พาเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 2 : ดูพระอาทิตย์ตกทะเลที่แหลมพรหมเทพ

ต่อจากตอนที่แล้ว พาเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 1 : จากกรุงสู่เกาะ ไหว้พระวัดฉลอง

ออกจากวัดฉลอง มุ่งหน้าไปทางหาดราไวย์ จากหาดราไวย์ 2 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายขึ้นจุดชมวิวแหลมพรหมเทพ เวลาประมาณ 16.00 น. เราก็ถึงแหลมพรหมเทพ จุดพระอาทิตย์ตกที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในเมืองไทย เป็นอีกที่หนึ่งเมื่อมาภูเก็ตแล้วไม่ควรพลาด แหลมพรหมเทพอยู่ทางใต้สุดของภูเก็ต เป็นแหลมยืนออกไปในทะเล เวลาฟังพยากรณ์อากาศจะได้ยินบ่อยๆ ว่าพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพเวลา...วันนั้นพระอาทิตย์ตกเวลาหกโมงกว่าๆ จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่ แต่จะมีป้ายบอกไว้ ถ้าไม่มีเมฆบังคงสวยกว่านี้ เป็นอีกที่หนึ่งที่โรแมนติกดี ลมพัดเย็นๆ กับการชมพระอาทิตย์ตก ^_^

Post นี้คงจะไม่บรรยายมาก เพราะภาพส่วนใหญ่จะเป็นภาพพระอาทิตย์ตก ดูรูปเพลินๆ แล้วกันนะคะ วันนั้นมีเมฆปกคลุมเป็นบางส่วนแต่ก็ยังเห็นความสวยงามอยู่ พอไปถึงก็จอดรถที่ลานจอดรถ แล้วก็เดินขึ้นไปด้านบนทางซ้ายมือ วิวด้านขวาจะเป็นแบบนี้ เห็นกังหันลมอยู่ไกลๆ หาดที่เห็นคือหาดในหาน

ตรงแหลมพรหมเทพจะเป็นลักษณะหน้าผาสูง มองลงไปเบื้องล่างก็จะเป็นแบบนี้

ปลายแหลมสุดที่ยื่นออกไปในทะเล สามารถเดินลงไปด้านล่างได้ เนื่องจากเรามาเร็วเหลือเวลาอีกนานกว่าพระอาทิตย์จะตก เดี๋ยวจะพาลงไปสำรวจด้านล่างกันค่ะ เมื่อก่อนภูเก็ตเคยถูกเรียกว่าแหลมจังซีลอน ที่มาของห้างจังซีลอนในภูเก็ตเป็นแบบนี้นี่เอง

ทางด้านที่เป็นปลายแหลม ก็จะมีต้นตาลขึ้นอยู่ประปราย ปกติริมทะเลจะเห็นแต่ต้นมะพร้าว เมื่อก่อนคงมีเยอะกว่านี้ ตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่ต้น เพราะเท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะตายแล้วเพราะยอดหายเหลือแต่ต้นไม่มีใบเลย และคาดว่าอีกไม่นานคงไม่เหลือถ้ามันตายเรื่อยๆ

เราเดินลงมาที่ปลายแหลมด้านล่างกัน ทางไม่ชันมากพอเดินได้ แต่ต้องระมัดระวัง ระยะทางเท่าที่ประมาณก็น่าจะเกือบกิโลเมตร จากด้านบนเดินลงมาที่ปลายแหลม ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที กะเวลาแน่นอนไม่ได้เพราะว่าเดินไปถ่ายรูปไป มองดูแล้วคนตัวเล็กนิดเดียวเอง

เดินลงไปและมีเดินขึ้นเนินนิดหน่อย ตรงนั้นจะเป็นพิกัดดาวเทียมของทหาร

ด้านข้างทั้งสองข้างก็เป็นหน้าผาด้านล่างเป็นโขดหิน แต่ไม่น่ากลัวเพราะทางกว้าง น้ำซัดเข้ากระทบกับโขดหินด้านล่างเป็นฟองขาวสวยดี

วิวด้านซ้ายมือ

ถ่ายจากปลายแหลมขึ้นไป เห็นคนที่อยู่ตรงจุดชมวิวด้านบนตัวเล็กมาก แต่ถ้ามองในภาพนี้ไม่เห็นเลย

