พาเที่ยว ปาย ห้วยน้ำดัง ปางอุ๋ง เสน่ห์ท่ามกลางขุนเขา (1)

จากตอนที่แล้ว  วางแผนเที่ยวปายแบบไม่มีรถ : การเดินทาง ที่พัก ที่เที่ยว

Post นี้ดองไว้นานมาก จะเริ่มรีวิว บันทึกการเดินทางวันแรกที่ไปเที่ยวปายค่ะ ปาย..อาจจะเป็นจุดหมายของหลายๆ คนที่อยากไปเที่ยว เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ท่ามกลางหุบเขาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน กว่าจะเดินทางมาถึงปาย ต้องเดินทางผ่านโค้งหลายร้อยโค้ง ขึ้นลงเขาหลายลูก แต่ก็คุ้มกับการเดินทางอันน่าเวียนหัว เราไปช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา(2554) การเที่ยววันแรกของเรา จะเน้นเที่ยวอยู่ในเมืองปาย ได้แก่ วัดน้ำฮู หมู่บ้านสันติชล ร้านกาแฟ Coffee in love น้ำตกหมอแปง การเดินทางเที่ยวในปาย เราใช้มอร์เตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะ

มาเริ่มที่การเดินทางกันก่อนนะคะ เราเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ โดยใช้บริการรถทัวร์ของนครชัยแอร์เที่ยว 22.20 น. เป็นรถ First Class ราคา 806 บาท ซึ่งบริษัทนี้ตั๋วรถควรจองล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นจะเต็ม การจองก็ง่ายๆ โทรไปที่ Call Center ระบุจุดหมายปลายทาง วันเวลาที่ต้องการเดินทาง ทางพนักงานจะให้รหัสสำหรับชำระเงินมา ซึ่งเราเลือกชำระเงินที่เคาท์เตอร์เซอร์วิสใน 7-Eleven เพราะสะดวกดี วันเดินทางก็ไปก่อนเวลาสักเล็กน้อย พยายามอย่ามาสายเพราะรถออกตรงเวลามาก ในนตั๋วจะระบุประตูทางออกที่เราจะไปขึ้นรถ

ภายในรถ First Class ที่นั่งจะมีทั้งหมด 7 แถว 21 ที่นั่ง เวลาเลือกที่นั่งพยายามอย่านั่งหลังๆ เพราะจะมีคนเดินผ่านมาเข้าห้องน้ำบ่อย ทำให้หลับๆ ตื่นๆ ตลอด

เบาะหรูกว่าที่นั่งบนเครื่องบินชั้นประหยัดซะอีก ชอบเบาะตรงที่ เวลาเอนนอนจะไม่ไปรบกวนคนอื่นที่อยู่ด้านหลัง เพราะมันจะเลื่อนลงอยู่ในช่องของเรา เบาะนอนแล้วตัวจะไหลลงไปด้านล่างนิดหน่อย มีระบบนวดด้วย แต่มันแค่สั่นๆ สะเทือนไม่ได้นวด =.=

มีระบบความบันเทิง มีหน้าจอส่วนตัวและหูฟังไว้บริการ(บางคันจะเดินแจก บางคันต้องขอ) เอาหูฟังไปเองก็ดีนะถ้าต้องการใช้งานส่วนตรงนี้

ความบันเทิงก็มีทั้ง หนัง เพลง และเกมให้เล่น ตามเมนูด้านล่างเลยค่ะ หรือถ้าอยากดูวิวหน้ารถเวลารถวิ่งก็คลิกที่ชมวิวด้านหน้ารถได้ ก็จะเห็นภาพหน้ารถ แต่เราไม่ค่อยได้ใช้ เดินทางกลางคืนดูแล้วแสบตาและแสงรบกวนคนอื่น

