ต่อจากตอนที่แล้ว พาเที่ยว ทำบุญ ไหว้พระ หาของกินในเมืองเชียงใหม่(4)
ตอนสุดท้ายของการพาเที่ยว ทำบุญ ไหว้พระ หาของกินในเมืองเชียงใหม่แล้วค่ะ ตอนนี้จะพาไปไหว้พระที่วัดที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่กัน นั่นก็คือวัดเชียงมั่น ตามไปไหว้พระกันเลยค่ะ
หลังจากออกจากวัดสระเกษก็มุ่งหน้าไปร้าน Love At First Bite ที่ได้รีวิวไว้แล้วที่ >> พากิน เค้กร้าน Love At First Bite ร้านเค้กในเชียงใหม่(2)
หลังจากนั้นเราก็กลับมาแถวราชดำเนิน ที่เป็นถนนคนเดินวันอาทิตย์ ย่านนี้ก็มีที่พักต่างๆ อยู่เยอะเหมือนกัน เช่น ที่นี่ U Chiangmai
ตรงนี้เป็นที่พัก Purple Pastel Place
ขี่ตามถนนราชดำเนินมาเรื่อยๆ จนถึงถนนสามล้าน แวะชิมชาชัก ที่เป็นชาแบบที่ขายบนรถ นราชาชัก
ต่อมาที่ถนนสิงหราช เข้าถนนเวียงแก้ว ถนนพระปกเกล้าแล้วมาถนนราชภาคินัย วัดนี้คือ วัดล่ามช้าง
เราเลี้ยวซ้ายมาตามถนนราชภาคินัย เพื่อมาที่ วัดเชียงมั่น เป็นพระอารามแห่งแรกในเขตกำแพงเมืองเชียงใหม่ สร้างโดยผู้ก่อตั้งเมืองเชียงใหม่คือ พญามังราย เมื่อปี พ.ศ. 1839- 1840 โดยพระราชทานที่ดินบริเวณพระตำหนักเวียงเชียงมั่นเป็นที่สร้าง
ภายในวัดเก็บโบราณวัตถุที่สำคัญคือ พระเสตังคมณี หรือ พระแก้วขาวสลักจากหินควอตซ์สีขาวขุ่น(หินเขี้ยวหนุมาน) ศิลปล้านนา พญามังรายนำมาจากเมืองหริภุญไชย พระพุทธรูปศฺลาสลักปางทรมานช้างนาราคีรี ฝีมือสกุลช่างปาละ และศิลาจารึกกล่าวถึงประวัติของวัดและเมืองเชียงใหม่ จากรึกเมื่อ พ.ศ. 2124 โบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ช้างล้อม อายุเกือบ 700 ปี
ด้านหน้าวิหารหลวงวัดเชียงมั่น
ภายในวิหารของวัดเชียงมั่น
พระประธานในวัดเชียงมั่น
จิตรกรรมฝาผนังที่วัดเชียงมั่น
จิตรกรรมฝาผนังที่วัดเชียงมั่น
พระอุโบสถด้านข้างวิหาร
ที่บันไดด้านข้างมีนาคสองด้าน บานประตูและและซุ้มประตูสวยงามมาก
ด้านข้างอีกภาพ
เจดีย์ช้างล้อมที่พญามังรายสร้างทับเรือนที่ประทับของพระองค์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1840 เป็นศิลปะแบบล้านนา เจดีย์เป็นฐานช้างล้อม มีช้างอยู่โดยรอบ ด้านบนเป็นทองจังโก ทองจังโก คือ ทองเหลืองที่ตีเป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาหุ้มเจดีย์เพื่อป้องกันการผุกร่อน
อีกด้านของเจดีย์ และด้านหลังของวิหารหลวง
เจดีย์อีกด้าน
อาคารด้านหลังที่ดูเหมือนเพิ่งจะสร้างเสร็จได้ไม่นาน
หอไตร อยู่กลางน้ำ
เรากลับมาที่มูลเมืองซอย 7 เข้ามาด้านหน้าวัดล่ามช้าง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดเชียงมั่น ประวัติวัดนี้บอกไว้ว่า เมื่อครั้งที่พญาเม็งราย มาสร้างวัดเชียงมั่นและประทับอยู่ที่นั่น ก็มีกษัตริย์เมืองต่างๆ มาร่วมปรึกษาการสร้างเมือง และได้นำช้างราชพาหนะของกษัตริย์ มาล่ามไว้แถวนั้นเรียกว่า เวียงเชียงช้าง ต่อมาได้สร้างวัดขึ้นที่บริเวณนี้ จึงเรียกว่าวัด ล่ามช้าง
วิหารของวัดล่ามช้าง
เย็นวันนี้เราจะไปทานขันโตกกันที่ศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งได้รีวิวไว้แล้วที่ >> พากิน ของกินในเมืองเชียงใหม่ : ขันโตกศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่
เช้าของอีกวันต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่เช้า โทรให้รถที่สนามบินมารับที่ที่พัก มาส่งที่สนามบิน คิดราคา 120 บาทต่อเที่ยวเหมือนเดิม
อาหารเช้าก่อนขึ้นเครื่อง
ครึ้มฟ้าครึ้มฝนมากๆ
มุมสูงของเมืองเชียงใหม่ บายๆ เมืองเชียงใหม่ ไว้จะมาอีกในเร็วๆ นี้นะ ^_^
วันนี้มีเมฆมาก แต่บางช่วงก็ไม่มี
แสงแดดส่องลงมา
เครื่องบินเริ่มลดระดับลง
ตรงนี้สวยดี
กลับมาถึงกรุงเทพแล้ว ^_^
มุมสูงของกรุงเทพย่านสุวรรณภูมิ
ถึงแล้วอย่างปลอดภัย มีฝนตกเล็กน้อย สนามบินเต็มไปด้วยน้ำ
จบทริปไหว้พระที่เชียงใหม่ในครั้งนี้ เหมือนไปหลายวัด แต่ก็ยังมีอีกหลายวัดที่ยังไม่ได้ไป ถ้ามีโอกาสจะไปวัดที่สำคัญๆ ที่ยังไม่ได้ไป เช่น วัดเจ็ดยอด วัดอุโมงค์ ฯลฯ ขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ
พาเที่ยว ทำบุญ ไหว้พระเชียงใหม่ ตอนอื่นๆ
ขอบคุณที่ติดตามชม Blog ของ bombik ค่ะ แล้วแวะมาอีกนะคะ ^_^