GPS ดาวเทียมทหาร

เกาะที่มองเห็นจากแหลมพรหมเทพ น่าจะเป็นเกาะแก้ว จะเห็นมีพระอยู่บนเกาะด้วย สามารถข้ามเรือจากหาดราไวย์ไปยังเกาะแก้วได้ ว่ากันว่าเกาะนี้มีีหาดทรายสวยและดำน้ำดูปะการังได้ บนเกาะยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองด้วย

ภาพด้านล่างอีกสักภาพ

ปลายแหลมสุดของแหลมพรหมเทพ

ริมหน้าผาสูงชัน โขดหินที่แข็งแกร่ง ขุนเขาที่ยิ่งใหญ่ ก็ยังมีความงดงามเล็กๆ แบบอ่อนโยนอยู่ด้วย ^_^

ดอกไม้ริมผาแหลมพรหมเทพ

ยืนยันว่าเรากำลังอยู่ตรงแหลมจริงๆ

พระอาทิตย์เริ่มต่ำลง ก็เดินกลับขึ้นมาด้านบน เหนื่อยเอาการ เหงื่อท่วมตัว ขึ้นมาจับจองที่นั่งเพื่อรอดูพระอาทิตย์ตก

บริเวณนั้นก็จะเป็นที่นั่งยาวเลาะริมผา ยิ่งใกล้พระอาทิตย์ตกคนยิ่งมีจำนวนมากขึ้น

วันนั้นฟ้าไม่เคลีย์เท่าไร มีเมฆปกคลุมอยู่บ้าง ลุ้นว่าตอนพระอาทิตย์ตกเมฆอย่าบังเลย

นั่งอยู่ตรงนั้นลมเย็นๆ ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

นั่งห้อยขาหันหน้าออกทะเล นั่งไปได้สักพักงูเขียวเลื้อยมาจากไหนก็ไม่รู้ ดูตั้งแต่มันเลื้อยมา กะว่าเดี๋ยวมันก็เลื้อยผ่านไป แต่พอถึงตรงใกล้ๆ ที่เรานั่งมันกลับทำเหมือนจะเลื้อยขึ้นมาบนที่นั่งซะนี่ เลยกระโดดลงไปข้างล่าง -_-" จริงๆ ก็ไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่มันตกใจที่อยู่ๆ มันจะเลื้อยขึ้นมาหา

เปลี่ยนโหมดถ่ายบ้าง

ถ่ายย้อนแสงถ้าเปิดแฟลชก็จะได้แบบนี้ เห็นเป็นเงาดำๆ ถ้าถ่ายคนจะได้ตัวคนเป็นเงาดำๆ โรแมนติก..ตอนมาถึงใหม่ๆ เห็นมีเจ้าบ่าวเจ้าสาว มาถ่ายรูป Pre-wedding กันด้วย ไม่รู้ไปถ่ายกันตรงไหน พอขึ้นมาก็ไม่เห็นแล้ว เคยเห็นรูปหลายๆ Studio ที่เป็นรูปพระอาทิตย์ตกแล้วบ่าวสาวเป็นเงาดำๆ สวยดี

แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาบนพื้นน้ำในทะเล ทำให้เห็นสีทองเป็นระลอกคลื่น บรรยายซะสวยงามแต่ภาพได้แค่นี้แหละ เพราะ Compact ธรรมดาๆ

จับเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งตก

มีเมฆลอยมาบังเป็นช่วงช่วง ส่วนหลินฮุ่ยเลี้ยงอาหมวยอยู่

ภาพที่ตาเห็นจริงๆ สวยกว่าในรูปมาก

พระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยต่ำลงๆ

ในที่สุดก็จุ่มลงในทะเล นั่งรอมานานมาก แต่ช่วงที่พระอาทิตย์จุ่มลงในทะเลจะเป็นช่วงที่เร็วมากๆ แค่ไม่กี่วินาทีก็จะหายไปแล้ว ถ้าจะถ่ายรูปควรเตรียมตัวให้พร้อม มันเร็วมากจริงๆ

