณนี้ที่เป็นสีเขียว สวยดี
ตะวันค่อยๆ ลดต่ำลง เราเดินทางลงมาจากหุบเขาโอวาคุดานิ มุ่งหน้าไปทะเลสาปคาวาคูจิโกะ ทะเลสาป 1 ใน 5 ที่เป็นทะเลสาปรอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ คืนนี้เราจะพักกันที่นั่นค่ะ
ลงมาด้านล่างแล้ว เหมือนตรงนี้จะเป็นท่าเรืออีกที่หนึ่ง
ผ่านบริเวณนี้สวยมาก เป็นทุ่งดอกหญ้า เห็นมีนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวกัน มีป้ายประชาสัมพันธ์เชิญชวนเที่ยวด้วย เหมือนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หนึ่ง ที่เป็นแนวตรงกลางจะเป็นทางเดินของนักท่องเที่ยว ทุ่งกว้างใหญ่มาก
สวยดี ตอนนี้เย็นแล้ว ถ้ากลางวันคงสวยกว่านี้
ขึ้นเขาและลงเขา เริ่มมืดแล้ว ยังมองเห็นวิวของภูเขาไฟฟูจิอยู่
ร้านค้าแถวทางผ่าน มี 7-Eleven ด้วยนะ แต่ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงแบบบ้านเรา ส่วนที่เปิด 24 ชั่วโมงจะเป็นอีกร้านหนึ่งที่ชื่อ Lawson
จบแล้วค่ะสำหรับตอนนี้ ตอนหน้าจะมารีวิวที่พัก และชมวิวของทะเลสาปคาวาคูจิโกะกันค่ะ ที่พักของเราอยู่ริมทะเลสาปและมองเห็นภูเขาไฟฟูจิพอดีเลยค่ะ ^_^
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^ หรือถ้าต้องการติดตาม Blog ของ bombik ทาง Facebook ก็กด Like ได้เลยนะคะ 
