ไปภูเก็ตทั้งทีก่อนกลับก็ต้องซื้อของฝากกันหน่อย เราไปแวะซื้อของฝากที่ร้านเมธี ซึ่งเป็นร้านของฝากที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์แปรรูป ร้านของฝากที่ดังๆ ก็จะมีร้านเมธีและร้านคุณแม่จู้ ที่ทั้งสองที่เป็นสถานประกอบการนำร่อง ตามโครงการ 1 Province 1 Agro-Industrial Product หรือ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปภาคเกษตร บริษัทเมธีภูเก็ต จำกัด ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารประเภทของ ฝาก ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แกงไตปลา ฯลฯ ซึ่งได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่น หรือ Best Practice ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ คือผลิตภัณฑ์น้ำพริกกุ้ง เสียบ Stick และด้านการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์หรือระบบสู่มาตรฐานสากล HACCP ข้อมูลจาก phukettoday.com
วันนั้นมีพวกเราเป็นลูกค้ากลุ่มเดียว พอเข้าไปเขาก็เชิญชวนให้ดูการสาธิตการแกะเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งทางร้านจะมีโรงงาน ซึ่งต้องใช้แรงงานคนในการแกะเนื่องจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีรูปร่างไม่เหมือนกันสักเม็ด เลยต้องแกะด้วยมือ ในรูปคือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ยังไม่ได้แกะเปลือก
นี่คือเครื่องมือที่ใช้ในการแกะเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ลักษณะฟันของเครื่องมือ ท่าทางจะคมมาก
สาธิตการแกะเปลือกให้เห็นกันจะจะ
มีน้ำมะม่วงหิมพานต์ให้ชิมด้วย อร่อยดี ^_^ เป็น OTOP 5 ดาว ซึ่งตามแนวคิดคือจะส่งเสริมให้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อีกทางเลือกหนึ่งของคนรุ่นใหม่ ซึ่งน้ำมะม่วงหิมพานต์มีคุณค่าทางอาหารครบทั้ง 5 หมู่ มีทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน กากใยอาหาร วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน วิตามินซี แคลเซียมและโปตัสเซียม ผลิตจากเนื้อมะม่วงหิมพานต์ที่ไม่นิยมนำมารับประทานเนื่องจากมีรสฝาด ที่ขายจะเป็นน้ำมะม่วงหิมพานต์แบบเข้มข้น เวลาทานจะใส่โซดานิดหน่อย อร่อยดี ![]()
มีป้ายบอกไว้ว่า เมล็ดมะม่วงหิมพานต์มี 10 ชนิด เราชอบแบบที่แปรรูปเป็นรสต่างๆ แล้ว รสต่างๆ ได้แก่ รสเค็ม อบเนย ช็อกโกแล็ต ขี้เมา ต้มยำ กาแฟ น้ำผึ้ง เคลือบงาและวาซาบิ วันนั้นชิมไปหลายรส ชอบขี้เมา ต้มยำและวาซาบิ อยากซื้อทุกรสเลย แต่เอาเข้าจริงซื้อมาแต่รสต้มยำ
นอกจากนี้ก็ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกเช่น น้ำพริิกกุ้งเสียบ น้ำแกงไตปลา ขนมต้าวส้อ เส้นหมี่ ฯลฯ ร้านนี้ทำธุรกิจเมล็ดมะม่วงหิมพานต์มายาวนานตั้งแต่ปี 2515 =.= ยังไม่เกิดเลย เริ่มจากคุณเมธีและคุณบุญมา จตุเมศเมธี สองสามีภรรยาจากการเป็นนายหน้ารับซื้อเมล็ดมะม่วง จนมาถึงรุ่นปัจจุบันคือคุณอาภา วราภิวัฒนกุล ที่พยายามจะสร้างแบรนด์เมธีตามแนวคิดที่ว่า "คิดถึงเม็ดมะม่วงหิมพานต์แล้วคิดถึงเรา"
ต้นมะม่วงหิมพานต์ที่ปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นต้นจริงๆ
มื้อกลางวันกันเราแวะทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนนึงซึ่งเป็นทางผ่าน เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดาๆ ไม่มีชื่อแต่ติดป้ายไว้ว่า บะหมี่เกี๊ยวเส้นทำเอง ถ่ายไว้ทุกมื้อเลย
ไหนๆ ถ่ายมาแล้วก็เอามาลงให้หมด
มีคนทานกันอยู่ประมาณ 2-3 โต๊ะ ตรงนี้เป็นที่นั่งด้านนอก ที่นั่งด้านในอยู่ทางซ้ายของรูป
สั่งก๋วยเตี๋ยวแห้งกันหมด มีเราสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำอยู่คนเดียว อันนี้คือบะหมี่เกี๊ยวแห้ง ผักจะมีทั้งผักกวางตุ้ง ผักกาดหอมและถั่วงอก ถั่วลิสงคั่วจะใส่ช้อนมา
ของก๋วยเตี๋ยวแห้งจะมีน้ำซุปมาให้ด้วย เห็นน้ำซุปแล้วอิจฉาคนทานก๋วยเตี๋ยวแห้ง พลาดไปแล้วเรา น่าจะสั่งตามผู้มีประสบการณ์
ชามนี้ของเรา บะหมี่เกี๊ยวน้ำ จะมีหมูแดง ส่วนที่ฉีกๆ มาไม่รู้หมูหรือไก่จำไม่ได้ มีแคบหมูด้วย เวลาเราทานบะหมี่เกี๊ยวเราจะไม่เติมเครื่องปรุง รสชาติก็พอใช้ได้ เส้นก็ OK มื้อนี้หมดไปคนละ 50 บาทรวมชาดำเย็น 1 แก้ว
หน้าร้านมีกล้วยทอดขาย แต่พอดีตอนนั้นกล้วยยังไม่สุก เลยซื้อจำปาดะทอดมา 20 บาท เวลาที่เราไปเที่ยว อะไรๆ ก็ดูแปลกไปหมด ทั้งที่จริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นของธรรมดา ที่อยู่กรุงเทพฯ หรือที่ไหนๆ ก็หาซื้อกินได้แค่ไปเดินตลาดนัด แถมอาจจะอร่อยกว่าด้วย แต่เพราะมันเป็นที่ที่เรามาเที่ยวกินในที่ไม่คุ้นเคย ก็เลยให้ความสนใจ ![]()
หน้าตาจำปาดะทอด น่ากินเหมือนกัน
ข้างในจะเป็นแบบนี้ เม็ดขนุนก็มันดี แต่ดูเหมือนสุกยังไม่ได้ที่ ก็อร่อยดี แต่แค่ 2 ชิ้นก็เลี่ยนแล้ว
ไปภูเก็ตเที่ยวนี้เสียค่ากินไปเยอะเหมือนกัน แต่ไหนๆ มาแล้วก็เต็มที่ ภูเก็ตมีของอร่อยเยอะมาก แค่นี้ยังทานไม่หมดเลย ถ้ามีโอกาสก็อยากไปอีก ^_^ ต้องบายๆ พากินในภูเก็ตด้วยอาหารมื้อกลางวันของ Post นี้ ไว้รอชม พาเที่ยวภูเก็ตต่อนะคะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ของ bombik ค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม น้ำมะม่วงหิมพานต์ ความเป็นมาร้านเมธีภูเก็ต