รถจะออกจากนครชัยแอร์แวะไปรับคนที่หมอชิต ก่อนออกเดินทางกัปตัน เอ้ย! พนักงานขับรถก็จะแนะนำตัว และกล่าวคำสัญญาว่าจะนำผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย จากนั้น Bus Hostage ก็จะแนะนำตัวและแจกของว่าง 1 กล่อง ในนั้นจะมีน้ำผลไม้ 1 กล่อง แซนวิส 2 อัน แตงโมและมะเขือเทศลูกเล็กๆ  1 ผล และเสิร์ฟโค้กกระป๋องและของขบเคี้ยว ผ้าเย็นตอนเช้า เดินทางได้อย่างสบายใจกว่าไปรถของที่อื่น มาถึงเชียงใหม่ประมาณ 7.50 น.

เดินออกมาจากนครชัยแอร์ ฝั่งตรงข้าม ก็จะเป็นท่ารถที่จะไปปาย

จองรถไว้รอบ 9.00 น. ก็เลยหาข้าวเช้าง่ายๆ ทานแถวนั้น

รถที่ไปปายจะเป็นรถของบริษัทเปรมประชา ให้บริการเชียงใหม่-ปาย มีทั้งรถเมล์ธรรมดา รถเมล์ปรับอากาศ และรถตู้ ข้อแตกต่างคือ ราคา และ ความรวดเร็วในการเดินทาง รถเมล์ธรรมดากับรถเมล์ปรับอากาศ จะถึงช้ากว่ารถตู้ เพราะขึ้นเขาลงเขาไม่แรงพอ ส่วนรถตู้วิ่งฉิวๆ ใช้เวลาน้อยกว่า แต่ถ้าเมารถ นั่งรถตู้ก็จะเมามากกว่า เรากลัวว่ารถจะเต็มเลยจองตั๋วล่วงหน้ามาจากเว็บไซต์ thairoute.com จริงๆ ไม่ต้องจองก็ได้ เพราะรถก็มีออกเรื่อยๆ โดยเฉพาะรถตู้

โฉมหน้ารถที่เราจะโดยสารไปปาย โอ้ว..ไหวไหมเนี่ย >_< ราคาค่าโดยสาร 72 บาท นั่งกันรากงอกเลยทีเดียว รถตู้แซงไปคันแล้วคันเล่า รถเราก็ยังไปไม่ถึงไหน จริงๆ จะจองมินิบัส แต่รอบที่เราจองไม่มี รถตู้ก็ไม่อยากขึ้น เลยเอาก็เอา ไปรถพัดลมก็ได้

ทางคดเคี้ยวหลายโค้ง ขึ้นลงเขา รถเราก็ไปอย่างช้าๆ ไม่รีบ แต่เราว่าเหมาะสำหรับคนเมารถนะ ลมเย็นๆ ชิวๆ ชมวิวขุนเขาสองข้างทางเพลินๆ

เวลาผ่านไปประมาณเกือบสองชั่วโมง รถมาแวะพักที่จุดครึ่งทางปายให้เข้าห้องน้ำ

ลงไปเข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสาย ประมาณ 10 นาที

ที่จุดพักรถมีสตรอเบอรี่ขายด้วย ขายดีมาก

และก็ออกเดินทางต่อ ระยะเวลาจากปากทางเข้าไปปายไม่ถึง 100 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงกว่าเพราะทางคดเคี้ยวและขึ้นเขาลงเขาตลอด

ถ้าขับรถมาเอง ก็จะมีจุดอื่นให้แวะพักรถและถ่ายรูปกันชิวๆ "รักจัง"

ก่อนเข้าสู่ปาย ก็ผ่านทางเข้าห้วยน้ำดัง

เลยทางเข้าห้วยน้ำดังมาหน่อยนึง จะมีจุดตรวจแม่ยะ รถจอดให้ทหารขึ้นมาตรวจบนรถ เราต้องแสดงบัตรประชาชน

