ห่างหายจากการพาเที่ยวญี่ปุ่นไปนานมาก ช่วงนี้งานเยอะไม่ค่อยมีเวลามา Up กลับมาก็เหนื่อย แถมบางวันยังต้องหอบหิ้วงานกลับมาทำอีก ไว้จะค่อยๆ Up จนครบนะคะ อย่างที่รู้กันว่าตอนนี้ ประเทศญี่ปุ่นประสบกับภัยธรรมชาติและปัญหาที่ตามมา เรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในฐานะที่เป็นคนนึง ที่เคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ชอบที่เที่ยว บ้านเมืองและผู้คนที่นั่น ก็ภาวนาขอให้ประเทศญี่ปุ่น ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดีค่ะ
เรามาเที่ยวญี่ปุ่นกันต่อเลย จากตอนที่แล้ว พาเที่ยวญี่ปุ่น5 : ภูเขาไฟฟูจิสถานีที่ 5 ระดับความสูง 2,500 เมตร
ลงจากฟูจิมาเที่ยวกันต่อที่หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก Oshino-Hakkai เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในละแวกทะเลสาปทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิ อยู่ระหว่าง ทะเลสาป Kawaguchiko และ Yamanakako
ก่อนถึงหมู่บ้าน เรามาฟังประวัติของ Ashino Hakkai สักหน่อยดีกว่า
มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าแต่ก่อน Oshino mura ถูกเรียกขานกันว่า ทะเลสาป Utsu ต่อมาเมื่อภูเขาไฟฟูจิเกิดระเบิดขึ้นเมื่อ ปี คศ. 800 ลาวาที่ไหลลงมาจากภูเขาไฟ แบ่งทะเลสาปออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งก็คือ ทะเลสาป Yamanakako(ในปัจจุบัน) และทะเลสาป Oshino ซึ่งเป็นทะเลสาปที่ 6 ของภูเขาไฟฟูจิ ต่อมา Oshino แห้งลงเนื่องจากการกัดเซาะแม่น้ำและการขุดเจาะระบายน้ำ ทะเลสาปจึงเหลือเพียง 5 แห่ง ที่มาของบ่อน้ำทั้ง 8 บ่อเดี๋ยวจะค่อยๆ เล่านะคะ
ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ก็มาถึงหมู่บ้าน Oshino Hakkai ต้องจอดรถไว้ด้านนอกและเดินต่อเข้าไป พอเข้ามาก็จะเจอกับบ่อน้ำบ่อแรก แต่ละบ่อจะมีป้ายบอกว่าลึกกี่เมตร บ่อลึกมากแต่สามารถมองลงไปเห็นก้นบ่อ เพราะน้ำใสมากๆ น้ำนิ่งจนเห็นเงาสะท้อนชัดเจน สวยมาก ในบ่อมีปลาตัวใหญ่อาศัยอยู่
เราเดินต่อเข้าไปด้านใน ก็จะเห็นบ่อน้ำบ่ออื่นๆ Oshino Hakkai มีบ่อน้ำทั้งหมด 8 บ่อ เกิดจากการหลอมละลายของหิมะและไหลลงมาจากภูเขาไฟฟูจิ ซึมผ่านชั้นของลาวาที่เป็นรูพรุน ใช้เวลานานถึง 80 ปี ทำให้น้ำในบ่อที่หมู่บ้านนี้ใสมาก ในปี 1985 ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งน้ำที่ดี 1 ใน 100 ของแหล่งน้ำในญี่ปุ่น ทั้งในด้านคุณภาพ ปริมาณ และทัศนียภาพที่งดงาม ซึ่งเป็นจุดชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิอีกที่หนึ่ง ในวันที่ทัศนียภาพดี เราสามารถที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากที่นี่ นอกจากนี้อาจจะได้เห็นภาพสะท้อนบนพื้นน้ำในบ่อที่สวยงามมาก แต่วันที่เราไปมองไม่เห็น