ถ่ายแนวตั้งดูบ้าง กล้องเราซูมได้แค่ 3x รูปพระอาทิตย์ก็ได้ดวงเท่านี้ล่ะ =.=

ถ้าเป็นกล้องเทพที่ซูมได้หลายเท่า ซูมแล้วเห็นพระอาทิตย์ดวงโตๆ แล้วไม่มีเมฆมาบัง ตอนพระอาทิตย์จุ่มไปครึ่งดวง คงจะเป็นภาพที่สวยมาก

ตอนพระอาทิตย์ตกกดชัตเตอร์ตลอด มีทุกช่วงจนลับขอบฟ้า ถ้าเอามาลงเกรงว่าจะเยอะไป

ดูภาพแบบพาโนรามากันบ้าง

พาโนรามา ตอนที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว

เบื้องหลังภาพทั้งหลายด้านบน

พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงจันทร์ก็เริ่มสว่าง ทั้งๆ ที่มีแค่เสี้ยวนึงเท่านั้น พระอาทิตย์กลางวัน พระจันทร์กลางคืน

ประภาคารกาญจนาภิเษกเป็นเครื่องหมายในการเิดินเรือ ข้างในของประภาคารก็มีการจัดแสดงนิทรรศการเรื่องกระโจมไฟ และจัดแสดงเรือหลวงจำลองต่างๆ เปิดเวลา 10.00 - 19.00 น.ทุกวัน

ท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า สวยดี

เราเดินทางกลับเข้าเมืองเพื่อหาข้าวเย็นทาน มื้อเย็นเราไปทานกันที่ร้านโพธิ์ทอง แถววงเวียนหอนาฬิกา และต่อด้วยการไปทานโอ๊ะเอ๋วที่ตลาดโต้รุ่ง

การสัญจรในเมืองจะใช้มอเตอร์ไซค์เป็นส่วนใหญ่ เพราะเดินทางสะดวก มีมอเตอร์ไซค์ให้เช่าวันละ 150 บาท รถรับจ้างต่างๆ ในเมืองราคาแพงมาก คนซ้อนมอร์เตอร์ไซค์ เหมือนเป็นเรื่องปกติถ้าเห็นผู้หญิงใ่ส่กระโปรงแล้วนั่งคร่อม

หมดวันแรกสำหรับชีวิตในเมืองภูเก็ต ตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวเกาะเฮและเกาะรายากันค่ะ

ตอนต่อไป พาเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 3 : จากอ่าวฉลอง ถึง เกาะรายา

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ ^_^ 

 

6 comments on "พาเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 2 : ดูพระอาทิตย์ตกทะเลที่แหลมพรหมเทพ"

ArtKung's picture
ArtKung (visitor) said on Fri, 08/14/2009 - 21:53:

ว้าวๆๆๆ iPhone ใครช่างไฮโซจิงอิอิอิอิ

bombik's picture
bombik said on Fri, 08/14/2009 - 22:20:

อิอิ

PatSonic|Com's picture
PatSonic|Com (visitor) said on Sun, 08/23/2009 - 15:42:

ถ่ายรูปออกมาสวยมากเลย นี่กล้องไรเนี่ย เมฆหลังพระอาทิตย์ตกไปแล้ว ภาพนั้น สวยมากๆ เลยครับ อยากไปเที่ยวอีกจัง

bombik's picture
bombik said on Mon, 08/24/2009 - 18:16:

ขอบคุณค่ะ ^_^ ใช้กล้อง Compact ตัวเล็กๆ เอง
แต่อาศัยว่า มาปรับแสงให้คมขึ้นอีกนิดหน่อยค่ะ

ขอบคุณค่ะที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม

jeep's picture
jeep (visitor) said on Sun, 12/27/2009 - 23:34:

ส ว ย มั๊ ก ๆ

ชอบ พระ อาทิตย์ ตก ดิน ที่ สุด

จะ ไป ให้ ได้ as soon as possible

bombik's picture
bombik said on Tue, 12/29/2009 - 16:17:

ที่นี่เป็นอีกที่หนึ่ง ที่พระอาทิตย์ตกดินแล้วบรรยากาศโรแมนติก ^_^

Powered by Drupal, an open source content management system

Copyright © 2009 bombik - Theme ported to Drupal by kong
CSS Templates by Inf Design - Valid XHTML & CSS