ทางเป็นแบบนี้ตลอด ต้องขับด้วยความระมัดระวัง

พอหมดขึ้นลงเขา เข้าสู่พื้นราบ สิ่งแรกที่จะเจอก่อนเข้าเมืองปายคือ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย จากนั้นก็ผ่านร้าน Coffee in love และเข้าสู่ตัวเมืองปาย 

มาถึงปายเกือบๆ บ่ายโมง รถจะมาจอดที่สถานีขนส่ง เราเดินไปเช่ารถที่ร้าน AYA แต่ปรากฏว่าตอนนั้นรถหมด เลยไปเดินหาอะไรทานกันก่อน

หาอะไรง่ายๆ ทานแถวนั้นเพราะหิวมากๆ

Check in เข้าที่พัก ทริปนี้เน้นเที่ยว ที่พักเอาแบบพออยู่ได้ อยู่ในเมือง แต่ราคาไม่แพง เลยจองที่ วิลล่าเดอปาย เป็นที่พักหลักร้อย ติดแม่น้ำปาย อยู่ในย่านถนนคนเดิน ซึ่งห้องพักก็ OK ราคาคืนละ 800 บาท เวลาเลือกที่พัก ที่สำคัญเลยคือเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งคาดว่าที่พักทุกที่ไม่ว่าจะถูกหรือแพงต้องมีให้ ไม่เช่นนั้นไม่ได้อาบน้ำตอนเย็นแน่ๆ เห่อๆๆ

จากนั้นเราก็ไปร้าน AYA อีกครั้ง คราวนี้มีรถแล้ว แต่เราต้องการ Scoopy i เลยต้องรอสัก 10 นาทีก็ได้รถ ค่าเช่ารถประมาณ 100 - 200 บาท จำราคาแน่นอนไม่ได้ แต่เพื่อความสบายใจก็ซื้อประกันเพิ่ม ไม่อยากมีปัญหาทีหลัง ร้านนี้รถเยอะมาก เวลาให้เช่าจะคิด 24 ชั่วโมง เช่น ถ้าเราเช่าตอนบ่ายโมง ก็ต้องส่งรถคืนก่อนบ่ายโมงของอีกวันนึง หลังจากได้รถแล้วจุดหมายแรกของเราคือร้าน Coffee in Love ไปถึงร้านประมาณบ่ายสอง แดดร้อนแบบแผดเผาจริงๆ

ร้านนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี สามารถมองเห็นวิวมุมกว้างได้ ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายของร้านนี้

 วันนั้นมีนักท่องเที่ยวพอประมาณ

เสน่ห์อีกอย่างของร้านนี้ น่าจะเป็นที่ มีมุมถ่ายรูปให้ถ่ายหลายมุม

ป้ายบอกทางน่ารักๆ

วิวที่มองจากบนถนน

อากาศร้อนมาก เข้าไปหาเครื่องดื่มเย็นๆ ทานในร้าน

ป้ายด้านหน้าร้าน

ด้านข้างร้านก็มีรถขายของที่ระลึก

ร้านจะเป็นร้านเล็กๆ มองเห็นวิวได้ชัดเจน มีโต๊ะนั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ โต๊ะนี้เป็นโต๊ะที่เรานั่ง

โชคดีที่ไม่ได้มาช่วงเทศกาล คนเลยไม่จอแจ

เครื่องดื่มที่สั่งมาและเค้ก รสชาติดีทั้งคู่ ไม่เหมือนกับร้านสวยๆ บางร้าน ที่คนนิยมไปถ่ายรูปแต่เครื่องดื่มที่ขายในร้านไม่อร่อย ส่วนร้านนี้รสชาติ OK