บ่อน้ำพุธรรมชาติทั้ง 8 บ่อ มีความเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อที่ว่าภูเขาไฟฟูจิเป็นที่สถิตย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ จนมีชื่อเรียกว่า "Springs of the Gods" หรือ น้ำพุของเทพเจ้า ดังนั้นคนมักจะมาขอพรกัน ว่ากันว่าแต่ละบ่อก็จะมีความศักดิ์สิทธิที่แตกต่างกันไป เช่น เรื่องสุขภาพ คู่ครอง ฯลฯ
เดินเข้ามาด้านในบริเวณนี้ก็จะมีบ่อน้ำอยู่ ที่เห็นฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านขายของที่ระลึกและของฝากต่างๆ เป็นพวกเมล็ดถั่วต่างๆ ผักดอง ขนมพวกโมจิ ฯลฯ เราว่าของฝากที่นี่น่าซื้อดีเพราะราคาไม่แพง เราซื้อถั่วหวานมา 1 ถุง เม็ดโตมาก อร่อยดี จะมีถั่วและผักดองต่างๆ ให้เลือกชิมก่อนที่จะซื้อ มีถั่วแบบที่ไม่เคยเห็นเยอะเลย คนขายเรียกชิมเป็นภาษาไทยด้วย ยังเสียดายที่ซื้อของฝากจากที่นี่มาน้อย
ตรงกลางจะมีบ่อน้ำบ่อนึง ให้คนเข้าไปไหว้ขอพร บ่อน้ำบ่อหนึ่งที่นี่ใสสะอาดจนสามารถที่จะตักมาดื่มได้เลย ขอพรแล้วก็ตักขึ้นมาดื่มจะได้สมหวัง ^ ^ ในน้ำก็มีไม้น้ำขึ้น สวยดี
บริเวณนี้จะแสดงระหัดวิดน้ำแบบโบราณ และการสีข้าวแบบโบราณ
ด้านในจะเป็นเครื่องสีข้าวที่ใช้พลังธรรมชาติจากระหัดวิดน้ำที่เห็นในรูปด้านบน เมื่อมันหมุนก็จะทำให้กลไกด้านในทำงาน
บริเวณนี้จะเป็นร้านอาหาร ถ้าหิวก็สามารถมาหาอะไรทานได้ที่นี่
ร้านบะหมี่ มีที่นั่งกลางแจ้งให้นั่ง อากาศกำลังเย็นสบาย
บ้านด้านข้างหรือเป็นสำนักงานหรืออะไรไม่ทราบ เป็นอาคารบ้านเรือนสไตล์ญี่ปุ่น
เดินอ้อมเข้ามาในร้านขายของฝากของที่ระลึกกันดีกว่า นอกจากน้ำที่นี่จะใสสะอาดแล้ว ยังเย็นอีกด้วยใช้แช่ได้โดยที่ไม่ต้องเอาไปแช่เย็นเลย ตรงนี้จะเป็นที่ให้ชิมพวกผักกาดดอง
โมจิชาเขียวปิ้งเป็นใส้ถั่ว ชิ้นละ 100 เยน ซื้อแล้วยืนทานตรงนั้นร้อนๆ แป้งเหนียวๆ ไส้หวานๆ อร่อยดี ชอบมาก ถ้าไปต้องลองเลยนะห้ามพลาด
เขาจะเอามาปิ้งๆ หอมด้วย อร่อยด้วย
บ่อน้ำที่อยู่ตรงกลาง มีน้ำไหลผ่านมังกรทั้ง 3 ตัว
นี่ก็อีกบ่อหนึ่ง ทำเป็นน้ำตกเลย บ่อนี้ลึก 5 เมตร
น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ปลาตัวใหญ่มาก ตรงก้นบ่อมีอะไรเรืองแสงขึ้นมาด้วย
ซื้อของฝากเสร็จก็เดินเที่ยวๆ รอบๆ หมู่บ้าน
มีองุ่นมาขายด้วย กองละ 1000 เยน ลูกใหญ่มาก อยากซื้อแต่ไม่รู้จะไปล้างที่ไหน เพราะอยากกินเลย
ตรงนี้เหมือนจะเป็นที่พักนะไม่แน่ใจ ที่ป้ายมีเบอร์โทรอยู่ด้วย
ตรงนี้เป็นเหมือนคลองที่น้ำใสมากๆ เดินเล่นชิวๆ บรรยากาศดีมาก ถึงแม้ว่าที่นี่จะเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากมาย แต่สถานที่นี้ก็ยังคงความเป็นธรรมชาติดั้งเดิมไว้ได้ เป็นข้อดีอีกอย่างนึงของที่นี่
คุณลุงคนนั้นลงไปถ่ายรูปแบบใกล้ชิด
ในน้ำก็จะมีไม้น้ำสวยดี รั้วที่เราเห็นด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ แต่เราไม่ได้เข้าไปด้านใน
ดอกไม้สวยๆ
โรงสีข้าวแบบโบราณอีกที่หนึ่ง
ด้านนี้ ในวันที่อากาศเป็นใจ จะมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิแบบนี้ ในภาพที่เห็นจะเป็นภายในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Hannoki Bayashi Shiryokan ที่เก็บค่าเข้าชม ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ในการทำฟาร์ม บ้านที่มีหลังคาเป็นแบบเก่าแก่ดั้งเดิมของญี่ปุ่น เครื่องมือเครื่องใช้ในครัวเรือน เกราะซามูไรและอาวุธต่างๆ
มีจุดให้ขึ้นไปถ่ายวิวของภูเขาไฟฟูจิได้
บริเวณนี้เป็นร้านขายราเมง
นอกจากร้านขายของฝากที่อยู่ด้านใน ก็ยังมีเหมือนกับชาวบ้านมาตั้งแผงขายตรงทางเข้าออก คนนี้เขาขายปลาเส้น น่าสนใจดีเป็นเส้นๆ ทีแรกนึกว่าเปลือกไม้ มีรสวาซาบิ รสปลาหมึก และ รสปูอัด แปลกดี แต่ราคาแพง 3 กล่อง ตั้ง 500 เยน
เดินเที่ยวเสร็จก็ออกมาขึ้นรถด้านนอก ระหว่างทางก็มีชาวบ้านขายพวกฟักแฟงด้วย ในภาพที่เห็นคือศาลเจ้า แม้แต่ศาลเจ้าเล็กๆ ก็มีโทริอิด้วย
ออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าเมือง...เพื่อไปขึ้นชินคันเซ็นเข้าไปโตเกียว เพื่อไปเดินเที่ยวย่านชินจูกุ
อยู่บนรถก็ชมวิวและถ่ายรูปไปเรื่อยๆ นาข้าวของญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าพื้นจะไม่ราบกว้างเหมือนบ้านเรา เขาก็ปลูกข้าวได้ สวยดี
วันนี้อากาศดี โชคดีที่ฝนไม่ตก เพราะช่วงนั้นเป็นปลายฝนต้นหนาว
รถยนต์ที่เห็นตามท้องถนน ส่วนใหญ่จะเป็นรถเล็กๆ
ปั๊มน้ำมัน มินิมาร์ท ร้านขายของต่างๆ มินิมาร์ทที่นี่ที่เปิด 24 ชั่วโมงเหมือน 7-Eleven บ้านเราคือ Lawson ที่ญี่ปุ่นก็มี 7-Eleven นะ Soft Bank ทีแรกเข้าใจว่าเป็นธนาคาร แต่จริงๆ แล้วมันคือบริษัทค่ายโทรศัพท์มือถือในญี่ปุ่น
ที่พักอาศัยและสุสาน อยู่ใกล้กันมาก
เรามาแวะทานข้าวกลางวันกันที่นี่
มื้อนี้เป็นเทมปุระเซ็ท
ไปถึงก็มีเซ็ทอาหารวางไว้แล้ว
เครื่องเคียงบนโต๊ะ ชอบผงโรยข้าวอร่อยดี ในกาน้ำชาเขาใส่ลูกอะไรไว้ด้วยก็ไม่รู้
แล้วข้าวก็มาเสิร์ฟ เมื่อวานทานเทมปุระที่ต้องทอดเอง วันนี้มาแบบสำเร็จรูป ที่ขาดไม่ได้คือมิโซะซุป
ดูกันชัดๆ กุ้งตัวใหญ่มาก
เครื่องเคียงเยอะมาก
ถ่ายเบียร์ญี่ปุ่นมาให้ดูด้วย
มื้อกลางวันเสร็จก็ตบท้ายด้วยของหวาน ไอศครีมคนละโคน ไอศรีมทุกกรวยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เท่ากัน เพราะก่อนที่จะใส่โคน ไอศครีมจะมาเป็นถ้วยๆ พอเราสั่งรสอะไร เขาก็จะหยิบถ้วยนั้นมาใส่ในเครื่องที่เห็น แล้วมันก็จะออกมาเป็นแบบนี้
สำหรับตอนนี้ไว้แค่นี้ก่อนนนะคะ ตอนหน้าจะพาไปขึ้นรถไฟชินคันเซ็น เข้าโตเกียวเพื่อไปเดินช้อปปิ้งที่ย่านชินจูกุกันค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^