บลูเบอรี่ชีสเค้ก

ด้านล่างมองลงไปจะเป็นสวนหย่อมที่ทางร้านจัดขึ้น ดูให้ดีเป็นรูปหัวใจด้วยนะ ^_^

ทานเสร็จลงมาเดินสำรวจรอบๆ ร้านบ้าง

ตรงนี้ก็สวยดี

เราเดินไปด้านข้างของร้าน Coffee in Love บ้านนี้สีโดดเด่นและวิวดีมาก

ใครที่แวะมาก็ต้องมาถ่ายรูป

น่ารักดีสีตัดกับสีของท้องฟ้า

ถ่ายมาหลายรูปหน่อยเพราะสวยดี

ด้านข้าง

ด้านหลัง

จากร้าน Coffe in love ทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะขับไปสะพานประวัติศาสตร์ แต่เห็นระยะทางแล้วไกลเกินไป ก็เลยย้อนกลับมา มุ่งหน้าไปวัดน้ำฮู ระหว่างทางผ่านร้านนี้ก็เลยแวะถ่ายรูป เป็นที่พักกับร้านนม สีชมพูหว้านหวาน

อะไรๆ ก็เป็นสีชมพูไปหมด

ชื่อร้านปายหวานบ้านนมสด ทีแรกกะว่าจะไปหาเครื่องดื่มทานต่อ แต่ดูแล้วเงียบมากก็เลยไม่ได้เข้าไป ที่นี่มีที่พักด้วย สีชมพูหวานๆ ใครชอบสีชมพูคงชอบ

ขนาดรถยังเป็นสีชมพู

จากร้านปายหวานบ้านนมสด ก็เดินทางต่อ เส้นทางถนนด้านนอกที่ไม่ผ่านในเมือง ก็จะมีขึ้นเนินลงเนินนิดหน่อย

สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องปายอินเลิฟ

สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องปายอินเลิฟ

ขับมาเรื่อยๆ เจอทางแยกเลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าไปวัดน้ำฮู ซึ่งเส้นทางนี้จะมีที่เที่ยวได้แก่ วัดน้ำฮู หมู่บ้านสันติชล น้ำตกหมอแปง

แวะนมัสการหลวงพ่อวัดน้ำฮู

 วัดน้ำฮูเป็นวัดเก่าแก่ในเมืองปาย เชื่อว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระสุพรรณกัลยา

เข้าไปไหว้พระอุ่นเมือง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ทำจากทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย ภายในเศียรกลวง ยอดเศียรที่เป็นมวยผม สามารถเปิดออกมาได้ ที่น่าอัศจรรย์คือ ภายในจะมีน้ำซึมออกมาตลอด ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์
 

ศาลาที่จะไปไหว้พระสุพรรณกัลยา

จากนั้นเดินทางต่อไปหมู่บ้านสันติชล จากวัดน้ำฮูใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ไปถึงจะมีที่ให้จอดรถด้านหน้า ต้องเดินต่อเข้าไปด้านใน

ที่นี่เป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนาน ด้านหน้าก็จะมีร้านขายของพื้นเมือง

ร้านอาหารที่ขายพวกอาหารของชาวจีนยูนาน เช่น หมั่นโถวและซาลาเปา

ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนาน

บนหินมีตัวอักษรจีนเขียนอยู่ แต่หมายความว่าอะไรไม่ทราบเหมือนกัน

  บรรยากาศและสิ่งปลูกสร้างด้านใน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านอาหาร ร้านขายของ

ตรงนี้ถ้าเข้าไปถ่ายรูปในเกี้ยวต้องเสียเงิน

 ร้านขายของและขายชา

ผลิตภัณฑ์ด้านใน

จะมีชาให้ชิมด้วย ชาหอมมาก

ร้านเครื่องดื่ม ชื่อร้าน คาเฟยเตี้ยน

แวะไปหาอะไรเย็นๆ ดื่มดีกว่า อากาศร้อนมากมาย

มีกาแฟให้เลือกหลากหลายชนิด

ภายในร้าน ^_^

บลูเบอรี่โซดา

ที่นั่งภายในร้าน บรรยากาศดี

ชิงช้าของชาวจีนยูนาน

มีบริการขี้ม้าเดินเที่ยวรอบๆ หมู่บ้านด้วย ม้าเท่มาก ใส่แว่นตาด้วย

มองย้อนกลับไปด้านหน้าที่เราเดินเข้ามา

ด้านหลังจะเปิดเป็นที่ีพักสำหรับนักท่องเที่ยว

ศาลากลางน้ำ เหมือนเป็นที่นวดนะถ้าดูไม่ผิด

ในรูปด้านขวามือ จะเป็นส่วนของที่พัก เป็นลักษณะบ้านดิน

อีกมุม

วิวมุมกว้าง

บริเวณนี้จะเป็นที่ขายของ และ บริการเพื่อสุขภาพต่างๆ

ทำเหมือนกำแพงเมืองจีน

ประตูด้านข้าง

เหมือนมาเดินอยู่เมืองจีน

รูปปั้นตามความเชื่อของจีน

จุดพลังลมปราณ

ห้องน้ำ >_< ถ่ายมาหมด

ตรงนี้เป็นร้านค้า ที่นั่งวิวดี

วิวมุมกว้าง

แพะที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้

ถ้าใครอยากลองนั่งชิงช้าของชาวจีนยูนาน ก็สามารถเล่นได้ เสียค่าบริการนิดหน่อย แต่ดูแล้วน่าหวาดเสียว

จากนั้นเดินทางไปน้ำตกหมอแปง จากระยะทางบอกไม่ไกล แต่ไปจริงๆ ไกลมาก ผ่านหมู่บ้านของชาวบ้าน ลึกเข้าไปจนชักไม่แน่ใจว่ามาถูกทางหรือเปล่า และตอนนั้นเริ่มเย็น กลัวว่ามืดและจะกลับออกมาลำบาก แต่ไหนๆ มาแล้วก็ต้องมาให้ถึง น้ำตกหมอแปง

ไม่มีน้ำเลย >_< ขากลับออกมาพระอาทิตย์ใกล้ตก อากาศก็เริ่มเย็นลงๆ อุณหภูมิแตกต่างจากช่วงกลางวันแบบสุดขั้ว ตอนขับรถออกมาไม่มีแดดแล้ว หนาวมาก..ขับรถมือแข็งและสั่นหงึกๆ เลยทีเดียว จริงๆ เรามีโปรแกรมไปวัดพระธาตุแม่เย็นเพื่อไปดูพระอาทิตย์ตก แต่ว่าไปไม่ทันแล้วจึงยกเลิกไป

ที่ปาย พอพระอาทิตย์ตกดิน อากาศเย็นมากๆ แบบสุดๆ ตอนกลางคืนแม้แต่พื้นก็ยังใช้เท้าเปล่าเหยียบลำบากเพราะเย็นมาก เรากลับไปอาบน้ำและออกมาเดินเที่ยวถนนคนเดิน ตอนอาบน้ำนี่ทรมานสุดๆ หนาวไปถึงกระดูกขนาดอาบน้ำอุ่นยังสั่น ไม่สามารถเดินออกมาจากน้ำได้ เพราะหนาวมากๆ ไม่เคยรู้สึกหนาวแบบนี้มานานมาก แอร์ไม่จำเป็นเลยสำหรับตอนกลางคืน พัดลมก็ยังเปิดไม่ได้ >_<

เราออกมาเดินเที่ยวที่ถนนคนเดินปาย ได้บรรยากาศมากเพราะอากาศเย็น ^_^ ตอนหน้าจะพาไปเดินถนนคนเดินปายกันนะคะ

ตอนต่อไปค่ะ พาเที่ยว ปาย ห้วยน้ำดัง ปางอุ๋ง เสน่ห์ท่ามกลางขุนเขา (2) ถนนคนเดินปาย

พาเที่ยว ปาย ห้วยน้ำดัง ปางอุ๋ง สเน่ห์ท่ามกลางขุนเขาตอนอื่นๆ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS